เปิดบ้าน 15 ปีเส้นทางสร้างสุขภาพ สสส.
ที่มา : หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ
ภาพประกอบจากแฟ้มภาพ
สำนักงานกองทุนสนับสนุน การสร้างเสริมสุขภาพ หรือ สสส. คืออีกหนึ่งองค์กรที่เกิดขึ้นด้วยจุดยืนที่เชื่อว่า "สุขภาพ" เป็นรากฐานสำคัญที่นำมาซึ่งการมีคุณภาพชีวิตและความสุขของคนไทย โดยขับเคลื่อนสร้างเสริมสุขภาพที่ สสส.นิยามว่า "สุขภาวะ" ร่วมกับภาคีเครือข่ายกว่า 15,000 องค์กร นับเนื่องจากก้าวแรก จนมาถึงปัจจุบัน
ดร.ประกาศิต กายะสิทธิ์ ผู้ช่วยผู้จัดการกองทุน สสส. เอ่ยถึงการก่อตั้ง สสส. เมื่อสิบห้าปีที่แล้วว่า ในเวลานั้น การนำแนวคิดเรื่องกลไกการบริหารจัดการ ที่แยกจากการบริการด้านสุขภาพกับงานสร้างเสริมสุขภาพออกมาอย่างชัดเจนมาใช้ในประเทศไทย ค่อนข้างเป็นแนวคิดใหม่และน้อยคนนักที่จะเข้าใจบทบาทของ สสส.
"ช่วงสิบปีแรกเป็นการสำรวจ ค้นหาตัวตน วิธีการทำงานของ สสส. ช่วงที่สอง ในสิบปีต่อมา เป็นช่วงที่ก้าวสู่การเปลี่ยนแปลงมากมาย ซึ่ง สสส. มีเป้าหมายที่วางไว้คือเราต้องการ พัฒนาตนเองสู่การทำงานแบบ มืออาชีพ" ดร.ประกาศิต กล่าว
และอธิบายต่อว่า งานของ สสส.นั้นมีความแตกต่างกับหน่วยงานด้านการให้ความรู้ อาทิ กระทรวงสาธารณสุขหรือกระทรวงศึกษา เพราะเป้าหมายสำคัญของ สสส.คือการสร้างความเปลี่ยนแปลง จึงจำเป็นต้องมีการนำไปปฏิบัติ แต่ขณะเดียวกัน ในการทำงานสร้างความเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมด้านสุขภาพนั้นมีสองลักษณะ ลักษณะแรกที่คือการเปลี่ยนแปลงด้านพฤติกรรมของคน สองคือการเปลี่ยนแปลงด้านสิ่งแวดล้อม
"ในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม บางอย่างเป็นสิ่งที่สามารถเปลี่ยนได้เลย ซึ่งจะเห็นได้จากแคมเปญต่างๆ ที่ สสส. ได้พยายามผลักดันสร้างกระแสในสังคม เช่น ให้เหล้าเท่ากับแช่ง สวดมนต์ข้ามปี แข่งเรือปลอดเหล้า แต่ในบางการเปลี่ยนแปลง ต้องอาศัยปัจจัยการปรับสภาพแวดล้อมด้วยถึงจะเกิดความยั่งยืน เช่น รอบสถาบัน การศึกษาซึ่งขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เป็นสิ่งที่ไม่สามารถทำได้ทันที จะต้องมีกลไกการทำงานที่หลากหลายมาร่วมผลักดัน ซึ่งต้องใช้เวลาพอสมควร"
บทบาทงานส่งเสริมสุขภาพต่อเนื่องของ สสส. ปฏิเสธไม่ได้ว่ามีความเกี่ยวข้องกับทุกคนและทุกระดับ ไม่ว่าจะเป็น กลุ่ม พี่น้องที่อยู่ชายขอบ หรือลุงป้าน้าอาในตำบลห่างไกลความเจริญ หรือคนไทย ตัวเล็กๆ ซึ่งอยู่ในมุมหนึ่งของสังคมไทย ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม แต่แม้นาทีนี้แทบไม่มีคนไทยคนไหน ที่ไม่รู้จักชื่อของ "สสส."
หากจะมีกี่คนที่รู้มากน้อยแค่ไหนว่า จริงๆ แล้ว สสส ทำอะไรมาบ้าง?
