เปิดพื้นที่สร้างสรรค์ “พิพิธภัณฑ์เด็ก”

เปิดพื้นที่สร้างสรรค์ “พิพิธภัณฑ์เด็ก”

 

          “พิพิธภัณฑ์เด็กกรุงเทพมหานคร”แหล่งเรียนรู้ที่ช่วยเติมเต็มความคิดสร้างสรรค์และจินตนาการของเด็กๆ ให้เกิดพัฒนาการอย่างสมวัย โดยเปิดให้เข้าชมตั้งแต่ปี 2544 จนกระทั่งถึงเวลาที่ต้องปรับปรุงโฉมใหม่เพื่อให้สอดคล้องกับยุคสมัยแห่งการเรียนรู้ และในระยะเวลาอันใกล้นี้ เด็กๆ ชาว กทม. ทุกคนจะได้สัมผัสกับพิพิธภัณฑ์เด็กรูปแบบใหม่ที่ตอบสนองทุกจินตนาการ

 

          สมศักดิ์ จันทวัฒนา ผู้อำนวยการสำนักวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยว กรุงเทพมหานคร (กทม.) ในฐานะผู้ให้การสนับสนุนการจัดการศึกษาและการสร้างสังคมแวดล้อม ให้ความเห็นว่า การส่งเสริมให้เด็กและเยาวชนเป็นผู้มีจิตสร้างสรรค์(Creative Mind) ได้นั้น จำเป็นต้องมีแหล่งเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพในการบ่มเพาะและส่งเสริมศักยภาพ เพื่อกระตุ้นให้เด็กเกิดกระบวนการคิดอย่างสร้างสรรค์และเป็นระบบ

 

          “การเรียนรู้เป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับมนุษยชาติ เพราะการเรียนรู้ช่วยให้มนุษย์สามารถพัฒนาความคิด พัฒนาตนเอง พัฒนาสังคม ไปจนถึงพัฒนาประเทศให้ก้าวสู่ความเป็นอารยชนได้ ซึ่งการเรียนรู้ที่เหมาะสมกับการก้าวทันโลกยุคปัจจุบันนั้นเด็กและเยาวชนเป็นทรัพยากรบุคคลอันสำคัญที่ควรได้รับการปลูกฝังและพัฒนาให้เป็นผู้มีจิตสร้างสรรค์” สมศักดิ์ ระบุ

 

          สมศักดิ์ กล่าวว่า ปัจจัยที่มีส่วนเกื้อหนุนให้เกิดพัฒนาการที่ดีของเด็กๆ ต้องประกอบด้วยความร่วมมือจากหลายฝ่าย ได้แก่ การอบรมเลี้ยงดูจากพ่อแม่ ผู้ปกครอง สถานศึกษา สภาพสังคมแวดล้อม และหนึ่งในแหล่งเรียนรู้ที่เด็กๆ ในพื้นที่กทม. สามารถเข้าถึงได้ง่ายและใกล้ตัวคือ  พิพิธภัณฑ์เด็กกรุงเทพมหานคร เขตจตุจักร ซึ่งเปิดโอกาสให้เด็กและเยาวชนสามารถเข้าไปสัมผัส จับต้องและทดลองด้วยตัวเอง เพื่อเสริมสร้างประสบการณ์สร้างสรรค์ทางความคิดได้โดยเป้าหมายสำคัญคือ “คิดเป็น-คิดดี-คิดสร้างสรรค์”

 

          ปัจจุบัน กทม. ได้ปรับปรุงพิพิธภัณฑ์เด็กให้มีความสอดคล้องกับแนวทางการพัฒนาเมืองสู่ความเป็นมหานครแห่งการเรียนรู้อย่างยั่งยืน ภายใต้แนวคิด “Learning  For Young  Creative  Mind” โดยมีการศึกษาวิเคราะห์แนวทางการเสริมสร้างให้เด็กเกิดกระบวนการคิดอย่างสร้างสรรค์และเหมาะสมกับช่วงวัยการเรียนรู้

 

          ภายในพิพิธภัณฑ์เด็กโฉมใหม่ได้มีการจัดแบ่งพื้นที่นิทรรศการออกเป็น 3 ช่วงวัยประกอบด้วย ช่วงอายุ 1-3 ปี 4-6 ปี และ7-12 ปี โดยพื้นที่ในทุกตารางเมตรจะได้รับการจัดสรรให้เกิดประโยชน์สูงสุด การออกแบบนิทรรศการแต่ละชุดจึงสามารถตอบสนองการพัฒนาจิตสร้างสรรค์ได้อย่างสอดคล้องต่อเนื่อง ทำให้เกิดการเรียนรู้อย่างมีระบบ

 

