เตือนวัยรุ่นไทยรักจริงต้องใส่ใจ รักปลอดภัย ต้องป้องกัน

ข้อมูลชี้วัยรุ่นไทยมีพฤติกรรมเสี่ยงทางเพศสูง ร้อยละ 89 ไม่พกถุงยางอนามัยป้องกัน ทำให้มีโอกาสติดเชื้อเอดส์ได้มากกว่าคนปกติ 3-9 เท่า วาเลนไทน์ปีนี้ สธ.รณรงค์ภายใต้แนวคิด “รักจริงต้องใส่ใจ รักปลอดภัย ต้องป้องกัน” เดินหน้าสร้างความรู้ ความเข้าใจที่ถูกต้องในการมีเพศสัมพันธ์ที่ปลอดภัยแก่เยาวชน

นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ปัญหาเยาวชนที่ทางกระทรวงสาธารณสุขมีความเป็นห่วงมากที่สุดเมื่อเข้าสู่ เทศกาลวันวาเลนไทน์ก็คือการมีเพศสัมพันธ์เพื่อแสดงความรักต่อกัน โดยไม่ระวังและขาดการป้องกัน ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดปัญหาต่าง ๆ ตามมามากมาย ไม่ว่าจะเป็นปัญหาการท้องไม่พร้อม  การเกิดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคเอดส์

ทั้งนี้ข้อมูลจากการสำรวจพฤติกรรมการใช้และการเข้าถึงถุงยางอนามัยของวัยรุ่นไทยพบว่า ร้อยละ 89  มีพฤติกรรมไม่พกถุงยางอนามัยในการป้องกันเมื่อมีเพศสัมพันธ์ จึงมีความเสี่ยงสูงที่จะติดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และทำให้มีโอกาสติดเชื้อเอชไอวีได้มากกว่าคนปกติ 3-9 เท่า โดยพบว่ามีเยาวชนเพียงร้อยละ 43 ที่เห็นว่าถุงยางอนามัยป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคเอดส์ได้ ส่วนอัตราการใช้ถุงยางอนามัยเมื่อมีเพศสัมพันธ์พบเพียงร้อยละ 52  เท่านั้นซึ่งยังต่ำอยู่และเป็นการสะท้อนว่าวัยรุ่นไทยมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ปลอดภัย นอกจากนี้สถานการณ์ต้านโรคเอดส์ในประเทศไทยปัจจุบันยังพบจำนวนผู้ป่วยด้วยโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์เพิ่มขึ้นอย่างมากและรวดเร็ว โดยปี 2550 เพิ่มจากปี 2554  จาก 29 เปอร์เซ็นต์ เป็น 44 เปอร์เซ็นต์ ในจำนวนนี้ 42 เปอร์เซ็นต์เป็นวัยรุ่นที่อายุ 15–24 ปี  และ 8 ใน 10 คนมีปัญหาตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์

สำหรับกิจกรรมรณรงค์เนื่องในวันวาเลน ไทน์ปี  2556 นี้ กระทรวงสาธารณสุขได้ร่วมกับองค์ กรภาครัฐ และภาคประชาสังคมจัดบริการที่เป็นมิตรสำหรับเยาวชนที่มีปัญหาด้านสุขภาวะทางเพศและอนามัยเจริญพันธุ์ภายใต้แนวคิด “รักจริงต้องใส่ใจ รักปลอดภัย ต้องป้องกัน” เพื่อส่งเสริมให้เยาวชนมีความรู้ ความเข้าใจที่ถูกต้อง นำไปสู่การมีพฤติกรรมสุขภาพในการป้องกันการติดเชื้อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และเอดส์ ตลอดจนการตั้งครรภ์ที่ยังไม่พร้อม โดยสามารถขอรับบริการได้ที่สถานบริการสาธารณสุขของรัฐ และสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.aidsstithai.org หรือปรึกษาปัญหาเอชไอวี/เอช และอนามัยการเจริญพันธ์ุได้ที่ www.lovecarestation.com คอลเซ็นเตอร์ 1330 กด 4, www.teenpath.com, www.thaiyouths.org 0-2941-2320 ต่อ 181, 182 นพ.ชลน่าน กล่าว

ด้าน ดร.นพ.พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า พฤติกรรมการไม่ใช้ถุงยางอนามัยนอกจากจะทำให้วัยรุ่นส่วนใหญ่เสี่ยงต่อการติดโรคทางเพศสัมพันธ์รวมทั้งเชื้อเอชไอวีแล้ว ยังจะทำให้ประเทศไทยต้องเผชิญกับการระบาดของเอดส์ระลอกใหม่ได้ ในขณะที่ข้อมูลการติดเชื้อเอชไอวีในไทยปี 55 ระบุว่ามีผู้ติดเชื้อและผู้ป่วยสะสมรวมประมาณ 1.1 ล้านคน ในจำนวนนี้เสียชีวิตแล้วประมาณ 7 แสนคน ที่ยังมีชีวิตอยู่มีประมาณ 4.6 แสนคน และ เป็นผู้ติดเชื้อรายใหม่ประมาณ 1 หมื่นคน กว่า 80 เปอร์เซ็นต์ ติดเชื้อจากการมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ป้องกัน

หากทำความเข้าใจร่วมกันจะพบว่าการขาดข้อมูลและความเข้าใจที่ถูกต้อง รวมทั้งขาดที่ปรึกษาไม่ว่าจะเป็นที่บ้านหรือโรงเรียน ล้วนเป็นความเสี่ยงที่จะทำให้เยาวชนมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ปลอดภัยและนำมาซึ่งโรคร้ายต่าง ๆ จึงต้องขึ้นอยู่กับทัศนคติและความเอาใจใส่ของพ่อ แม่ ผู้ปกครอง ในการป้องกันปัญหาต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นและการยอมรับความเป็นจริงเกี่ยวกับพฤติกรรมการมีเพศสัมพันธ์ของวัยรุ่นในสังคมโลกยุคปัจจุบัน