ครบรอบ 15 ปี คราวนี้ สสส. จึงเปิดศูนย์เรียนรู้สุขภาวะในซอยงามดูพลี และหลายพื้นที่ในประเทศไทยบอกเล่าเรื่องราวงานสร้างเสริมสุขภาพ ในวันที่กำเนิด สสส. ครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2544 จนถึงปัจจุบัน
"การเดินทางของความสุข" จึงเป็นชื่อของกิจกรรมที่จะเรียงร้อยเนื้องานตลอดสิบห้าปีที่ร่วมกับองค์กรทุกภาคส่วนกว่า 1,000,000 ชีวิตทั่วประเทศ ตั้งแต่การเปิดพื้นที่สร้างเสริมสุขภาพให้ทุกคน ติดอาวุธให้ทำงานในระบบบริการสุขภาพ สร้างต้นแบบการสร้างเสริมสุขภาพระดับโลก เสริมแรงบันดาลใจและพลังสังคม ฯลฯ
"ครบรอบสิบห้าปี สสส.จึงมีภาพที่เราอยากสะท้อนไปให้กับสังคมได้รับทราบ ซึ่งก็คือการให้ความรู้ความเข้าใจในเรื่องการส่งเสริมสุขภาพแบบวงกว้าง ที่เราเรียกว่า "ซ่อมนำสร้าง" ซึ่งทุกคนจะได้เห็นรูปธรรมตรงนั้นในงานนี้"
โดยผู้ช่วยผู้จัดการ สสส. ยังเล่าถึง รูปแบบงานซึ่งจะเกิดขึ้นตลอดปีนี้ว่า ภายใต้แนวคิด "การเดินทางของความสุข" มีการแบ่งเป็นสามส่วน ส่วนแรก คือ การจัดพื้นที่นิทรรศการเพื่อบอกบอกเล่าเรื่องราวการทำงาน สสส. โดยทำเลหลัก คือพื้นที่ชั้น 1 และ 2 ของอาคารศูนย์เรียนรู้สุขภาวะ สสส. ที่ถูกปรับให้เป็นส่วนนิทรรศการ หมุนเวียนต่อเนื่อง ส่วนที่สอง คือ นิทรรศการเคลื่อนที่ ที่จะมีการหมุนเวียนจัดไปยังพื้นที่ต่างๆ ที่สนใจ เพื่อสร้างความเข้าใจการทำงานสร้างเสริมสุขภาพในมุมกว้างของ สสส. และ ภาคีเครือข่าย ส่วนที่สาม คือ กิจกรรมงานโอเพ่นเฮาส์ หรือเปิดบ้าน สสส. ที่กำลังจะมีขึ้นในวันที่ 3 สิงหาคม นี้ ณ อาคารศูนย์เรียนรู้สุขภาวะ สสส. ซึ่งยังเป็นเสมือนการดีเดย์กิจกรรมทั้งหมดที่จะเกิดขึ้นในชื่อว่า "15 ปี สสส.การเดินทางของความสุข"
นอกเหนือจากกิจกรรมด้านพิธีการ กิจกรรมภายในงาน ยังประกอบไปด้วย นิทรรศการ "การเดินทางของความสุข" นิทรรศการที่จะเล่าเรื่องราวการเดินทางของ สสส. ตลอดระยะเวลา 15 ปีที่ผ่านมา อีกกิจกรรมน่าสนใจคือการนำเสนอ ประสบการณ์อุปสรรค การก้าวข้ามอุปสรรค และสร้างแรงบันดาลใจ เพื่อนำเสนอให้เห็นคุณค่าของคนทำงานด้านการสร้างเสริมสุขภาวะ ผ่าน "ThaiHealth's Talk"
ถามถึงนิทรรศการใดไม่ควรพลาดงานนี้ หนึ่งในนิทรรศการซึ่งแบ่งออกเป็นทั้งหมด 7 โซน ต่างทำหน้าที่เป็นภาพสะท้อนให้เห็นความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในสังคม จากช่วงก่อนและหลังการมี สสส. ในสังคมไทย ที่สมบูรณ์แบบ
"Before After 15 Big change" น่าจะเป็นหนึ่งในไฮไลต์ที่สรุปภาพและบทเรียนของการเปลี่ยนแปลงสำคัญๆ จนสามารถพลิกมิติทางสังคมของ สสส. ได้ดีที่สุด เป็น 15 เรื่องที่เราคุ้นเคยกันดี อาทิ เล่าเรื่องเหล้า ปอดปลอดโปร่ง ตั้งสติ ก่อนสตาร์ท ขยับบ่อยๆ ดีที่สุด สุขภาพดีตามวิถีชุมชน ความแตกต่างไม่ใช่ข้อจำกัด สวดมนต์ข้ามปี เป็นต้น
"การเดินทางของความสุข" คือการรวบรวม ประสบการณ์ ผลงาน และการเปลี่ยนแปลงแต่ละยุคของพัฒนาการงาน สร้างเสริมสุขภาวะเอาไว้ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน ตามด้วยการเล่าเหตุการณ์ผ่าน Timeline ในห้วงเวลา 15 ปี ที่ผ่านมา ซึ่งมีจุดเปลี่ยนการเปลี่ยนแปลงที่ แตกต่างกันไป
