เปลี่ยน‘โสด’ให้เป็น‘สุข’
แฟ้มภาพ
เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ได้จัดกิจกรรมร่วมแบ่งปันประสบการณ์การเรียนรู้สู่ชีวิตที่มีความสุข ภายใต้ แนวคิด SOOK In Love เปลี่ยนโสดให้เป็นสุขแลกเปลี่ยนแนวความคิด วิธีสร้างคุณค่าหาความสุขแบบโสดๆ โดยผู้ที่มาเข้าร่วมงานต่างให้ทัศนะประสบการณ์ของชีวิต บอกเล่าถึงการสร้างสุขให้กับตัวเองได้อย่างมีคุณค่ามากทีเดียว
ทำให้ได้เห็นว่า ความคิดของใครบางคน(หลายคน)ที่มองว่า การเป็นโสดไม่มีความสุข เงียบเหงา เมื่อมาได้ยินได้ฟังจากผู้เข้าร่วมงานแล้ว กลับแตกต่างกันไปเหมือนพลิกฝ่ามือทีเดียว เพราะการได้อยู่เป็นโสดนั้นทำให้เราสามารถหาเรื่องสนุกๆ ทำได้อีกตั้งมากมาย
นพ.จิตริน ใจดี จิตแพทย์ประจำศูนย์ จิตรักษ์ โรงพยาบาลกรุงเทพ วิทยากรกิจกรรมSOOK In Loveเปลี่ยนโสดให้เป็นสุข เปิดประเด็นว่า คนเราควรจะมีความสุขให้ได้ทั้งสองสถานะไม่ว่าจะโสดหรือไม่โสด โดยจากข้อมูลสถิติระยะ 40 ปีที่ผ่านมา พบว่ามีคนโสดมากขึ้น โดยเป็นหญิงมากกว่าชาย และยังมีอัตราการหย่าร้างสูง ส่วนสาเหตุที่ทำให้คนเป็นโสดนั้น อาจจะเพราะการได้รับการศึกษาที่สูงขึ้น โดยเฉพาะการที่ผู้หญิงสมัยนี้สามารถเลี้ยงดูตัวเองได้ ไม่ต้องพึ่งพาผู้ชายเหมือนสมัยก่อน อีกทั้งค่านิยมความคิดที่เปลี่ยนไป
นพ.จิตริน บอกต่อว่า หากจะลองชั่งน้ำหนักของความสุข และทุกข์ของคนโสด กับ คนที่มีชีวิตคู่ ดูแล้วจะพบว่า คนโสดหลายๆ คนเลือกที่จะโสดอย่างภูมิใจ ด้วยเหตุผลที่ว่า เป็นโสดทุกข์อย่างเดียวก็แค่เหงา พวกเขาเลือกที่จะมองข้ามความทุกข์เพียงข้อเดียวข้อนี้ แล้วใช้ความโสดเก็บเกี่ยวความสุขให้กับชีวิตที่ผ่านมา ตนเคยให้คำปรึกษาทั้งคนที่มีคู่และคนโสด พบว่าคนโสดมักจะแก้ไขปัญหาตัวเองได้ดีเวลาตัวเองมีความทุกข์ แตกต่างจากคนมีคู่ที่พยายามจะไปเปลี่ยนอีกคนให้เป็นไปตามใจตัวเอง ซึ่งเป็นเรื่องยาก
จิตแพทย์บอกด้วยว่า คนโสดจำนวนไม่น้อยมักถูกกดดันจากคนรอบข้างไม่ว่าจะเป็นครอบครัว หรือเพื่อนฝูงยิ่งในคนไข้บางคนที่ผิดหวังในความรักจะมองว่าความโสดเป็นความทุกข์ที่สุด ซึ่งความจริงแล้วเป็นเพียงค่านิยมในสังคมเท่านั้น และอยู่ที่มุมมองของตัวเองว่า เราต้องการจะใช้ชีวิตแบบใด
นพ.จิตริน บอกถึงทางออกของปัญหาว่า เราต้องสร้างเรื่องราวความโสดให้แตกต่างจากค่านิยมของสังคมว่า ความโสดก็เป็นเรื่องดี ความโสดเป็นเรื่องปกติไม่ใช่เรื่องแย่หรือเรื่องไม่ดีเสมอไป เพราะในความเป็นจริง คนโสดนั้นจะมีเวลาเหลือมาก สามารถนำไปพัฒนาตัวเอง ฝึกฝนทำในสิ่งใหม่ๆ ซึ่งการทำกิจกรรมมากๆ ยังช่วยทำให้ไม่เป็นโรคอัลไซเมอร์เมื่อเวลาแก่ตัวลงด้วย
