เตือนหวัด2009รอบใหม่หนักกว่า

ชี้ ประกาศภาวะฉุกเฉินสหรัฐคาดไว้แล้ว ไทยยังเฝ้าระวัง

 เตือนหวัด2009รอบใหม่หนักกว่า

          วิทยาถกกรมควบคุมโรคประเมินสถานการณ์ หลังจากหวัด 2009 ระบาดหนักในสหรัฐ ยันมีโอเซลทามิเวียร์ 12 ล้านเม็ดสำรอง ขณะที่วัคซีน 2 ล้านโด๊สเริ่มเข้าไทยธ.ค. นี้

 

          นายวิทยา แก้วภราดัย รมว.สาธารณสุข กล่าวถึงกรณีที่สหรัฐอเมริกาประกาศภาวะฉุกเฉินไข้หวัด 2009 ว่า การประกาศภาวะฉุกเฉินดังกล่าวเป็นเรื่องที่สหรัฐได้ประเมินสถานการณ์ไว้ล่วงหน้าก่อนแล้วว่าจะเกิดการระบาดใหญ่ขึ้น และยังจะมีการระบาดในกลุ่มประเทศในเขตหนาว สถานการณ์ในประเทศไทยนั้นเป็นประเทศเขตร้อน แต่ยังอยู่ในกลุ่มประเทศที่ต้องเฝ้าระวัง

 

          ดังนั้น มาตรการเฝ้าระวังยังต้องเดินหน้ารณรงค์ให้ประชาชนดูแลและป้องกันตนเอง ซึ่งเป็นมาตรการป้องกันโรคที่ดีที่สุด โดยได้ประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงแรงงาน รวมไปถึงการเดินหน้ามาตรการคัดกรองผู้ป่วย

 

          สั่งทุก รพ.พร้อมรับการระบาด

 

          ทุกโรงพยาบาลต้องมีความพร้อมคัดกรองผู้ป่วย ต้องแยกผู้ป่วยที่สงสัยติดเชื้อหวัด 2009 ออกจากผู้ป่วยปกติ ซึ่งเป็นไปตามความพร้อมที่เราได้ดำเนินการก่อนหน้านี้ ทั้งนี้กลุ่มนักท่องเที่ยวไม่ได้กังวลค่ารักษาพยาบาล แต่กังวลความพร้อมในการรักษามากกว่า นอกจากนี้จากที่ นพ.ทวี โชติพิทยสุนนท์ ผู้เชี่ยวชาญระดับ11 กรมการแพทย์ ที่ได้เข้าร่วมประชุมกับทางองค์การอนามัย ได้ยืนยันว่ามาตรฐานในการรักษาและควบคุมโรคของไทย อยู่ในระดับที่องค์การอนามัยโลกยอมรับ จึงขอให้มั่นใจได้นายวิทยา กล่าว

 

          3 ปัจจัยหนุนไทยระบาดรุนแรง

 

          ศ.เกียรติคุณ นพ.ประเสริฐ ทองเจริญ ประธานมูลนิธิส่งเสริมการศึกษาไข้หวัดใหญ่ ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการด้านการแพทย์และสาธารณสุข กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า สถานการณ์โรคไข้หวัดใหญ่ 2009 ในประเทศไทยจะเกิดการแพร่ระบาดที่รุนแรงหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับสามปัจจัย คือ

 

          1.ต้องเข้าใจว่าขณะนี้เชื้อหวัด 2009 มีการแพร่กระจายในประเทศอยู่แล้ว2.ยังมีประชาชนอีกจำนวนไม่น้อย ที่ไม่ได้รับเชื้อหรือป่วยด้วยหวัด 2009 ที่มีการแพร่ระบาดก่อนหน้านี้ ทำให้ยังไม่มีภูมิคุ้มกัน และเสี่ยงต่อการติดเชื้อและป่วยได้ และ 3.ยังอยู่ในช่วงฤดูกาลการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดในช่วงปลายฝนต้นหนาว ดังนั้นหากองค์ประกอบครบทั้ง 3 ปัจจัย การระบาดรุนแรงย่อมเกิดขึ้นได้เช่นกัน

 

          เชื่อว่าการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัด 2009 ในไทยย่อมต้องเกิดขึ้นแน่นอน แต่จะรุนแรงในระดับใดนั้น คงบอกไม่ได้ และยังต้องติดตามเฝ้าระวังโรคต่อไปศ.เกียรติคุณ นพ.ประเสริฐ กล่าว และว่า สำหรับวันจันทร์ที่ 2 พ.ย. นี้ ทางคณะอนุกรรมการด้านการแพทย์และสาธารณสุขจะประชุมเพื่อทบทวนสถาน-การณ์โรคร่วมกัน

 

          ชี้อย่าตื่นสหรัฐประกาศภาวะฉุกเฉิน

 

