เผยผลวิจัยนิทานจ๊ะเอ๋ ฉบับยาวี-ไทย กระตุ้นพัฒนาการเด็ก

ที่มา : สำนักข่าวสร้างสุข


ภาพประกอบจาก สสส.


สสส. เผยผลวิจัยนิทานจ๊ะเอ๋ ฉบับยาวี-ไทย กระตุ้นพัฒนาการเด็ก thaihealth


สสส. เผยผลวิจัยพบ "นิทานจ๊ะเอ๋ ฉบับยาวี-ไทย" สร้างพัฒนาการเด็กระดับมาก สัมพันธภาพครอบครัวระดับมากที่สุด เพิ่มพฤติกรรมเชิงบวกพ่อแม่ ไม่เล่นจ๊ะเอ๋-ไม่กอด-ไม่บอกรักลูกเป็น  0 เดินหน้ากระตุ้นสังคมเห็นความสำคัญพัฒนาการเด็ก ผุดนิทานอ่าน อาน อ๊าน หลังพบเด็กไทยพัฒนาการช้า 30% 


สสส. เผยผลวิจัยนิทานจ๊ะเอ๋ ฉบับยาวี-ไทย กระตุ้นพัฒนาการเด็ก thaihealth


นางสาวณัฐยา บุญภักดี ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนสุขภาวะเด็ก เยาวชน และครอบครัว สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า ช่วงอายุปฐมวัยตั้งแต่แรกเกิดจนถึง 6 ขวบ ถือเป็นเวลาทองในการส่งเสริมพัฒนาการของมนุษย์ ผลการสำรวจพบว่า ร้อยละ 30 มีพัฒนาการล่าช้า ส่งผลต่อระดับสติปัญญาและการเรียนรู้ สาเหตุจากการเลี้ยงดูที่ไม่ได้กระตุ้นพัฒนาการ ดังนั้น สสส. ร่วมกับ กระทรวงสาธารณสุข และภาคีเครือข่าย ดำเนินโครงการสิ่งเล็ก ๆ ที่สร้างลูกขึ้นเมื่อปี 2561 มีวัตถุประสงค์ในการกระตุ้นให้สังคมเห็นความสำคัญของพัฒนาการเด็ก จัดทำสื่อในรูปแบบต่าง ๆ อาทิ นิทานจ๊ะเอ๋ แอพพลิเคชั่นคุณลูก เว็บไซต์คุณลูก


สสส. เผยผลวิจัยนิทานจ๊ะเอ๋ ฉบับยาวี-ไทย กระตุ้นพัฒนาการเด็ก thaihealth


โดยในปีที่ผ่านมานิทานจ๊ะเอ๋มีการจัดทำเป็นภาษายาวี เพื่อใช้ในพื้นที่จังหวัดสามชายแดนภาคใต้ พบว่า ครอบครัวที่ร่วมโครงการมีการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม จากที่ไม่เคยเล่นจ๊ะเอ๋กับลูก ไม่เคยกอดและไม่เคยบอกรักลูกก็สามารถทำได้ดีขึ้น นอกจากนี้ สสส. ยังได้พัฒนาเครื่องมือตัวใหม่เพื่อส่งเสริมพัฒนาการของเด็กเล็ก เรียกว่านิทานส่งเสริมการอ่านแบบไล่ระดับ หรือ Leveled Book ในชื่อชุดหนังสือนิทาน อ่าน อาน อ๊าน จำนวน 30 เล่ม แต่ละเล่มจะเหมาะกับเด็กแต่ละวัยไล่เรียงตามอายุ ซึ่งเป็นการส่งเสริมพัฒนาการสมวัยของเด็ก


สสส. เผยผลวิจัยนิทานจ๊ะเอ๋ ฉบับยาวี-ไทย กระตุ้นพัฒนาการเด็ก thaihealth


นางสุดใจ พรหมเกิด ผู้จัดการแผนงานสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่าน สสส. กล่าวว่า จากการสำรวจ เรื่องผลของการใช้หนังสือนิทานจ๊ะเอ๋ (ฉบับยาวี-ไทย) ที่มีต่อพัฒนาการของบุตรก่อนวัยเรียน และความสัมพันธ์ในครอบครัว ตามบริบทสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยกลุ่มตัวอย่างเป็นผู้เข้าร่วมโครงการแม่รุ่นใหม่จาก  9  ตำบล ในพื้นที่  3  จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้แก่ จังหวัดยะลา ปัตตานี และนราธิวาส จำนวน  250  คน


