ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ

แฟ้มภาพ

"รองนายกฯ ฉัตรชัย" ห่วงวิกฤตแล้งเขื่อนใหญ่อีสานน้ำเหลือน้อยสั่งให้เตรียมพร้อมระดมฝนหลวงเติมอ่างให้มากสุด

พลเอกฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยขณะเดินทางตรวจและฟังสรุปสถาการณ์น้ำที่เขื่อนอุบลรัตน์ จังหวัดขอนแก่น ว่า เดินทางมาในภาคอีสานวันนี้เนื่องจากเป็นห่วง 2 เขื่อนหลัก คือเขื่อนอุบลรัตน์และเขื่อนลำนางรอง ที่มีน้ำน้อยมาก เพื่อจะรับทราบปัญหาและวางแผนร่วมกันบริหารจัดการน้ำร่วมกัน จะต้องทำอย่างระมัดระวัง จะต้องใช้น้ำที่มีในเขื่อนให้คุ้มค่าที่สุด เป็นไปตามลำดับความสำคัญ โดยเพื่อการอุปโภคบริโภคเป็นลำดับแรก ลำดับต่อมาคือเพื่อการรักษาระบบนิเวศน์ ส่วนภาคเกษตรต้องมาปรับใหม่หมด ว่าจะทำเกษตรมากน้อยแค่ไหนทั้งในและนอกเขตชลประทาน

การบริหารจัดการน้ำของเขื่อนอุบลรัตน์มีหลักเกณฑ์อยู่แล้วในการรักษาระดับน้ำให้อยู่ใน rule curve แต่ช่วงที่มีปัญหาอยู่ระหว่าง 2 เดือนที่ผ่านมา จากคาดการณ์ว่าจะมีฝนแต่ปรากฏว่าฝนเข้ามาน้อย ต่ำกว่าเกณฑ์มาก ส่งผลให้น้ำในเขื่อนอยู่ในเกณฑ์ที่น่าห่วงใย แค่ 37 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น

ทั้งนี้เมื่อวางแผนไว้เรียบร้อยแล้ว สิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่งจะต้องแจ้งให้พี่น้องประชาชนทราบโดยเร็ว โดยในด้านการเกษตรเองนั้น ก็ต้องเร่งดำเนินการก่อนจะเก็บเกี่ยวข้าวนาปี ต้องชัดเจนว่าพื้นที่ไหนต้องทำอะไร ต้องทำเกษตรแบบไหน หรือต้องงดการเกษตร หันมาเลี้ยงสัตว์ระยะสั้นแทน รวมทั้งการจ้างงานของหน่วยงานเพื่อให้เกษตรกรมีรายได้ ให้เกษตรสามารถอยู่ได้เมื่อต้องงดการทำเกษตร เพราะถ้าช้าอาจจะมีหลายคนเตรียมการลงทุนไปแล้ว

อีกเรื่องที่ได้ขอให้ทางเขื่อนทุกเขื่อนทำ คือมาตรการรักษาระดับในเขื่อน ที่เรียกว่า upper rule curve หรือ lower rule curve ที่จะต้องมีการทบทวนใหม่ในเกณฑ์ที่กำหนด ให้สามารถเปลี่ยนแปลงและเหมาะสมกับสถานการณ์ของน้ำในแต่ละปี

แม้ว่าปีนี้เขื่อนอุบลรัตน์จะมีน้ำแค่ 37 เปอร์เซ็นต์ ถือว่ายังดีกว่าปี 2558 ซึ่งมีน้ำแค่ 20 กว่าเปอร์เซ็นต์เท่านั้น จำเป็นต้องใช้น้ำ dead storage ได้ขอให้ทางจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รียมแผนงานรองรับเรื่องนี้ว่า ในปี 58 เราผ่านพ้นได้มีพื้นที่เกษตรกรรมเสียหายน้อย เพราะเราเตรียมการณ์ดี วันนี้เดินทางมาล่วงหน้าวันนี้เพื่อให้เตรียมการณ์ในลักษณะนั้น อย่างน้อยก็ต้องเสียหายน้อยกว่า เพราะปีนี้เรามีน้ำมากกว่า ลดความเสียหายให้ได้ จึงเป็นเป้าหมายที่เดินทางมาโดยตรง อยากเห็นการทำงานร่วมกัน การแก้ปัญหาเรื่องน้ำแก้โดยหน่วยงานเดียวไม่ได้ ข้อมูลของน้ำที่ดูแลโดยการไฟฟ้า มีข้อมูลหมด แต่ข้อมูลนี้ต้องถ่ายลงไปจังหวัดไปหน่วยงานทีเกี่ยวข้องทั้งหมด และบูรณาการร่วมทำงานร่วมกัน สร้างความรับรู้ให้กับพี่น้องประชาชน เร็วที่สุดจะได้เตรียมการถูก พร้อมกับแนวทางการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนต้องคู่กันไป และแก้ปัญหาที่จังหวัดเดียวก็ไม่ได้ เพราะน้ำที่ปล่อยไปไม่ใช่แค่ขอนแก่น แต่มีจังหวัดอื่นๆที่อยู่ท้ายน้ำด้วย จึงต้องแก้ปัญหาร่วมกันเป็นกลุ่มจังหวัด

ในขณะเดียวกันได้สั่งเพิ่มเติมอีกว่า ฝนหลวงต้องพร้อมตลอดเวลา สแตนด์บายไว้เลย ถ้าอากาศพร้อมมีความชื้นสัมพัทธ์ ก็ต้องระดมลุยทันที แม้ว่าในเดือนตุลาคมนี้โอกาสเริ่มน้อย แต่ก็เราก็ต้องพร้อม ที่จะเติมน้ำในอ่างให้มากที่สุด หรือแม้แต่ท้ายอ่างด้วยก็จำเป็นต้องทำถ้ามีโอกาสความชื้นเหมาะสม

รองนายกรัฐมนตรี กล่าวย้ำอีกว่า ได้ขอให้ทางผู้ว่าราชการจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องเริ่มรณรงค์เชิญชวนพี่น้องประชาชนที่อยู่ท้ายเขื่อนอุบลรัตน์ทั้งหมด ใช้น้ำอย่างประหยัด อย่างคุ้มค่า แม้แต่การท่องเที่ยว อุตสาหกรรม หรือกิจการที่เกี่ยวข้องต้องระมัดระวังการใช้น้ำ แม้แต่พี่น้องประชาชนที่ใช้น้ำอุปโภคบริโภค ทุกคนร่วมมือกันแล้วจะผ่านวิกฤตปีหน้าไปได้แน่นอน