          นพ.ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงการที่ประธานาธิบดีโอบามา สหรัฐอเมริกา ประกาศภาวะฉุกเฉินทางด้านสุขภาพทั่วประเทศ หลังจากที่มีตัวเลขผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ เพิ่มขึ้นรวดเร็วเป็นจำนวนมาก ว่า การประกาศดังกล่าวคนไทยไม่ต้องตกใจ สำนักระบาดวิทยา กระทรวงสาธารณสุขตรวจสอบข่าวแล้วทราบว่าประเทศสหรัฐอเมริกา พบผู้ป่วยที่มีอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่ เพิ่มขึ้นกว่าค่าเฉลี่ยที่คาดการณ์ไว้ใน 46 มลรัฐ และจากการสุ่มตรวจทางห้องปฏิบัติการ พบเชื้อที่เป็นสาเหตุของการป่วยครั้งนี้เกิดจากเชื้อเอช1เอ็น1 (H1N1) ประกอบกับประเทศสหรัฐอเมริกาย่างเข้าสู่ฤดูกาลการระบาดของไข้หวัดใหญ่ประจำปีของประเทศ จึงได้ออกประกาศดังกล่าวขึ้นมา

 

          เตรียมสำรองยา12ล้านเม็ด

 

          ด้าน นพ.มานิต ธีระตันติกานนท์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ขณะนี้ยาโอเซลทามิเวียร์รักษาไข้หวัดใหญ่ 2009 ของไทยยังใช้ได้ผลดี กรมควบคุมโรคได้สำรองไว้ 12 ล้านเม็ด และมียาซานามิเวียร์อีกจำนวนหนึ่ง ส่วนสถาน-การณ์ไข้หวัดใหญ่ 2009 ในประเทศไทย พบจำนวนผู้ป่วยยืนยันการติดเชื้อมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยช่วงวันที่ 18-24 ต.ค. 2552 พบผู้ป่วยยืนยันรายใหม่ 243 รายทั่วประเทศ เสียชีวิต 3 ราย มียอดผู้ป่วยยืนยันสะสมตั้งแต่ปลายเดือนเม.ย. 2552 เป็นต้นมามีทั้งหมด 28,300 ราย เสียชีวิตสะสมรวม 182 ราย

 

          ส่วนวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ 2009 ที่ไทยสั่งนำเข้า 2 ล้านโด๊ส เป็นวัคซีนชนิดเชื้อตาย จะเริ่มทยอยเข้ามาล็อตแรก 1 ล้านโด๊ส ในเดือนธ.ค. 2552 และจะเข้ามาอีก 1 ล้านโด๊สในปลายเดือนม.ค. 2553 การบริหารจัดการจะกระจายวัคซีนทั้งหมดลงพื้นที่ทุกจังหวัด โดยจะดำเนินการรณรงค์ฉีดป้องกันในกลุ่มเสี่ยงทั่วประเทศ ช่วงเดือนม.ค.- ก.พ. 2553 เพื่อให้ครอบคลุมกลุ่มเสี่ยงเป้าหมาย 5 กลุ่ม ประกอบด้วย 1.กลุ่มแพทย์ พยาบาล และบุคลากรสาธารณสุข ด่านหน้าที่เสี่ยงต่อการสัมผัสโรค 2.หญิงมีครรภ์ไตรมาสที่สองขึ้นไป (อายุครรภ์เกิน 3 เดือนขึ้นไป) 3.คนอ้วนน้ำหนักตัวตั้งแต่ 100 กิโลกรัม 4.ผู้พิการทางสมองและปัญญา 5.บุคคลอายุ 6 เดือน ถึง 64 ปี ที่มีโรคประจำตัว

 

          เกาหลีใต้เริ่มฉีดวัคซีนรอบแรก

 

          หนังสือพิมพ์ยอนฮับ รายงาน อ้างเจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุขเกาหลีใต้ว่า เด็กสองคนที่ติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 เสียชีวิตแล้ว เป็นเด็กชายวัย 9 ขวบ และเด็กหญิงวัย 11 ขวบ ส่งผลให้ยอดผู้เสียชีวิตจากไวรัสชนิดนี้เพิ่มเป็น 20 ราย ขณะที่ยอดผู้ติดเชื้อเพิ่มเป็นเกือบ 30,000 ราย

 

          ขณะที่หนังสือพิมพ์ไชน่า เดลี และเว็บไซต์โซหูดอทคอม รายงานผลสำรวจล่าสุดว่า ชาวจีนมากกว่าครึ่ง ไม่คิดจะเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกัน ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 เนื่องจากไม่แน่ใจเรื่องความปลอดภัย โดยผู้ถูกสำรวจมากกว่า 54% จากทั้งหมด 2,000 คน ระบุว่า ไม่ต้องการเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ซึ่งเป็นจำนวนมากกว่าการสำรวจเมื่อ 2 เดือนก่อน ที่มีคนต้องการฉีดวัคซีนมากถึง 76%

 

 

 

 

 

 

ที่มา: หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ

 

 

 

Update: 27-10-52

อัพเดทเนื้อหาโดย: อัญณิกา กฤษสมัย

 

Shares:
QR Code :
QR Code