เตือนระวังโรคใหม่คล้ายเอดส์

 

จากกรณีการรายงานผลการวิจัยของนักวิจัยประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งตีพิมพ์ในวารสารทางการแพทย์ ระบุว่าพบโรคภูมิคุ้มกันทำลายตัวเองชนิดใหม่ในทวีปเอเชีย ที่ทำให้ผู้ป่วยมีอาการคล้ายกับโรคเอดส์ เชื่อพันธุกรรมและสิ่งแวดล้อมเป็นปัจจัยสำคัญของโรค โดยนักวิจัยของสถาบันสุขภาพแห่งชาติ หรือ nih ของสหรัฐ ระบุว่าโรคใหม่คือโรคภูมิคุ้มกันทำลายตัวเองในวัยผู้ใหญ่ (adult-onset immunodeficiency syndrome) นั้น

นพ.รุ่งเรือง กิจผาติ ผอ.สำนักโรคติดต่ออุบัติใหม่ และโฆษกกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) กล่าวถึงการเปิดเผยผลวิจัยดังกล่าวเริ่มทำตั้งแต่ในปี 2548 โดยศึกษาในประเทศไทยและไต้หวัน ซึ่งเป็นการรายงานผลการศึกษาในกลุ่มคนไข้ 200 คน ที่พบว่ามีลักษณะอาการของโรคคล้ายผู้ป่วยด้วยโรคเอดส์ที่จะมีภูมิต้านทานต่ำ และมีโอกาสป่วยด้วยเชื้อฉวยโอกาสสูง ซึ่งเรียกง่ายๆว่าโรคภูมิคุ้มกันทำลายตัวเองชนิดใหม่ ยืนยันว่าไม่ใช่โรคติดต่อ และไม่ใช่โรคติดต่ออุบัติใหม่ โดยสันนิษฐานว่าสาเหตุของโรคน่าจะเกิดจากพันธุกรรม โดยจากการศึกษาดังกล่าวพบผู้ป่วยเพียง 12 ราย ยังไม่ใช่สถานการณ์ที่น่าเป็นห่วงแต่อย่างใด

นพ.รุ่งเรืองกล่าวว่า สำหรับลักษณะของโรคภูมิคุ้มกันทำลายตัวเองมักพบในผู้ป่วยอายุ 50 ปีขึ้นไป โดยลักษณะของโรค โปรตีนที่มีหน้าที่ป้องกันเชื้อโรคถูกทำลายไป ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันเสียและเกิดติดเชื้อโรคฉวยโอกาสง่ายๆ จะเป็นโรคติดเชื้อได้ง่ายกว่าคนปกติ ไม่ว่าจะเป็นไวรัส แบคทีเรีย เชื้อรา หรือปรสิต ทำให้เกิดโรคที่ในคนทั่วไปซึ่งมีภูมิคุ้มกันปกติไม่ค่อยเกิดขึ้น เช่น วัณโรค คล้ายๆ ผู้ป่วยโรคเอดส์ แต่ไม่ได้เป็นโรคติดต่อ จึงไม่อยากให้ตื่นตระหนกในเรื่องดังกล่าว เนื่องจากผลงานวิจัยน่าเชื่อว่าโรคดังกล่าวเป็นโรคที่เกิดจากปัจจัยทางพันธุกรรม ไม่ใช่โรคติดต่อหรือโรคระบาดแต่อย่างใด ซึ่งการรายงานผลการวิจัยดังกล่าวเป็นเรื่องปกติทางการแพทย์ที่ต้องศึกษาเรื่องโรคใหม่ๆ ตลอดเวลา

 

 

 

ที่มา: หนังสือพิมพ์มติชน

Shares:
QR Code :
QR Code