          ด้าน นพ.อุดม เพชรสังหาร ผู้เชี่ยวชาญด้านพัฒนาการสมองและการเรียนรู้ จากบริษัท รักลูกกรุ๊ป ในฐานะผู้บริหารจัดการพื้นที่นิทรรศการภายในพิพิธภัณฑ์เด็ก กล่าวว่า สังคมปัจจุบันมีความจำเป็นต้องใช้จิตสร้างสรรค์ในการแก้ปัญหา เพราะสังคมมีการปรับเปลี่ยนอย่างรวดเร็ว ทำให้ชีวิตบางด้านมีความสะดวกสบายขึ้น แต่บางด้านกลับมีปัญหามากกว่าแต่ก่อน ทำให้ต้องพบปัญหาใหม่ๆ อยู่เสมอ ดังนั้นโลกจึงต้องการวิธีคิดแบบใหม่ในการแก้ปัญหา

 

          นพ.อุดม บอกว่า วิธีคิดแบบใหม่จะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อมีความรู้ใหม่และมีความสามารถในการสร้างความรู้ใหม่ ซึ่งต้องเริ่มเพาะบ่มตั้งแต่วัยเยาว์และสร้างประสบการณ์และทักษะในการค้นหาความรู้ใหม่ๆด้วยตัวเอง

 

          “ความคิดสร้างสรรค์เป็นสิ่งที่มีอยู่โดยธรรมชาติในทุกคน เพียงแต่จะต้องฝึกฝนให้แข็งแรงอยู่เสมอ เพราะหากไม่ฝึกฝนและหมั่นใช้อยู่เสมอ ทักษะนี้ก็จะเสื่อมถอยไป ซึ่งเด็กๆ ทุกคนมีกระบวนการคิดอย่างสร้างสรรค์ที่แฝงอยู่ในตัวตามธรรมชาติ”

 

          นพ.อุดม สรุปไว้ว่า หลักการในการส่งเสริมและกระตุ้นให้เด็กมีจิตสร้างสรรค์ประกอบด้วยกระบวนการเรียนรู้ 8 ส. ได้แก่สงสัย สำรวจ สังเกต สัมผัส สรุปผล สร้างสรรค์ สื่อสาร และสั่งสม

 

          ด้วยหลักการนี้เองจึงมีการนำมาประยุกต์ใช้กับการออกแบบนิทรรศการภายในพิพิธภัณฑ์เด็ก โดยแบ่งพื้นที่กิจกรรมออกเป็น 3 ช่วงวัย เช่น วัย 1-3 ปีนำเสนอผ่าน “โซนสวนหลังบ้าน”

 

          (Big Backyard) ด้วยการจำลองสิ่งมีชีวิตนานาชนิดไว้ให้เด็กได้ใช้ประสาทสัมผัสในการสำรวจ เสียง รูปทรง และพื้นผิว ให้เด็กเกิดการได้ยิน มองเห็น และสัมผัส ช่วงวัย 4-6 ปี”โซนเมืองสายรุ้ง”

 

          (Rainbow Town) เป็นการจำลองบทบาทสมมติให้เด็กลองเล่นในรูปแบบของอาชีพต่างๆ เพื่อให้เกิดการเข้าใจบทบาทของผู้อื่นและเข้าใจจิตใจของผู้อื่นพร้อมทั้งมีเครื่องเล่นปีนป่ายในบรรยากาศธรรมชาติ

 

          ขณะที่ช่วงวัย 7-12 ปี จะมี”โซนโลกทดลองแสนพิศวง”

 

          ได้แก่ บริเวณชั้น 1 การเรียนรู้ธรรมชาติและวิทยาศาสตร์รอบตัวชั้น 2 เปิดมุมมองใหม่ในการมองเห็นตัวเองผู้อื่น และสิ่งรอบตัว ชั้น 3 เป็นพื้นที่แห่งการแสดงออก ให้เด็กได้ลงมือสร้างสรรค์สิ่งต่างๆ ตามจินตนาการ

 

          พิพิธภัณฑ์เด็กกรุงเทพมหานครประกอบด้วยอาคารจัดแสดงนิทรรศการ 3 หลัง รวมพื้นที่กว่า 7,000 ตารางเมตร นอกจากนี้ ยังมีพื้นที่ลานกิจกรรมและสันทนาการนอกอาคารกว่า 3,000 ตารางเมตร โดยผู้อำนวยการสำนักวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยว ระบุว่า หลังจากการปรับปรุงพิพิธภัณฑ์เสร็จสิ้นแล้ว คาดว่าจะทยอยเปิดให้เด็กๆ เข้าใช้บริการได้ในเดือน พ.ย.ปีนี้จากนั้นจะเปิดให้บริการเต็มรูปแบบประมาณกลางปี 2554

 

 

 

 

 

ที่มา: หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์

 

 

Update:04-10-53

อัพเดทเนื้อหาโดย : ณัฏฐ์ ตุ้มภู่

Shares:
QR Code :
QR Code