เตือนรถรับ-ส่งนักเรียน ปฏิบัติตามกฎจราจร ป้องกันอุบัติเหตุช่วงเปิดเทอม

ที่มา: กรมควบคุมโรค

                    ในช่วงนี้หลายโรงเรียนเริ่มเปิดเทอมแล้ว สคร.9 นครราชสีมา มีความห่วงใย หวั่นเกิดอุบัติเหตุในการเดินทาง เนื่องจากอุบัติเหตุทางถนนที่เกิดขึ้นกับรถรับ-ส่งนักเรียนเป็นปัญหาสำคัญที่ทำให้เยาวชนบาดเจ็บพร้อมกันจำนวนมาก และอาจรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิต พร้อมเน้นย้ำคนขับรถรับ-ส่งนักเรียน ขอให้ปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัดเพื่อความปลอดภัยของนักเรียน

                    นายแพทย์ทวีชัย วิษณุโยธิน ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 9 นครราชสีมา กล่าวว่าอุบัติเหตุทางถนน เป็นปัญหาสำคัญของประเทศไทย โดยเฉพาะอุบัติเหตุทางถนนที่เกิดขึ้นกับรถรับ-ส่งนักเรียนที่ทำให้เกิดการบาดเจ็บพร้อมกันจำนวนมาก และอาจรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิต

                    ข้อมูลจากศูนย์ความร่วมมือด้านข้อมูลการบาดเจ็บ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ของเขตสุขภาพที่ 9 ปี 2567 ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 31 ตุลาคม 2567 พบการบาดเจ็บด้วยอุบัติเหตุทางถนน จำนวน 97,408 ราย มีผู้เสียชีวิต จำนวน 1,308 ราย แยกเป็นรายจังหวัด ดังนี้ 1) จ.นครราชสีมา มีผู้บาดเจ็บ 37,607 ราย เสียชีวิต 605 ราย 2) จ.บุรีรัมย์ มีผู้บาดเจ็บ 25,418 ราย เสียชีวิต 265 ราย 3) จ.ชัยภูมิ มีผู้บาดเจ็บ 14,492 ราย เสียชีวิต 191 ราย 4) จ.สุรินทร์ มีผู้บาดเจ็บ 19,891 ราย เสียชีวิต 247 ราย

                    โดยพบว่าสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุสูงสุดเกิดจากรถจักรยานยนต์ รองลงมาคือ ขับขี่รถจักรยานยนต์ล้มเองหรือไม่มีคู่กรณี  และรถปิคอัพ ตามลำดับ และยังพบว่าการเสียชีวิตจากรถจักรยานยนต์ จำนวน 725 ราย (อัตรา 11.63 ต่อประชากรแสนคน) โดยเมื่อวิเคราะห์ในกลุ่มเด็กและเยาวชนอายุน้อยกว่า 20 ปี เป็นกลุ่มที่ตายจากอุบัติเหตุทางถนนสูงสุด มีจำนวน 1,759 คน เฉลี่ยปีละ 352 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 17.48

                    นายแพทย์ทวีชัย วิษณุโยธิน ให้คำแนะนำในการป้องกันการเกิดอุบัติเหตุทางถนนที่เกิดกับรถรับ-ส่งนักเรียน ดังนี้

                    1) เลือกใช้บริการรถที่ได้มาตรฐานตามกรมการขนส่งทางบกกำหนด เช่น ที่นั่งโดยสารต้องยึดแน่น อย่างมั่นคงแข็งแรง ห้ามนักเรียนยืนโดยสาร รถทุกคันต้องติดแผ่นป้ายพื้นสีส้ม มีข้อความตัวอักษรสีดำ “รถโรงเรียน” ติดอยู่ด้านหน้าและท้ายรถ มีไฟสัญญาณสีเหลืองอำพันหรือไฟสีแดงเปิด-ปิดเป็นระยะ มีเครื่องมือจำเป็นกรณีฉุกเฉินติดตั้งในรถ เช่น เครื่องดับเพลิง ค้อนทุบกระจก และมีผู้ดูแลนักเรียนประจำอยู่ในรถตลอดเวลา

                    2) รถที่นำมาใช้ต้องได้รับการตรวจสภาพรถและซ่อมบำรุงรักษา ให้ได้มาตรฐานสม่ำเสมอตามระยะเวลาที่กำหนด หรือตรวจสภาพรถทันทีเมื่อพบว่าสภาพรถมีปัญหา

                    3) ไม่ใช้รถรับ-ส่งนักเรียนที่ดัดแปลงสภาพ หรือกลุ่มรถกระบะต่อเติมหลังคา

                    4) ห้ามบรรทุกนักเรียนเกินกว่าจำนวนที่นั่งบนรถ

                    5) มีการตรวจสอบชื่อเด็กนักเรียนขณะขึ้น-ลง และอย่าปล่อยเด็กขึ้นลงรถโดยลำพังเด็ดขาด

                    6) ต้องมีหนังสือรับรองจากโรงเรียนหรือสถานศึกษาให้รับ-ส่งนักเรียน

                    7) ผู้ขับขี่ต้องได้รับใบอนุญาตขับรถส่วนบุคคลมาแล้วไม่น้อยกว่า 3 ปี หรือได้รับใบอนุญาตขับรถสาธารณะ และผู้ขับขี่ต้องปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด ไม่ขับรถเร็ว ไม่ดื่มเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ หรือใช้ยาหรือสารที่ออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท คาดเข็มขัดนิรภัยทุกครั้ง

                    ทั้งนี้หากพบเห็นผู้บาดเจ็บจากอุบัติเหตุทางถนน ขอให้โทรแจ้งทีมแพทย์กู้ชีพ โทร. 1669 ไม่ควรเคลื่อนย้ายผู้บาดเจ็บด้วยตนเอง หากมีข้อสงสัย สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วยกรมควบคุมโรค โทร.1422

Shares:
QR Code :
QR Code