เปิดงาน 20 ปี ภาคีสร้างสุข : นวัตกรรมความสุขที่ยั่งยืน สสส. สานพลังภาคีประกาศปฏิญญาสร้างสุข ก้าวสู่ทศวรรษที่ 3
ที่มา : สำนักข่าวสร้างสุข
ภาพประกอบจาก สสส.
รมช.สาธิต เปิดงาน “20 ปี ภาคีสร้างสุข : นวัตกรรมความสุขที่ยั่งยืน” สสส. สานพลังภาคีเครือข่ายสร้างเสริมสุขภาพทั่วประเทศ ประกาศปฏิญญาสร้างสุข ‘ร่วมสร้างประเทศไทยให้น่าอยู่ ประชาชนมีสุขภาวะที่ดี โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง’ ก้าวสู่ทศวรรษที่ 3 มุ่งคิดนวัตกรรม ปรับวิถีชีวิต สิ่งแวดล้อม สร้างสังคมสุขภาวะอย่างยั่งยืน
เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน ที่โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ แอท เซ็นทรัลเวิลด์ ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะรองประธานกรรมการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) คนที่ 1 เป็นประธานในพิธีเปิดงาน “20 ปี ภาคีสร้างสุข : นวัตกรรมความสุขที่ยั่งยืน” เนื่องในโอกาสครบรอบ 20 ปี ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 8–10 พฤศจิกายน เพื่อสานพลังภาคีเครือข่ายร่วมขับเคลื่อนงานสร้างเสริมสุขภาวะ สร้างนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม วิถีชีวิต และสภาพแวดล้อมนำไปสู่สังคม สุขภาวะที่ยั่งยืนในทศวรรษถัดไป ในรูปแบบไฮบริดที่ผสมผสานการประชุมในสถานที่จริง และรูปแบบออนไลน์ สอดคล้องกับชีวิตวิถีใหม่ (New Normal) โดยบริหารจัดการตามมาตรการของภาครัฐในการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 และจัดประชุมที่ดีต่อสุขภาพ (Healthy Meeting) ภายในงานมีการเสนอทิศทางและเป้าหมายในระยะ 10 ปี ของ สสส. และประกาศปฏิญญาสร้างเสริมสุขภาวะ โดยมีผู้ทรงคุณวุฒิ ภาคีเครือข่าย และภาคียุทธศาสตร์ ได้แก่ หน่วยงานภาครัฐ กระทรวง กรมต่างๆ รวมผู้เข้าร่วมประชุมกว่า 2,000 คน
ดร.สาธิต กล่าวว่า การดำเนินงานสร้างเสริมสุขภาพในระยะต่อไป ต้องเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา โดยให้ยกระดับการทำงาน ลดขีดจำกัดในการขับเคลื่อนงานสร้างเสริมสุขภาพ หาต้นเหตุของปัญหา คิดใหม่ ทำใหม่ อย่างสร้างสรรค์ เริ่มจากต้นทุนเครือข่ายที่มี พัฒนาศักยภาพของคน ขยายผล ขยายประโยชน์ สู่สังคมวงกว้าง เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมในการสร้างสังคมสุขภาวะ ซึ่งต้องทำงานบูรณาการ สานพลังทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ เอกชน ท้องถิ่น วิชาการ และภาคประชาชน และขอชื่นชมและเป็นกำลังใจให้ สสส. และภาคีเครือข่ายที่ร่วมกันขับเคลื่อนงานสร้างเสริมสุขภาวะมาตลอดระยะเวลา 20 ปี ถือเป็นอีกก้าวหนึ่งในการผนึกกำลังภาคีเครือข่ายสร้างเสริมสุขภาพ ผสานความร่วมมือวางแนวทางการสร้างเสริมสุขภาพในอนาคต เพื่อให้สังคมไทยมีความเข้าใจ เห็นความสำคัญและคุณค่าของงานขับเคลื่อนการสร้างสังคมสุขภาวะร่วมกัน นำไปสู่การพัฒนาสังคมสุขภาวะอย่างยั่งยืน
ดร.สุปรีดา อดุลยานนท์ ผู้จัดการกองทุน สสส. กล่าวว่า สสส. เป็นแกนกลางในการขับเคลื่อนการสร้างเสริมสุขภาพแนวใหม่ร่วมกับภาคีเครือข่ายสร้างเสริมสุขภาพจากทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ เอกชน ภาคประชาสังคม ทั้งในและนอกระบบสุขภาพ มากกว่า 20,000 ภาคี เพื่อร่วมกันสร้างนวัตกรรมป้องกันและแก้ไขปัญหาสุขภาพที่สำคัญของคนไทย ลดปัจจัยเสี่ยงที่ส่งผลเสียต่อสุขภาพ และส่งเสริมการมีวิถีชีวิต สังคม และสิ่งแวดล้อมที่เอื้อต่อสุขภาวะ เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างยั่งยืนโดยใช้ยุทธศาสตร์ “ไตรพลัง ขับเคลื่อนสังคม” ตลอดระยะ 20 ปี สสส. สร้างการเปลี่ยนแปลงใหญ่ (Big Changes) ในประเด็นสุขภาพ อย่างน้อย 20 การเปลี่ยนแปลง ในทศวรรษหน้า สสส. และภาคีเครือข่าย ยังมุ่งเน้นการทำงานสุขภาพที่มีความสำคัญอย่างต่อเนื่อง แต่ปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำงานให้เหมาะสมกับสภาวะปัญหาหรือสภาวะแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไป รับมือโจทย์ใหม่ๆ ที่มีความท้าทาย เน้นสร้างการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม การมีส่วนร่วมในการจัดการสุขภาพของตนเอง และลดความเหลื่อมล้ำทางสุขภาพ เพื่อให้เกิดการพัฒนาที่ยั่งยืนแก่ประเทศ