การตลาดเพื่อสังคม คือ นวัตกรรมการขับเคลื่อนงานเปลี่ยนพฤติกรรมสังคมผ่านกลยุทธ์การสื่อสาร ที่ได้กลายเป็นค่านิยมเชิงบวกที่เกิดขึ้นมากมายในสังคมไทย มากกว่า 150 แคมเปญ อาทิ "ให้เหล้า = แช่ง" "แกว่งแขน ลดพุง ลดโรค" "วิสัยทัศน์อุโมงค์" ได้กลายมาเป็นส่วนหนึ่งของสังคมไทย
ส่วนแนวคิดไตรพลัง และ Working Model Health Promotion คืออีกมุมมองที่ถ่ายทอดบทบาทการทำงานของ สสส.ที่ทำหน้าที่เป็นเสมือน "น้ำมันหล่อลื่น" หรือจุดประกายประเด็นสุขภาพ เวลาดูที่ภาพเนื้องานที่ออกมา แล้วมองสะท้อนกลับไปว่าเราทำงานอย่างไร เป็นเรื่องยาก (Working Model)"
นอกจากนี้ ยังมีการนำเสนอนิทรรศการโชว์เคส ผลงาน "นวัตกรรมสร้างเสริมสุขภาพ" ที่เกิดจากผลการทำงานของ สสส. ร่วมกับภาคีเครือข่าย ตลอด 15 ปีที่ผ่านมา ซึ่งจะได้เห็นทั้งชิ้นงาน และกิจกรรมด้านการสร้างเสริมสุขภาวะที่ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างเป็นรูปธรรม และสามารถเป็นแนวคิด แนวทางให้ผู้เข้าชม นำไปปรับใช้ได้
อาทิ Organic Station (ปลูก ปรุง เปลี่ยน) การพัฒนารูปแบบช่องทางการเชื่อมโยงผักผลไม้อินทรีย์ สู่ผู้บริโภคด้วยการสร้างออร์แกนิก สเตชั่นให้ครอบคลุมพื้นที่เมืองหลวง เพื่อช่วยกระจายผักผลไม้ที่ปลอดภัย ปราศจากสารเคมีตกค้าง ให้กับกลุ่มผู้บริโภคในเมืองสามารถเข้าถึง ได้ง่าย สะดวก และมีราคาเป็นธรรม, พัฒนาผู้สูงอายุพฤฒิพลัง (Active aging) ชุดความรู้ และเครื่องมือการพัฒนาศักยภาพ เพื่อเป็นผู้สูงอายุที่มีคุณภาพผ่านกระบวนการ เรียนรู้ในรูปแบบโรงเรียนผู้สูงอายุ และเครื่องมือในการช่วยให้ผู้สูงอายุเกิดกระบวนการพัฒนาศักยภาพตนเองได้อย่างต่อเนื่องเหมาะสม ด้วยกัน (2gether) นวัตกรรมและการสื่อสารสังคม ผ่านกระบวนการการออกแบบอุปกรณ์ กิจกรรม และสภาพแวดล้อม เพื่อสร้างสรรค์สังคม ที่คนพิการและคนไม่พิการอยู่ร่วมกันได้อย่าง มีความสุข ซึ่งเริ่มจากการสร้าง "ความเป็นเพื่อน" ที่เข้าใจกันและอยู่ร่วมกันได้อย่างเท่าเทียมผ่านการทำกิจกรรมทางสังคมร่วมกันพลิกมุมมองเรื่องเพศ คุยกับลูกเชิงบวก เรียนรู้นวัตกรรมที่ช่วยในการสื่อสารเรื่องเพศ "เชิงบวก" เพื่อปรับทัศนคติต่อเรื่องเพศและ สร้างสังคมที่มีสุขภาวะทางเพศ เป็นต้น
15 ปีที่ผ่านมา ไม่เพียง สสส. ปลุกกระแส ความตื่นตัวเรื่องสุขภาพทั้งระดับบุคคลและสังคม แต่ในระหว่างทาง ยังเป็นกลไกที่ช่วยจุดประกาย "พลังของคนเล็กๆ" สร้างบุคลากรคุณภาพมากมายในสังคม และนิทรรศการ "คนเล็กๆ ที่มีหัวใจยิ่งใหญ่" เป็นผลผลิตของแนวคิดดังกล่าว ที่จะถ่ายทอดเรื่องราวของ 150 คนเล็กๆ ที่มีหัวใจยิ่งใหญ่ ที่ร่วมเดินทางมาตลอด 15 ปีที่ผ่านมา กับการสร้างสังคมสุขภาวะ โดยพวกเขาไม่เคยย่อท้อต่อปัญหาใดๆ และพร้อมที่จะสร้างแรงบันดาลใจให้กับคนรุ่นต่อๆ ไปเสมอ ซึ่งจะจัดหมุนเวียนกันไปตลอดระยะเวลาของนิทรรศการ
สนใจติดตามชมนิทรรศการและ ร่วมกิจกรรมในงาน 15 ปี สสส. ได้ ซึ่งจะมีการจัดแสดง ณ อาคารศูนย์เรียนรู้ สุขภาวะ สสส.และมีการหมุนเวียน ไปยังพื้นที่ต่างๆ ที่สนใจทั่วประเทศ ตลอดปี 2560 นี้