เปิดใจ ผู้จัดการ สสส. คนใหม่
“ดร.สุปรีดา” ผู้จัดการ สสส.คนใหม่ เปิดวิสัยทัศน์ นำ สสส. สู่องค์กรสร้างเสริมสุขภาพแบบมืออาชีพ เร่งทำงานตอบโจทย์-สร้างเข้าใจสังคม
แฟ้มภาพ
เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2559 ที่อาคารศูนย์เรียนรู้สุขภาวะ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.) ดร.สุปรีดา อดุลยานนท์ ผู้จัดการกองทุน สสส. แถลงข่าวถึงแนวทางการบริหารองค์กรภายหลังเข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการว่า ในยุคแรกของการทำงานสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพของ สสส. เมื่อ 13 ปีที่ผ่านมา คำว่า “การสร้างเสริมสุขภาพ” ยังเป็นเรื่องใหม่ของประเทศไทย ไม่มีต้นแบบการทำงานที่ชัดเจน หรือแม้องค์กรลักษณะใกล้เคียงกันในต่างประเทศ ก็มีรูปแบบการทำงานที่แตกต่างกับบริบททางสังคมไทย
ดังนั้น สสส. ในยุคแรกจึงเป็นยุคแห่งการแสวงหาทั้งแนวทาง และรูปแบบการทำงานสร้างเสริมสุขภาพที่มีประสิทธิภาพและเหมาะสมกับบริบทไทย ซึ่งจากการสั่งสมประสบการณ์ เรียนรู้การทำงานสร้างเสริมสุขภาพร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและภาคีเครือข่าย จนถึงปัจจุบันเกิดเป็นต้นแบบงานสร้างเสริมสุขภาพที่มีหลักเกณฑ์การทำงานที่สอดคล้องกับสภาพจริงของบ้านเรา ดังนั้น สสส. ในยุคต่อไปจึงเป็นยุคของการก้าวสู่ความเป็นมืออาชีพด้านการสร้างเสริมสุขภาพ
ผู้จัดการ สสส. กล่าวอีกว่า จากสถานการณ์ปัจจุบัน สสส. มีโจทย์ที่ท้าทายการทำงาน และต้องให้คำตอบต่อสังคมได้รับรู้และเข้าใจใน 4 ข้อ คือ 1.เข็มทิศของเป้าหมายหลักตามยุทธศาสตร์ “ผู้สนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ” ที่จะต้องคมชัดเป็นระบบยิ่งขึ้น เพื่อให้สังคมเข้าใจนิยามเชิงปฏิบัติการและองค์ความรู้ต่างๆ ของ สสส. 2. พัฒนากระบวนการทำงานแบบองค์กรมืออาชีพ 3. พัฒนาวัฒนธรรมองค์กร หรือคุณค่าหลักของ สสส. ในการเป็นผู้สร้างเสริมสุขภาวะอย่างสร้างสรรค์ ที่จะต้องแปลคุณค่านี้ไปสู่แนวปฏิบัติและทักษะของบุคลากร และ 4. สร้างการยอมรับจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสียและสังคม ได้ตระหนักว่า สสส. เป็นองค์กรที่ยึดมั่นในธรรมาภิบาล ซึ่งเป็นสิ่งที่ตนยึดถือตลอดระยะเวลาการทำงานและถือเป็นหัวใจสำคัญที่ได้ย้ำกับเจ้าหน้าที่ สสส.ทุกคนว่า ต้องปฏิบัติงานด้วยความซื่อสัตย์สุจริต รวมทั้งการประเมินผลงานและความคุ้มค่าให้เป็นที่ประจักษ์
“ที่ผ่านมา สสส.สามารถสื่อสารให้สังคมได้เข้าใจความสำคัญของการสร้างเสริมสุขภาพได้ในระดับหนึ่ง ในหลายการสื่อสารรณรงค์ของ สสส. นำมาสู่การเปลี่ยนแปลงและเป็นที่รู้จักในสังคม แต่ก็มีหลายประเด็นที่สังคมยังไม่เข้าใจเพียงพอหรือเข้าใจผิด สสส. โดยเฉพาะเกี่ยวกับความเข้าใจในรูปแบบและกระบวนการทำงานขององค์กร มีความโปร่งใส ตรวจสอบได้หรือไม่ มีผลงานและเกิดความคุ้มค่าหรือไม่ ซึ่งเป็นประเด็นที่ท้าทายการทำงานของ สสส. ที่จะต้องทำให้สังคมเกิดความเข้าใจในประเด็นเหล่านี้ให้ได้ พร้อมๆ กับที่ สสส. เองก็จะรับฟัง รับรู้ความคิดเห็นและความต้องการของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียและสังคมโดยรวมอย่างจริงใจด้วย” ดร.สุปรีดา กล่าว
ที่มา : สำนักข่าวสร้างสุข