เตือนรังสียูวี เสี่ยงต้อเนื้อ-ต้อลม

ที่มา : MGR Online


เตือนรังสียูวี เสี่ยงต้อเนื้อ-ต้อลม thaihealth

แฟ้มภาพ

 


สธ.เตือนรังสียูวีอันตราย เสี่ยงโรคกระจกตาอักเสบ ต้อเนื้อ ต้อลม และต้อกระจก ผิวหนังไหม้เกรียม แนะเลี่ยงแดดช่วงเวลา 10.00-14.00 น. สวมหมวกปีกกว้าง แว่นกันแดด ถนอมสายตา


นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) และโฆษก สธ. กล่าวว่า รังสีอัลตราไวโอเลต หรือรังสียูวีในแสงแดด มีทั้งคุณและโทษต่อสุขภาพ ช่วยสังเคราะห์วิตามินดีที่ผิวหนัง และมีส่วนสำคัญในการสร้างเสริมเนื้อเยื่อกระดูก ผลเสียคือทำอันตรายต่อผิวหนัง อาจไหม้เกรียม เหี่ยวย่น เป็นอันตรายต่อดวงตา หากได้รับรังสียูวีโดยที่ไม่มีอุปกรณ์ป้องกัน โดยผลกระทบระยะสั้นที่เกิดขึ้นคือกระจกตาอักเสบ มีอาการแสบตา น้ำตาไหล แพ้แสง ตาแดง ระยะยาวเช่น ต้อเนื้อ ต้อลมหรือ ต้อกระจก


ข้อมูลจากสำนักนโยบายและยุทธศาสตร์ สธ.ปี 2557 พบผู้ป่วยโรคตาทุกชนิดเข้ารับการรักษาที่แผนกผู้ป่วยนอกกว่า 5.2 ล้านครั้ง และเข้ารับการรักษาในแผนกผู้ป่วยในด้วยโรคตา เยื่อบุตา และกระจกตาอักเสบ จำนวนกว่า 30,000 คน โรคต้อกระจกและความผิดปกติของเลนส์อื่นๆอีกกว่า 200,000 คน


"เพื่อป้องกันดวงตาให้ปลอดภัยจากรังสียูวี ผู้ที่ต้องทำงานกลางแจ้ง เช่น เกษตรกร ชาวสวน ช่างก่อสร้าง ชาวประมง ผู้ขับขี่รถในช่วงแดดจัด รวมทั้งผู้ที่อาศัยใกล้แม่น้ำ ทะเลมีแสงแดดสะท้อนจากผิวน้ำ ควรหลีกเลี่ยงอยู่กลางแดด โดยเฉพาะในช่วงเวลา 10.00 น.-14.00 น. ซึ่งมีปริมาณรังสีจะเข้มข้นและจะเข้มข้นมากที่สุดในช่วงเที่ยงวัน ถนอมสายตาด้วยการสวมหมวกที่มีปีกยื่นออกมาข้างหน้าและแว่นกันแดด โดยเลือกใช้แว่นที่สามารถกรองรังสีอัลตราไวโอเลต สำหรับคนที่ใส่แว่นสายตาเป็นประจำอยู่แล้ว ก็ถือว่าเป็นการป้องกันรังสีได้ในระดับหนึ่ง" โฆษก สธ.กล่าว


นอกจากนี้ ควรทาผลิตภัณฑ์กันแดด ในทุกๆจุดที่ไม่ได้อยู่ใต้เสื้อผ้าอย่างน้อย 15 – 30 นาทีก่อนออกไปเจอแสงแดด แม้ว่าจะเป็นวันที่มีเมฆมากก็ควรทาและทาทุกๆ 2 ชั่วโมง ตามคำแนะนำบนฉลากหรือตามที่ต้องการ โดยเฉพาะหลังจากการว่ายน้ำหรือเหงื่อออก สวมใส่เสื้อผ้าป้องกัน เป็นต้น



 

Shares:
QR Code :
QR Code