นายสุริยา ยีขุน นายกเทศมนตรีตำบลปริก ต.ปริก อ.สะเดา จ.สงขลา กล่าวว่า รู้สึกยินดีที่ได้เป็นตัวแทนภาคีสร้างเสริมสุขภาวะจากทุกภาคส่วน กล่าวปฏิญญาภาคีสร้างเสริมสุขภาวะ ประกาศเจตนารมณ์ ‘ร่วมสร้างประเทศไทยให้น่าอยู่ ประชาชนมีสุขภาวะที่ดี โดยมิได้ทิ้งใครไว้ข้างหลัง’ 10 ข้อ ดังนี้ 1.มุ่งสู่การบรรลุทิศทางและเป้าหมายทศวรรษที่ 3 (พ.ศ. 2565-2574) โดยขจัดปัจจัยเสี่ยงหลักและพัฒนาปัจจัยเสริมสุขภาพ 2.ขยายและผนึกแนวร่วมเพื่อสร้างกลไก ขยายโอกาส สร้างความเป็นธรรมในสังคม 3.พัฒนานวัตกรรมทางเทคโนโลยีและสังคมเพื่อสร้างเสริมสุขภาวะ 4.ขยายภาคีสร้างเสริมสุขภาวะที่มีความหลากหลายและครอบคลุม พัฒนาศักยภาพ เปิดพื้นที่ทางความคิดและทางกายภาพในการทำงานร่วมกันมากขึ้น 5.ร่วมสานพลังสร้างชุมชนท้องถิ่นน่าอยู่ 6.สร้างเสริมสุขภาวะสำหรับทุกช่วงวัย 7.ร่วมขับเคลื่อนเพื่อให้คนในสังคมไทยสามารถใช้สื่อเป็นเครื่องมือเพื่อสนับสนุนวิถีชีวิตสุขภาวะ 8.มุ่งสร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมต่อการเจริญเติบโต พัฒนาการและความเป็นพลเมืองของเด็กและเยาวชน 9.มุ่งสานพลังภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วนขับเคลื่อนการรองรับสังคมสูงวัย และ 10.ภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วนพร้อมที่จะดูแล ร่วมมือ และปกป้อง สสส. ให้เป็นองค์กรของสังคมที่มั่นคง บริหารงานอย่างโปร่งใสภายใต้หลักธรรมาภิบาล ปราศจากการแทรกแซง
พญ.พูนาม เคตราปาล ซิงห์ (Dr.Poonam Khetrapal Singh) ผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลกภูมิภาคเอเชียใต้และตะวันออก (WHO-SEARO) กล่าวว่า ขอแสดงความยินดีกับ สสส. ในโอกาสครบรอบ 20 ปี และการได้รับรางวัลเนลสัน แมนเดลา ด้านการสร้างเสริมสุขภาพ ประจำปี 2564 ซึ่ง สสส. สมควรได้รับเป็นอย่างยิ่ง ผลงานตลอด 20 ปี ได้พิสูจน์ว่าขบวนการสร้างเสริมสุขภาพในประเทศไทยที่ผลักดันโดย สสส. และภาคีเครือข่ายเป็นต้นแบบที่โดดเด่นของภูมิภาค โดยเฉพาะในการสร้างความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน (Solidarity) ของการขับเคลื่อนความร่วมมือโดยทุกภาคส่วนในสังคมเพื่อการพัฒนาสุขภาวะ นับเป็นหัวใจสำคัญในการจัดการกับความท้าทายด้านสุขภาพของโลกยุคปัจจุบัน ทั้งเรื่องการจัดการโรคไม่ติดต่อเรื้อรังและการตอบสนองต่อสถานการณ์โควิด-19 โดยแนวทางนี้สามารถนำไปสู่การยกระดับผลลัพธ์ทางสุขภาพของประชาชน การเพิ่มความเป็นธรรมทางสุขภาพ ตลอดจนการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs)
ภายในงานยังมีการจัด “กิจกรรม Active Learning” ผ่านนิทรรศการ 20 ปี ภาคีสร้างสุข ทั้งในสถานที่จริง และในรูปแบบนิทรรศการเสมือน แสดงผลงานนวัตกรรมสุขภาพ อาทิ โต๊ะประชุมยืน ช้อนปรุงลด เครื่องวัดความเค็ม Salt Meter เสาหลักนำทางจากยางพารา ฯลฯ ผลงานที่จดสิทธิบัตร ลิขสิทธิ์ อาทิ อุปกรณ์รองนั่งสำหรับขับถ่าย ผลิตภัณฑ์ลูกอมสมุนไพรหญ้าหมอน้อยที่มีสรรพคุณช่วยลดการสูบบุหรี่ ผลงานโชว์เคส 16 บูธ อาทิ ฉลากทางเลือกสุขภาพ กิจกรรมเล่นตามวัย โดยประชาชนสามารถมีส่วนร่วมสร้างสุขภาวะที่ดีด้วยกัน และติดตามรับชมผ่านทางเว็บไซต์ https://20th.thaihealth.or.th และ Facebook LIVE : สสส.