เตือนหยุดเทศกาลปีใหม่
ไม่ระวังอาจหยุดยาว
หลายท่านอาจเตรียมการฉลองปีใหม่ 54 ที่จะมาถึงกันอย่างเต็มที่จะด้วยเหตุผลใดก็แล้วแต่ สำหรับบุคคลโดยทั่วไป โอกาสนี้อาจเป็นช่วงเวลาของครอบครัว หรือเป็นช่วงเวลาที่จะได้พบปะเพื่อนฝูง หรือแม้กระทั่งลูกค้าหัวหน้า จนถึงผู้ใต้บังคับบัญชาของหน่วยงานต่างๆ ก็ถือเป็นโอกาสสำคัญ หรืออาจจะไม่มีความสำคัญอะไรเลยสำหรับบางคนที่ขาดโอกาสหรือมองว่ามันเป็นเพียงการเปลี่ยนแปลงตามกาลเวลาซึ่งเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว อย่างไรก็แล้วแต่อยากฝากเตือนมายังทุกท่านกันซักนิดเพราะเทศกาลปีใหม่ 2553 ที่แล้วเกือบ 4,000 คนกลายเป็นช่วงเวลาแห่งความโศกเศร้าไปเลยจากอุบัติเหตุทางถนน เพียงแค่ 7 วันเสียชีวิตถึง 347 คน ถ้านับคนที่บาดเจ็บพิการอีกก็อยากจะพูดว่า สุดแสนจะน่ากลัว
หากนับย้อนกลับไป 10 ปี คาดว่ามีผู้คนที่ได้รับผลกระทบจากการใช้ชีวิตในช่วงเทศกาลปีใหม่ไม่น้อยกว่า 50,000 ราย เฉพาะตัวเลขตายอย่างเดียวรวมกัน 5 ปีที่ผ่านมาปาเข้าไปตั้ง 2,005 ราย (2549 – 2553) เกิดอะไรขึ้นกับคนไทย ในเมื่อปีใหม่ก็เป็นเพียงช่วงเวลาหนึ่งใน 365 วันเท่านั้น ทำไมเราตายกันมากขนาดนี้ ล่าสุดได้มีโอกาสเห็นตัวเลขรวมของทั้งโลกอุบัติเหตุทางถนนคร่าชีวิตมนุษย์ไปถึงปีละ 1.3 ล้านคน และที่สำคัญตายมากสุดในกลุ่มประเทศที่กำลังพัฒนาที่มีการใช้มอเตอร์ไซค์จำนวนมาก ไทยเราก็ใช่ย่อย เรื่องมอเตอร์ไซค์ทราบว่าเป็น 3 ใน 4 ของอุบัติเหตุทั้งหมด และครึ่งหนึ่งในนั้นได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะไม่แปลกเลยครับที่ไทยเรามีคนพิการมากจนติดแชมป์กีฬา
การดื่มฉลองปีใหม่แล้วมาขับรถถือว่าอันตรายสุด ๆ ไม่ว่าจะพูดว่าปีหนึ่งมีหนเดียว หรือว่านานๆ ทีแต่อย่าลืมนะครับ หากท่านขาดสติคำว่านานๆ ทีนี้อาจจะเป็นการพูดครั้งสุดท้าย ไม่ได้คิดลบนะครับ แต่ด้วยตัวเลขคนที่บาดเจ็บพิการและเสียชีวิตในช่วงเทศกาลต่างๆ ของไทยมันยังสูงจริงๆ ไม่อยากเห็นท่านหรือคนที่ท่านรักเป็นหนึ่งในนั้น ก็อยากเตือนแรงๆ อย่าเสี่ยงเลยครับ ฉลองกันพองาม หรือหากจำเป็นต้องมีการเดินทางระมัดระวังเป็นพิเศษ อย่าเผลอดื่มแล้วขับเป็นเด็ดขาด ถึงแม้ว่าตำรวจจะออกมาประกาศว่าจะมีการตรวจจับรับโทษสูงสุดสำหรับ เมา ขับเร็วและก็ไม่สวมหมวกนิรภัย ก็ยังคิดว่ายังต้องอาศัยความร่วมมือจากเพื่อนๆ หรือคนรู้จัก ให้ช่วยกันเตือนนักดื่มทั้งหลายให้ระมัดระวังด้วย เพราะอาจจะนำความเดือดร้อนมาถึงเราหรือครอบครัวของเขาเอง
สำหรับผู้ที่สวมหมวกนิรภัยขับขี่มอเตอร์ไซค์ หากเกิดอุบัติเหตุจะรอดตายได้มากกว่าไม่สวมถึง 4 เท่า อันนี้ก็ให้คิดกันเองก็แล้วกันว่าจะเลือกเอาแบบไหนถ้าอยากสบายๆ กลัวเสียทรง หรือคิดว่าไปใกล้ๆ แค่นี้เองไม่ได้ออกถนนใหญ่ ทั้งหมดนี้เป็นคำพูดที่เก็บมาจากคนที่เกิดเหตุในหลายปีที่ผ่านมา แล้วตอนนี้ก็พิการทำอะไรไม่ได้แล้ว “ไม่สวมหมวกกันน็อค ไม่ได้น็อคคนเดียว” เป็นข้อความที่ใช้รณรงค์ปีนี้ หลายวันที่ผ่านมาก็ได้ไปร่วมจัดกิจกรรมสร้างกระแสให้เกิดการรับรู้กันหลายแห่งหวังว่าจะช่วยทำให้คนไทยได้ระมัดระวังกันมากขึ้น หากท่านต้องการข้อมูลสถิติตัวเลข เข้าไปดูได้ที่สำนักงานเครือข่ายลดอุบัติเหตุ (สคอ.) www.accident.or.th อย่าลืมนะครับ “ตั้งสติก่อนสตาร์ท” แล้วท่านจะปลอดภัย
ที่มา: หนังสือพิมพ์มติชน
Update : 28-12-53
อัพเดทเนื้อหาโดย : สุนันทา สุขสุมิตร