สสส. เผยผลวิจัยนิทานจ๊ะเอ๋ ฉบับยาวี-ไทย กระตุ้นพัฒนาการเด็ก thaihealth


พบว่า ผู้ใช้หนังสือนิทานจ๊ะเอ๋เป็นเพศหญิง ร้อยละ  95.6  โดยเป็นแม่ ร้อยละ  82.4  มีอายุระหว่าง  30-39  ปี  ร้อยละ  41.5  มีจำนวนบุตร  3  คน ร้อยละ  28.8  มีบุตร  2  คน ร้อยละ  24.9  และมีบุตร  1  คน ร้อยละ  21.5  ส่วนใหญ่บุตรมีอายุระหว่าง  3-4  ปี  ร้อยละ  39.5  และอายุ  1-2  ปี  ร้อยละ  30.2 


      สสส. เผยผลวิจัยนิทานจ๊ะเอ๋ ฉบับยาวี-ไทย กระตุ้นพัฒนาการเด็ก thaihealth


นางสุดใจ กล่าวต่อว่า ส่วนใหญ่ใช้เวลาในการอ่านหนังสือนิทานในช่วงค่ำ ก่อนนอน หรือหลังเสร็จกิจกรรมต่าง ๆ ร้อยละ  44.9  สาเหตุสำคัญของการใช้ พบว่า หนังสือออกแบบได้น่าอ่าน รูปภาพสวยงามและน่าสนใจ ร้อยละ  56.1  หนังสือมีการแปลเป็นภาษายาวี ร้อยละ  39.5  หนังสือสอนวิธีการเล่นและดูแลลูกที่ถูกต้อง ร้อยละ  31.7 %  และเป็นการใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ ร้อยละ  30.2  ส่วนการประเมินผู้ปกครองหลังจากได้รับหนังสือนิทานจ๊ะเอ๋


สสส. เผยผลวิจัยนิทานจ๊ะเอ๋ ฉบับยาวี-ไทย กระตุ้นพัฒนาการเด็ก thaihealth


พบว่า ในเรื่องการเล่นจ๊ะเอ๋กับลูก หลังจากได้รับหนังสือนิทานจ๊ะเอ๋ มีการเล่นจ๊ะเอ๋กับรูปเพิ่มมากขึ้น ส่วนใหญ่เล่นจ๊ะเอ๋กับลูกทุกวัน ร้อยละ  61  เล่นจ๊ะเอ๋กับลูกบางครั้ง ร้อยละ  39  ไม่มีผู้ปกครองท่านใดที่ไม่เล่นกับลูก ในเรื่องกิจกรรมการกอดลูก หลังจากได้รับหนังสือนิทานจ๊ะเอ๋ มีการกอดลูกทุกวัน ร้อยละ  80.5  และไม่มีผู้ปกครองท่านใดไม่กอดลูก และในเรื่องการบอกรักลูก พบว่า มีการบอกรักลูกเพิ่มขึ้น ส่วนใหญ่บอกรักทุกวัน ร้อยละ  76.1  และไม่มีผู้ปกครองท่านใดที่ไม่บอกรักลูกหลังจากได้รับหนังสือ


สสส. เผยผลวิจัยนิทานจ๊ะเอ๋ ฉบับยาวี-ไทย กระตุ้นพัฒนาการเด็ก thaihealth


“ภาพรวมการใช้หนังสือนิทานจ๊ะเอ๋ มีผลต่อพัฒนาการลูกอยู่ในระดับมาก โดยเรียงลำดับตามระดับคะแนนสูงสุด  3  อันดับ คือ  1.เมื่อฉันกอดหรือเล่นกับลูกเขาจะสดใสและมีความสุข  2.ลูกของฉันอารมณ์ดีและมีนิสัยร่าเริง และ  3.เมื่อฉันคุยกับลูกเขาสามารถจ้องตา และมองหน้าฉันได้นาน ในส่วนการวิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับผลจากการใช้หนังสือนิทานจ๊ะเอ๋ มีต่อความสัมพันธ์ในครอบครัวอยู่ในระดับมากที่สุด


โดยสามารถเรียงลำดับตามระดับคะแนนสูงสุด  3  อันดับ คือ  1.หนังสือช่วยฉันใช้เวลากับลูกมากยิ่งขึ้น  2.หนังสือช่วยฉันมีความรู้เรื่องการเลี้ยงลูกที่ถูกต้อง และ  3.หนังสือช่วยให้ฉันต้องการพัฒนาตนเองด้านการดูแลลูก” นางสุดใจ กล่าว


สสส. เผยผลวิจัยนิทานจ๊ะเอ๋ ฉบับยาวี-ไทย กระตุ้นพัฒนาการเด็ก thaihealth


ทั้งนี้ ผู้สนใจนิทานสามารถดาวน์โหลดได้ที่ https://drive.google.com/file/d/1B3AnrA_I35uOvoJPyOnb9J_mOPaLqnKj/view


 

Shares:
QR Code :
QR Code

ใส่ความเห็น

ระบุข้อความ