‘เป็นหนึ่ง ไม่พึ่งยา’ ปี7 : 24 ชม. ก่อนฉันจะตาย

ที่มา: หนังสือพิมพ์แนวหน้า




แฟ้มภาพ


จากการที่สถิติเด็กเยาวชนเกี่ยวข้องกับยาเสพติดเพิ่มขึ้นและเริ่มใช้ยาเสพติดอายุน้อยลงเรื่อยๆ ถือได้ว่าเป็นเรื่องน่าห่วง และเพื่อเป็นการป้องกันแก้ไขปัญหา การสร้างค่านิยม "เป็นหนึ่ง โดย ไม่ต้องพึ่งยาเสพติด" ผ่านโครงการรณรงค์ ป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด TO BE NUMBER ONE ในทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี จึงเป็นกลไกสำคัญในการช่วยให้เด็กไทยห่างไกล จากพิษภัยของยาเสพติดได้เป็นอย่างดี


คณะเทคโนโลยีสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร ได้ร่วมกับ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จัดกิจกรรม ประกวดภาพยนตร์สั้น "เป็นหนึ่ง ไม่พึ่งยา" ชิงถ้วยประทานทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ครั้งที่ 7 โดยเปิดพื้นที่ ให้เด็กและเยาวชนได้ใช้ความสามารถแสดงออกในทางที่สร้างสรรค์ ในการสะท้อนความคิดของเด็กเยาวชนเกี่ยวกับ ยาเสพติด


สำหรับในปีนี้ ภาพยนต์สั้น เรื่อง "24 ชั่วโมงก่อนฉันจะตาย" จากทีมฝอยทอง โรงเรียนเบญจมราชูทิศ จ.จันทบุรี ได้รางวัลชนะเลิศโดย นายภัคชยศ จรัญชล ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนเบญจมราชูทิศ จ.จันทบุรี ตัวแทนจากทีมฝอยทอย เล่าถึง ที่มาของภาพยนตร์สั้นเรื่องนี้ไว้น่าสนใจว่า จากหัวข้อที่ได้รับ "เป็นหนึ่ง ไม่พึ่งยา" พวกเราจึงตั้งคำถามว่า หากไม่พึ่งยาแล้วเราจะพึ่งอะไร ซึ่งเรามองว่าการที่จะทำอะไรบางอย่างผิดพลาดไป ต้องเกิดจากการขาดสติ ซึ่งในช่วงเวลานั้นจะรู้สึกว่าเวลาผ่านไปรวดเร็วมาก รู้สึกตัวอีกทีเราก็ทำผิดพลาดไปแล้ว พวกเราจึงนึกถึงคนที่กำลังใกล้ตาย ที่กำลังมีความคิดว่าในขณะที่มีชีวิตอยู่นั้น ทำไมเราไม่ทำอะไรที่เป็นประโยชน์มากกว่านี้ ซึ่งกว่าจะคิดได้ทุกอย่างก็ย้อนกลับไปแก้ไขไม่ได้แล้ว จึงเป็นคำตอบว่า การพึ่งสตินั้นดีที่สุด



นายภัคชยศ บอกอีกว่า หนังสั้นเรื่องนี้เป็นแนวแฟนตาซี คอเมดี้ โดยให้ตัวละครที่ชื่อ ติ๋ม ก่อนที่เขาจะตายได้มีโอกาสทำให้ตัวเองกลับขึ้นมามีชีวิตอีกครั้ง ภายใต้เงื่อนไขอะไรบางอย่าง หนังสั้นเรื่องนี้จะสะท้อนให้เห็นถึงจุดจบของคนที่เสพยานั้นเป็นอย่างไร ในหนังจะเห็นว่าเพื่อนแต่ละคนของติ๋มตายเพราะว่ากินยาเกินขนาด เข้าโรงพัก เป็นโจร ติดยา เป็นบ้า คนดูจะเห็นโทษของยาเสพติด ดูแล้วมีกำลังใจในการที่จะเลิก และมีสติในการใช้ชีวิต ซึ่งหากเราได้ใช้ชีวิตอย่างมีสติแล้ว เชื่อว่า 24 ชั่วโมง สุดท้ายของชีวิตทุกคนนั้น จะไม่เป็นเหมือนอย่างติ๋มแน่นอน


