“เปลี่ยนเถิดชาวไทย” เปลี่ยนสังคมด้วยคิดและทำสิ่งสร้างสรรค์

            “เราเชื่อว่า พลังของคนตัวเล็กๆ คนที่ไม่จำเป็นต้องมีอำนาจ หรือมีกำลังเงินมากมาย ทุกคน ทุกอาชีพ พวกเขาสามารถร่วมกันเปลี่ยนสังคมได้”

/data/content/26620/cms/e_dehjlrtvwxy9.jpg

             คือคำกล่าวจาก ผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ ทพ.กฤษดา เรืองอารีย์รัชต์ ที่กล่าวไว้ในงานแถลงข่าวเปิดตัวรายการ “เปลี่ยนเถิดชาวไทย” เรียลลิตี้รูปแบบใหม่ ของ สสส. ดำเนินรายการโดย พิพัฒน์ อภิรักษ์ธนากร เริ่มต้นออกอากาศในวันที่ 13 ธันวาคม 2557 – 31 มกราคม 2558 ทุกคืนวันเสาร์ เวลา 21.45 – 23.30 น. ทางช่องโมเดิร์นไนน์ทีวี และช่อง MCOT HD (Digital TV ช่อง 30)

/data/content/26620/cms/e_adeilmnopux6.jpg               ขบคิด…ลงมือทำ

              ผจก.สสส. กล่าวเพิ่มเติมถึงการผลิตรายการที่เน้นความเป็นเรียลลิตี้ว่า ก็เพื่อให้สมจริง เห็นวิธีคิด วิธีการทำที่จะเข้าไปกระทบหัวใจคนดู โดยผู้เข้าแข่งขันแต่ละกลุ่มจะนำเสนอความคิดที่หลากหลายตาม 7 ประเด็น เพื่อป้องกันและสร้างเสริมสุขภาพ ได้แก่ การเพิ่มกิจกรรมทางกาย การกิน เด็กและเยาวชน บุหรี่ อุบัติเหตุ สิ่งแวดล้อม แอลกอฮอล์  จากนั้นจะมีการวัดผลว่า พฤติกรรมของคนในแต่ละโจทย์ เปลี่ยนจริงหรือไม่

              ทั้งนี้ในแต่ละตอน จะมีผู้ร่วมรายการสำคัญทั้งหมด 3 กลุ่ม ได้แก่ คนชวนคิด ประกอบด้วย ผู้เชี่ยวชาญด้านการสื่อสารการตลาดเพื่อสังคม สสส. ดารา หรือบุคคลที่มีชื่อเสียงจากหลากหลายวงการ อาสาสมัครนักเปลี่ยน  คือทีมที่สมัครเข้าแข่งขัน 5 ทีมต่อโจทย์ ซึ่งจะเสนอไอเดียตามโจทย์ที่ได้รับให้เข้าตากรรมการมากที่สุด และสุดท้าย คณะกรรมการ คือผู้ทรงคุณวุฒิ ที่มีความเชี่ยวชาญในแต่ละโจทย์ ที่ทาง สสส. เรียนเชิญมาเป็นผู้ให้คำแนะนำในแต่ละไอเดีย

               สุพัฒนุช สอนดำริห์ ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารการตลาดเพื่อสังคม สสส. ให้ความเห็นถึง 7 ประเด็นที่เลือกขึ้นมาสื่อสารกับสังคมว่า ทั้งหมดล้วนเป็นหัวข้อหลักใกล้ตัวที่ทุกคนคุ้นชินในการใช้ชีวิตประจำวัน ทุกคนสามารถเปลี่ยนได้ และภายหลังจากชมรายการ หลายเรื่องอย่างประเด็น “บุหรี่” องค์กรอื่นก็สามารถนำไปต่อยอดได้ ประเด็น “การกิน” แต่ละโรงอาหารก็สามารถนำไปทำต่อได้

/data/content/26620/cms/e_agilprsz3579.jpg              “เปลี่ยนเถิดชาวไทย มีจุดเริ่มต้นเล็กๆ อยู่ที่การเปลี่ยนความคิด” สุพัฒนุช กล่าวถึงรายการเพิ่มเติม “อย่างแรกเราต้องเชื่อก่อนว่า ถ้าเราเห็นปัญหาแล้วไม่นิ่งเฉย แต่อยากจะแก้ไข อยากจะทำให้ดีขึ้น มันจะนำไปสู่ทางออกของปัญหาอีกมากมาย ในรายการจะมีแรงบันดาลใจเล็กๆ ดีๆ มากมาย ที่สามารถพัฒนาแล้วนำไปใช้ต่อได้อีกเยอะมาก ขอเพียงทุกคนเริ่มคิดที่จะทำ”

               โดยหากใครมองว่า หนึ่งพลังเล็กๆ จะมีคุณค่าในการผลักดันมากพอหรือไม่ ผอ.ฝ่ายสื่อสารการตลาดเพื่อสังคม สสส. ให้ความเห็นว่า หากเชื่อมั่นว่าสิ่งนั้นดีจริง ก็อย่าได้ดูถูกไอเดียของตัวเอง จงมั่นใจและกล้าเปลี่ยน

                เพราะความคิดของคนเล็กๆ คนหนึ่ง ถ้ามันดีจริง คนอื่นเห็น เขาก็จะนำไปทำตาม หรือมีการเอาไปทำซ้ำต่อเอง