คุณ “กิ๊ก”มยุริญ ผ่องผุดพันธ์ ดารานักแสดงมากฝีมือ เล่าถึงประสบการณ์ของตนเองให้ฟังว่า ส่วนตัวเป็นคนมีความรักมาตลอดตั้งแต่สมัยเรียน แต่จะมีคำถามอยู่ในใจเสมอว่า การเป็นลูกผู้หญิงควรเรียนหนังสือให้เก่งๆ มีครอบครัว มีลูกมีหลาน และต้องอยู่กับใครสักคนไปจนแก่ตายเท่านั้นหรือ ชีวิตน่าจะมีอะไรนอกกรอบจากวัฏจักรที่ว่านี้ จนได้มาเจอกับธรรมะก็รู้สึกว่าเป็นสิ่งที่เหมาะสมกับชีวิต และรู้สึกเข้าถึงกับการปฏิบัติธรรมะ โดยตั้งแต่อายุ 23 ปีก็เริ่มฝึกธรรมะมาตลอด
คุณกิ๊ก บอกว่า หลักธรรมง่ายๆ ของกิ๊ก คือ คิดดีทำดี พูดดีและรักษาศีล 5 ให้ได้ในทุกวัน อยากให้ทุกคนมีความสุขในชีวิตไม่ว่าจะโสดหรือไม่โสด และหาโอกาสไปปฏิบัติธรรม เพื่อให้จิตใจผ่องแผ้ว และขอให้นำหลักธรรมะเข้าไปจับกับทุกเรื่องที่ผ่านเข้ามาในชีวิต แล้วชีวิตโสดก็จะเป็นสุข
นอกจากนี้ ผู้เข้าร่วมกิจกรรมยังได้ร่วม Workshop สร้างสุขด้วยดิน โดย คุณทัศยา เรืองศรี นักจิตบำบัด วิทยากรกิจกรรม SOOK In Love เปลี่ยนโสดให้เป็นสุข อธิบายว่า กิจกรรมนี้ทำให้เราสร้างความสุขง่ายๆ ด้วยตัวเองผ่านการปั้นดินน้ำมัน โดยใช้ดินน้ำมันเป็นสื่อกลางในการถ่ายทอดความรู้สึกผ่านการเล่าเรื่องเกี่ยวกับสิ่งที่ตัวเองปั้นออกมา ซึ่งกิจกรรมนี้จะช่วยทำให้เราได้รู้จักคุณค่าของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นคนโสดหรือคนมีคู่แล้วก็ตาม
คุณอรอุษา โรจน์รพีธาดา พนักงานบริษัทเอกชน ผู้เข้าร่วมกิจกรรม บอกว่า กิจกรรมที่จัดขึ้น ช่วยให้ได้ข้อคิดในการดำเนินชีวิตสำหรับคนโสดมากมาย โดยเฉพาะการนำหลักธรรมะมาปรับใช้ ทั้งการคิดดี พูดดี ทำดี ซึ่งการทำดีไม่ใช่เพียงการบริจาคเงินทองวัตถุเพียงทำมาจากใจจริงๆ ก็เป็นสุขแล้ว
ส่วนผลงานการปั้นดินน้ำมัน ตนเลือกปั้นออกมาเป็นรูปหัวใจดวงเล็กอยู่ในหัวใจดวงใหญ่ เพื่อจะสื่อว่าความสุขนั้นต้องเริ่มที่ใจของเราก่อน จากนั้นต้องรู้จักแบ่งปันความรักให้กับคนรอบข้าง ซึ่งถือเป็นความสุขที่ยิ่งใหญ่กว่า
ได้ฟังอย่างนี้แล้ว “คานทอง” ก็ไม่ใช่สิ่งที่น่าวิตกของบรรดาสาวๆ เพราะการเป็นโสดไม่ใช่ปัญหาของชีวิต ขอเพียงเราต้องรู้ว่า จะทำชีวิตให้มีความสุขได้อย่างไร ขอเพียง แค่เปลี่ยนวิธีคิดชีวิตโสดก็มีความสุขแล้ว
บทความโดย : ปานมณี
ที่มา : เว็บไซต์แนวหน้าออนไลน์
ภาพประกอบจากแฟ้มภาพ