เผยผลสำรวจสถานการณ์น้ำเมาเชียงใหม่
พบผู้กระทำผิดอื้อ วอนภาครัฐคุมเข้ม หวั่นมอมเมาเยาวชน
“เครือข่ายงดเหล้าภาคเหนือ” บุกศาลากลาง จ.เชียงใหม่ หอบผลสำรวจฟ้องรองผู้ว่าฯ อึ้ง สถานการณ์น้ำเมายังแรง แฉพบผู้ประกอบการ 37.90% เย้ยกฎหมายแอบขายให้เด็กอายุไม่ถึง 20 ปี ทำผิดโฆษณาพุ่ง 82.60 % จัดโปรโมชั่น ลด แลก แจก แถม เกลื่อน ด้านผู้ประสานงานฯ 17 จังหวัด งัดข้อเรียกร้องคุมเข้ม หวั่นบริษัทเหล้ายึดงานฤดูหนาว
วันนี้ (30 พ.ย.) ที่ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ เมื่อเวลา 09.00 น. นายธงชัย ยงยืน ผู้ประสานงานเครือข่ายงดเหล้าภาคเหนือตอนบน 17 จังหวัด พร้อมด้วย สำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า (สคล.) กว่า 100 คน เข้าพบ นางนฤมล ปาลวัฒน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อให้กำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ หลังจากเข้ารับตำแหน่งใหม่ รวมถึงยื่นจดหมายเปิดผนึก เพื่อเรียกร้องให้คุมเข้มมาตรการห้ามขาย ห้ามดื่ม ในวัด สวนสาธารณะ ขายให้เด็กอายุ 20 ปี และควบคุมการโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในจังหวัดเชียงใหม่
นายธงชัย ยงยืน ผู้ประสานงานเครือข่ายงดเหล้าภาคเหนือตอนบน กล่าวว่า จังหวัดเชียงใหม่ติดอันดับ 2 ของโลกเป็นเมืองท่องเที่ยวที่น่าสนใจที่สุด ทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ โดยเฉพาะในช่วงนี้ มีประชาชนเข้ามาท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น ซึ่งทางเครือข่ายฯ มีความกังวลต่อผลกระทบที่จะเกิดจากการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพราะนอกจากการทะเลาะวิวาท ปัญหาอาชญากรรมแล้ว ยังนำไปสู่การเกิดอุบัติเหตุ บาดเจ็บ พิการและเสียชีวิตได้
“หากดูจากข้อมูลที่เครือข่ายฯ ลงพื้นที่อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ สำรวจความคิดเห็นประชาชน เรื่อง “สถานการณ์การควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์” ระหว่างวันที่ 12–19 พ.ย. 2553 ในประชาชนอายุ 15 ปีขึ้นไป จำนวน 1,000 ราย พบว่า ส่วนใหญ่เห็นปัญหาการทำผิดละเมิดกฎหมายควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยยังพบเห็นปัญหาการละเมิดกฎหมายควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ทั้งขายในสถานที่ห้ามขาย คือ วัด ร้อยละ 24.53 และสวนสาธารณะ ร้อยละ 21.16 นอกจากนี้ ยังพบว่ามีการดื่มในสวนสาธารณะร้อยละ 26.25 และดื่มในวัด ถึงร้อยละ 27.14 ที่น่าเป็นห่วง คือ พบว่ามีการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์กับเด็กเยาวชน อายุไม่ถึง 20 ปี บ่อยจนกลายเป็นเรื่องปกติถึงร้อยละ 37.90 แต่พบเป็นบางครั้งมากถึงร้อยละ 54.20” นายธงชัยกล่าว
ผู้ประสานงานเครือข่ายงดเหล้าภาคเหนือตอนบน กล่าวต่ออีกว่า ทั้งนี้ผลสำรวจยังพบการโฆษณาประชาสัมพันธ์ที่ผิดกฎหมายพุ่งสูงถึงร้อยละ 82.60 โดยในจำนวนดังกล่าว เป็นการเจาะจงให้เห็นภาพผลิตภัณฑ์ของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ถึงร้อยละ 50.10 นอกจากนี้ยังพบว่า มีการจัดโปรโมชั่น ลด แลก แจก อีกแถมร้อยละ45.86 อย่างไรก็ตาม เมื่อถามถึงการรับรู้บทบาทของคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พบว่า ประชาชน เกือบครึ่ง หรือร้อยละ 46.50 ยังไม่รู้จักบทบาทหน้าที่ของคณะกรรมการฯ ส่วนประชาชนที่รู้จักบทบาทของคณะกรรมการฯ พบว่า มีความพึงพอใจมากถึงร้อยละ 63.90 สำหรับข้อเสนอแนะที่ต้องการให้คณะกรรมการดำเนินการ คือ เข้มงวดและคุมเข้มการบังคับใช้กฎหมาย การรณรงค์ประชาสัมพันธ์ข้อกฎหมาย การตรวจจับดำเนินคดีผู้กระทำผิด
“จากปัญหาที่เกิดขึ้น ทางเครือข่ายฯ ขอแสดงจุดยืนและข้อเสนอ 3 ข้อ เพื่อนำไปพิจารณา คือ 1.ขอแสดงความยินดีกับการเข้ารับตำแหน่งใหม่ และขอบคุณที่ทางจังหวัดได้ดำเนินการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มาอย่างต่อเนื่อง 2.ขอให้ทางจังหวัดรณรงค์ประชาสัมพันธ์ถึงพิษภัยจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ รวมทั้งสนับสนุนการบังคับใช้กฎหมาย เช่น สถานที่ห้ามขาย ห้ามดื่ม ในวัด สวนสาธารณะ และสถานที่ราชการ รวมทั้งการขายให้กับเยาวชนอายุต่ำกว่า 20 ปี และ 3.ขอเรียกร้องให้จังหวัดเชียงใหม่ จัดงานฤดูหนาวโดยปฏิบัติตาม พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 ไม่ให้มีการขายและดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในสถานที่ราชการ ห้ามโฆษณาที่ฝ่าฝืนกฎหมายและห้ามจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย ลด แลก แจก แถมทุกรูปแบบ” ผู้ประสานงานเครือข่ายฯ กล่าว
ด้าน นางนฤมล ปาลวัฒน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวภายหลังรับข้อเรียกร้องว่า ตนยินดีที่จะสนับสนุนข้อเสนอของเครือข่ายฯ และเต็มใจทำงานร่วมกัน โดยเฉพาะประเด็นงานเทศกาลฤดูหนาวของเชียงใหม่ ที่ต้องการให้ปลอดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ คงต้องนำเรื่องนี้ไปดำเนินการ เพราะที่ผ่านมา การจัดงานเทศกาลควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของเชียงใหม่ทำดีอยู่แล้ว อาทิ สงกรานต์ งานยี่เป็ง และผลการดำเนินงานก็เป็นที่น่าพอใจ ผลกระทบที่เกิดจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในงานลดลงอย่างเห็นได้ชัด คนมาเที่ยวงานมากขึ้น เพราะมั่นใจในความปลอดภัย ส่วนงานฤดูหนาวคงต้องเข้มงวดมากขึ้น เพราะเทศกาลที่ผ่านมาถือเป็นบทเรียนที่ดี จึงควรขยายผลไปสู่จังหวัดอื่นด้วยการประสานความร่วมมือเพื่อผลักดันเรื่องนี้ต่อไป
ที่มา : สำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า
update : 30-11-53
อัพเดทเนื้อหาโดย : ศิรินทิพย์ อิสาสะวิน
