เปิดหลักสูตรกู้ชีพให้นักเรียน

ที่มา : หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์


ภาพประกอบจากแฟ้มภาพ


เปิดหลักสูตรกู้ชีพให้นักเรียน thaihealth


กทม.-สพฐ.-สสส.จับมือร่วมเสริมทักษะกู้ชีพให้นักเรียน ประสานโรงเรียนเปิดหลักสูตร คาดหวังเด็กตกอยู่ในภาวะฉุกเฉิน นำความรู้ที่ได้ช่วยชีวิตคนอื่นได้อย่างปลอดภัย


นพ.พิชญา นาควัชระ รอง ปลัดกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า การส่งเสริมให้เยาวชนมีความรู้ในเรื่องการช่วยเหลือผู้ป่วยฉุกเฉิน รวมถึงการป้องกันตนเองให้ปลอดภัยจากโรค ในโครงการส่งเสริมและป้องกันไม่ให้คนไทยเจ็บป่วยฉุกเฉิน เป็นเรื่องที่ดี การส่งเสริมให้เยาวชนสามารถช่วยเหลือผู้ป่วยฉุกเฉิน เช่น การทำ CPR การร้องขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ควรจะถูก บรรจุเป็นหลักสูตรการศึกษาเลยในทุกชั้นปี แต่กระบวนการเรียนการสอนจะต้องมีความแตกต่างและเหมาะสมกับทุกช่วงวัย ควรปลูกฝังเรื่องดังกล่าวตั้งแต่เด็ก ส่วนการฝึกลงมือปฏิบัติอาจจะเริ่มการฝึกเมื่ออยู่ในชั้นมัธยมปลาย การปลูกฝังให้เด็กมีวินัยที่จะดูแลสุขภาพตนเองให้แข็งแรง รู้จักออกกำลังกายอย่างเหมาะสม เพื่อป้องกันไม่ให้ตนเองเจ็บป่วยเป็นโรค เนื่องจากปัจจุบันเด็กในวัยเรียนอยู่ในภาวะอ้วนเป็นจำนวนมากหากไม่มีการควบคุมหรือลดน้ำหนัก เมื่อโตไปเด็กเหล่านี้อาจจะเป็นโรคข้อเสื่อม เบาหวาน ความดันโลหิตสูง


นายธีร์ ภวังคนันท์ ผู้อำนวยการศูนย์เฉพาะกิจคุ้มครอง และช่วยเหลือเด็กนักเรียน สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) กล่าวว่า การอบรมให้เยาวชนมีความรู้เรื่องการช่วยเหลือตนเองและผู้อื่นในภาวะ ฉุกเฉินเป็นเรื่องที่จำเป็นมาก เห็นด้วยที่ควรจะฝึกให้เยาวชนมีความรู้ อยากให้มีทีมที่สามารถจัดการกับสถานการณ์ฉุกเฉินได้อยู่ในโรงเรียนและสถานที่ต่างๆ เหมือนกับมีเจ้าหน้าที่มูลนิธิกู้ชีพฉุกเฉินอยู่ในโรงเรียน


เรื่องการช่วยเหลือผู้ป่วยหรือปฐมพยาบาลในหลักสูตรการศึกษาของเรามีอยู่แล้ว แต่ชั่วโมงเรียนยังน้อยอยู่ หากมีการผลักดันให้อยู่ในหลักสูตรการศึกษาก็จะเป็นเรื่องที่ดี เลขาฯ สพฐ.มีความเอาใจ ใส่ในเรื่องของอันตรายที่จะเกิด ขึ้นกับเด็กเป็นอย่างมาก โดยให้ออกสำรวจเลยว่าในแต่ละปีเด็ก ได้รับอันตรายจากเรื่องใดบ้าง เช่น จมน้ำ ซึ่งหากจะมีการเรียนการสอนเรื่องการกู้ชีพในภาวะฉุกเฉินได้จะเป็นเรื่องราวดีๆ ที่จะเกิดขึ้นในสังคมไทย


คุณหญิงเดือนเพ็ญ พึ่งพระ เกียรติ คณะกรรมการด้านยุทธ ศาสตร์ โครงการส่งเสริมและป้อง กันคนไทยไม่ให้เจ็บป่วยฉุกเฉิน สมาคมเวชศาสตร์ฉุกเฉินแห่งประ เทศไทย กล่าวว่า ในการประชุมเชิงนโยบายการศึกษาเพื่อให้เด็กไทยรู้รอดปลอดภัยในโครงการดังกล่าว จะจัดขึ้นในวันที่ 26 พ.ค. ที่โรงแรมเซ็นจูรี่ พาร์ค กทม. นับว่าเป็นโอกาสที่ดีที่ทางโครงการจะมีการต่อยอดและขับเคลื่อนในเชิงนโยบาย โดยมีกระทรวงศึกษาธิการสนับสนุนให้โรงเรียนทั้งจากสังกัดสำนักปลัดกระทรวงศึกษา คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) และสังกัด กทม.เข้าร่วมประชุมในครั้งนี้ ซึ่งคาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมการประชุมมากกว่า 400 คน โดยได้รับเกียรติจาก รศ.นพ.โศภณ นภาธร ผู้ช่วยรัฐมนตรีประ จำกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ให้ เกียรติเป็นประธานเปิดงาน โครง การนี้ได้รับการสนับสนุนจากกอง ทุนสนับสนุนและสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เพื่อหวังให้เกิดการป้องกันมากกว่าการรักษาโรค

Shares:
QR Code :
QR Code

ใส่ความเห็น

ระบุข้อความ