อาจารย์อรรถการ สัตยพาณิชย์ คณบดีคณะเทคโนโลยีสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร กล่าวว่า จากความสำเร็จของโครงการประกวดภาพยนตร์สั้น "เป็นหนึ่ง ไม่พึ่งยา" ครั้งที่ 6 ได้รับการตอบรับจากน้องๆ มัธยมเป็นอย่างดี เพื่อเป็นการสานต่อกิจกรรม ในปีนี้ ทางคณะได้รับการสนับสนุนนจาก สสส. ที่เข้ามาร่วมจัดการประกวดขึ้น โดยทีม ที่ผ่านเข้ารอบจะต้องนำเสนอแนวคิดผลงาน ต่อคณะกรรมการจากแวดวงวิชาชีพสื่อสารมวลชน และคณะกรรมการตัดสินผู้เชี่ยวชาญด้านปัญหายาเสพติดจาก สสส. และที่สำคัญน้องๆ ยังได้เข้ารับอบรมด้านการสร้างเสริม สุขภาวะการป้องกัน และต่อต้านการแพร่ระบาดของยาเสพติด โดยมีผู้เชี่ยวชาญ สสส. มาให้ความรู้และวิธีการแก้ปัญหาอย่างถูกต้อง ซึ่งถือเป็นเวทีที่ส่งเสริมให้เยาวชนได้กล้าแสดงออก ได้ใช้ความคิดสร้างสรรค์ในการใช้สื่อและใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ นอกจากนี้ ยังได้เห็นมุมมองและแนวคิดเกี่ยวกับ ยาเสพติดของเด็กนักเรียน ที่สะท้อนผ่านภาพยนตร์สั้นอีกด้วย


             


นายพิริยะ ทองสอน ประธานมูลนิธิสื่อเพื่อเยาวชน โดยทำหน้าที่ขับเคลื่อนเรื่องการนำเสนอสื่อเพื่อเยาวชน ภายใต้การสนับสนุนของ สสส. กล่าวว่า รู้สึกภูมิใจและชื่นชมกับความสามารถของน้องๆ ที่รู้จักหยิบใช้สื่อให้เป็นประโยชน์ มาถ่ายทอดเรื่องราวปัญหายาเสพติด ผ่านภาพยนตร์สั้นได้อย่างน่าสนใจ ทำให้มองเห็นโทษของยาเสพติดได้อย่างชัดเจนและเข้าใจง่าย ทั้งนี้ ในปัจจุบันจะเห็นว่าสื่อนั้น มีทั้งข้อมูลด้านดีและไม่ดี แต่ที่มักเห็นในปัจจุบันนี้ องค์กรต่างๆ จะนำเสนอข้อมูลในด้านดีเพียงอย่างเดียว ไม่ได้นำเสนอให้เห็นด้านลบกันเสียเท่าไร จึงอยากให้มีสื่อสะท้อนข้อมูลในด้านที่ไม่ดีบ้าง เพราะเยาวชนควรจะต้องรับรู้ทั้งสองด้าน อย่างไรก็ตาม ก็เป็นหน้าที่หนึ่งของมูลนิธิ ที่จะต้องเป็นตัวกลางในการทำงานกับเยาวชนและภาคีเครือข่าย ซึ่งเราก็ได้ทำมาอย่างต่อเนื่อง


ถือเป็นอีกหนึ่งเวที ในการประกวดความคิดสร้างสรรค์ ของเยาวชนไทย ที่นอกจากจะได้เห็นความสามารถในการผลิตสื่อของเด็กไทยแล้ว เรายังได้เห็นมุมมองความคิดที่สะท้อนเกี่ยวกับปัญหายาเสพติดในแง่มุมต่างๆ ที่ทำให้ผู้ใหญ่อย่างเราต้องเก็บมาคิดต่อ


 


 

Shares:
QR Code :
QR Code