“เดี๋ยวนี้วัยรุ่นไทยมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรกเมื่ออายุน้อยลงเรื่อย ๆ แค่ 12-13 ปีก็รู้จักที่จะมีเพศสัมพันธ์แล้ว อย่าคิดว่าเรื่องเพศเป็นเรื่องลามก แต่เป็นเรื่องของธรรมชาติ ถ้าฝืนธรรมชาติไม่ได้ก็จะต้องมีการป้องกัน โดยใช้ถุงยางอนามัย ซึ่งเป็นเครื่องมือชนิดเดียวเท่านั้นที่สามารถป้องกันโรคติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ รวมทั้งโรคเอดส์ และการตั้งครรภ์ที่ไม่พึงประสงค์ที่ได้ผลดีที่สุด”

“เทศกาลวันวาเลนไทน์ปีนี้ กรมควบคุมโรคได้ดำเนินการตามแนวคิด “รักจริงต้องใส่ใจ รักปลอดภัย ต้องป้องกัน” โดยจัดทำสื่อสนับสนุนแก่หน่วยงานเครือข่ายระดับเขต และระดับจังหวัดทั่วประเทศและแพ็กเกจถุงยางอนามัยเป็นซองใส่โทรศัพท์มือถือที่พกพาได้สะดวก โดยสามารถ ดาวน์โหลด สื่อต้นแบบ ได้ที่  www.aidsstithai.org รวมถึงขอรับถุงยางอนามัยได้ที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดและสถานพยาบาลของรัฐทุกแห่ง และสามารถซื้อถุงยางอนามัยราคาถูกได้ที่เครื่องจำหน่ายถุงยางอนามัยชนิดหยอดเหรียญ ซึ่งติดตั้งตามที่ต่าง ๆ เช่น บริเวณห้องน้ำในห้างสรรพสินค้าและโรงภาพยนตร์ และได้ร่วมกับหน่วยงานพันธมิตรและเครือข่ายจัดบริการที่เป็นมิตรแก่เยาวชนที่มีปัญหาด้านสุขภาวะทางเพศและอนามัยเจริญพันธุ์ด้วย” ดร.นพ.พรเทพกล่าว

ทพ.ดร.สุรสิงห์ วิศรุตรัตน์ รองนายแพทย์สาธารณสุข จ.เชียงใหม่ กล่าวว่า คนเราสามารถแสดงความรักต่อกันได้หลายทาง ไม่จำเป็นต้องมีเพศสัมพันธ์เสมอไป ส่วนคู่รักที่จะไปมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกันในวันวาเลนไทน์นี้ สิ่งที่สำนักงานสาธารณสุข จ.เชียงใหม่เป็นห่วงและอยากเน้นย้ำคือควรเข้มงวดในการป้องกันตัวเอง เพราะคนไทยยังป้องกันตัวเองระหว่างที่มีเพศสัมพันธ์น้อยมาก โดยเฉพาะเยาวชนมีแค่ร้อยละ 20  เท่านั้น  ประเด็นนี้อาจนำไปสู่ความเสี่ยงต่อการตั้งท้องไม่พร้อม การติดโรคและเอดส์ 

สำหรับงานด้านการป้องกัน แก้ไข ปัญหาโรคเอดส์นั้น จังหวัดเชียงใหม่ได้มีการกำหนดยุทธศาสตร์การดำเนินงาน ปี 2555-2559ไว้ 5 ประการ ได้แก่ การเร่งรัดการป้องกัน การติดเชื้อเอชไอวีในกลุ่มประชากร กลุ่มที่เปราะบาง และมีโอกาสเสี่ยงต่อการติดเชื้อ การให้บริการให้เข้าถึงเร็วขึ้น การมุ่งเน้นการปรับพฤติกรรมเสี่ยงโดยใช้กระบวนการทางการศึกษา สังคม วัฒนธรรม เพื่อลดการติดเชื้อรายใหม่ การยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้อยู่ร่วมกับเชื้อเอชไอวี ผู้ป่วยเอดส์และผู้ที่ได้รับผลกระทบในสังคม และการขับเคลื่อนการดำเนินงานโดยใช้ข้อมูลการมีส่วนร่วมของภาคีเครือข่าย

นายแพทย์ วิทยา หลิวเสรี ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 10 เชียงใหม่ กล่าวว่า สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 10 เชียงใหม่ โดยงานสาธิตบริการกามโรคได้เปิดบริการให้คำแนะนำและตรวจรักษาโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์  ตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก และตรวจเลือดหาเชื้อเอชไอวี แบบรู้ผลเร็วภายใน 2 ชั่วโมง ในกลุ่มชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชายตรวจฟรีโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใด ๆ รับจำนวนจำกัดวันละ 8 ท่านเท่านั้น เปิดให้บริการทุกวันจันทร์เวลา 13.00–16.00 น. และวันอังคาร-วันพฤหัสบดี เวลา 08.30–16.00 น. สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดและโทรฯ จองคิวตรวจได้ที่ งานสาธิตบริการกามโรค สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 10 เชียงใหม่ โทร. 0-5321-3636,0-5389-4252 และ 0-5389-4049 ในวันและเวลาราชการ

 

 

ที่มา : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์

 

 

Shares:
QR Code :
QR Code