                ชวนคิดเรื่องใกล้ตัว

               ด้าน วินัย สุขแสวง หรือที่ใครๆ ในวงการบันเทิงเรียกว่า ดีเจเจ๊แหม่ม ตัวแทนคนชวนคิดในหัวข้อการกิน ให้มุมมองต่อประเด็นนี้ว่า พอรู้ว่าเกี่ยวกับการกิน มันเป็นเรื่องของจิตสำนึกลึกๆ ที่อยากทำ อยากบอกต่อกับสังคม เพราะเราเป็นคนหนึ่งที่เคยอ้วน แล้วลดความอ้วนได้ ก็เพราะปรับพฤติกรรมการกินใหม่

          “เรื่องกินเป็นเรื่องใกล้ตัว การปรุงอาหารมีส่วนสำคัญ คนส่วนใหญ่ชอบกินเอาอร่อย ถึงได้มีคำพูดเล่นๆ ว่า “ไม่อร่อยกินทำไม เสียดายปาก” แต่เราก็ลืมคิดไปว่า ความอร่อยมันถูกปรุงแต่ง ลืมคิดไปว่า ความอร่อยมาจากการที่เราใส่ทุกอย่างทั้งน้ำปลา น้ำตาล พริก แต่กินอิ่มแล้วก็จบ กินอิ่มแล้วก็หลับ แต่กลายเป็นว่าอวัยวะข้างในเรายังไม่หลับ เพราะเหตุนี้คนเราถึงได้ป่วยเป็นมะเร็งลำไส้ เป็นเบาหวานขึ้นเยอะมาก”

/data/content/26620/cms/e_acfhjknvxy46.jpg

 

           ชวนเปลี่ยนความคิด

          ขณะที่ ตุล ไวฑูรเกียรติ หรือ ตุล อพาร์ทเมนต์คุณป้า ตัวแทนคนชวนคิดในหัวข้ออุบัติเหตุให้ความเห็นว่า รายการนี้เป็นรายการของความคิดสร้างสรรค์ ที่ช่วยให้ทุกคนได้เห็นความคิดจากหลายแง่มุม แต่ละปัญหาที่หยิบยกขึ้นมา จึงมองทางออกได้ต่าง และมีหลายประเด็นที่น่าสนใจ

          “จริงๆ อุบัติเหตุเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ฉะนั้นทางที่ดีคือ เราไม่ควรประมาทในทุกๆ จังหวะชีวิต แต่ก็กลับกลายเป็นว่า คนมักจะคิดว่าอุบัติเหตุเกิดขึ้นกับคนอื่น ไม่เกิดขึ้นกับตัวเอง มันก็เลยทำให้เกิดอุบัติเหตุ”

          ความคิดเช่นนี้ ควรเปลี่ยน…

           ชวนลงมือเปลี่ยน

          สำหรับ นักร้องหนุ่มขวัญใจวัยรุ่นวัยทีน นที เอกวิจิตร หรือ อุ๋ย บุดด้า เบลส ตัวแทนคนชวนคิดในหัวข้อแอลกอฮอล์ ให้ความเห็นถึงคนที่ริเริ่มจะกินแอลกอฮอล์แล้วบอกว่า “ไม่เป็นไรหรอก อึกเล็กๆ” ว่า เปรียบเหมือนนิทานลิงกินกล้วยของพระอาจารย์ชยสาโร ที่สะท้อนไว้ว่า

           ….ความดีความไม่ดี เกิดขึ้นทีละเล็กทีละน้อยจนเราแทบไม่รู้สึก เหมือนน้ำค่อยๆ หยดทีละหยดๆ ลงในตุ่ม แม้จะเป็นเพียงหยดเล็กๆ แต่ในที่สุด ตุ่มก็จะเต็ม….**

           “เช่นเดียวกับพฤติกรรมของคนเรา ที่มักจะมีข้ออ้างให้ตัวเองได้ทำอะไรสักอย่าง คิดแต่ว่าอีกนิดนึง อีกนิดนึง พอมารู้ตัวอีกที ก็ถลำไปเยอะแล้ว ฉะนั้นถ้าตั้งใจว่าจะทำอะไร ก็ควรจะทำเลย ไม่ดื่ม คือไม่ดื่ม”

           นอกจากนี้ ในรายการยังจะมี “อาสาสมัครนักเปลี่ยน” ซึ่งทุกคนก็ทำได้ ขอเพียงลุกขึ้นมาสร้างการเปลี่ยนแปลง จากเรื่องเล็กๆ หรือจากพฤติกรรมของตัวเรา แล้วเราก็จะเห็นการเปลี่ยนแปลงดีๆ เกิดขึ้นในประเทศไทยร่วมกัน

            …เปลี่ยนเถิดชาวไทย…

 

 

             เรื่องโดย : ชัชวรรณ ปัญญาพยัตจาติ Team Content www.thaihealth.or.th **

            **อ้างอิงจาก ‘เรื่องท่านเล่า’ หนังสือรวมนิทานที่พระอาจารย์ชยสาโรเมตตาเล่าไว้ เรียบเรียงโดย ศรีวรา อิสสระ

 

 

Shares:
QR Code :
QR Code