เติมรักให้เต็มใจ สสส. ชวนวัยรุ่นไทย “บอกรักด้วยหนังสือ”
สสส.รณรงค์มอบความรักที่ลึกซึ้ง สร้างค่านิยมใหม่ในเทศกาลแห่งความรัก ด้วยการมอบหนังสือสื่อแทนใจให้แก่กัน
แผนงานสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่าน สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ สสส. ร่วมกับ ศูนย์หนังสือจุฬาฯ , สยามสแควร์ และภาคีเครือข่ายส่งเสริมการอ่าน จัดงาน “บอกรักด้วยหนังสือ : say i love you with a book” ในวันวาเลนไทน์ที่ 14 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา 12.00 – 14.00 น. ณ ลาน park@siam เชิญชวนคู่รักร่วมกิจกรรมบอกรักหลากวิธีเก๋ไก๋ อาทิ d.i.y “pop up card” จากกลุ่ม bookloverclub ,กิจกรรมวาดภาพการ์ตูนล้อแด่คู่รักที่จูงมือมาร่วมงาน จากกลุ่มเครือข่ายการ์ตูนไทยสร้างสุข และฟังเสวนา“บอกรักด้วยหนังสือ” จากดารานักแสดงจากละครสุภาพบุรุษ จุฑาเทพ คุณ(โป๊บ) ธนวรรธน์ วรรธนะภูติ
คุณสุดใจ พรหมเกิด ผู้จัดการแผนงานสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่าน กล่าวว่า “ช่วงเทศกาลวันแห่งความรัก ที่หลายคนรอคอยโดยเฉพาะวัยรุ่น ต่างมองหาของขวัญที่ถูกใจเพื่อมอบให้แก่คนรัก มีผลสำรวจสภาวการณ์เด็กและเยาวชนของ สถาบันรามจิตติ ปีที่ผ่านมา พบว่าเด็กและเยาวชนไทยมีรายได้หรือค่าขนมเฉลี่ยเพียง 2,175.91 บาท/เดือน และเมื่อเทียบกับผลสำรวจจากมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยในปีนี้ ที่คาดการณ์ว่า จะมีเม็ดเงินสะพัดกว่า 3 พันล้านบาท เฉลี่ยต่อคนแล้วประมาณกว่า 1,500 บาท ซึ่งเกินกว่า 60 % ของค่าขนมทั้งเดือน นับว่าเป็นตัวเลขที่สูงมาก หากย้อนคำนึงถึงความยั่งยืน ความทนทาน และการใช้งานที่ได้รับจากของขวัญที่หากเป็นเพียงดอกกุหลาบแสนสวย หรือช่อโตๆ ซึ่งไม่นานก็จะโรยรา หรือเดี๋ยวนี้นิยมเป็นช็อคโกแลตแสนหวาน แต่หากทานมากเกินไปอาจเกิดปัญหาสุขภาพตามมา เช่น โรคอ้วน โรคความดันโลหิตสูง เป็นต้น
“เมื่อเทียบกับการซื้อหนังสือดีเพียงหนึ่งเล่มที่เฉลี่ยราคาแล้วไม่เกินเล่มละ 200 บาทหรือไม่เกิน 10% ของค่าขนมทั้งเดือน แต่มากด้วยคุณค่าของความงดงามด้านศิลปะ การร้อยเรียงภาษาและความหมายที่บ่งบอกเรื่องราวอย่างลึกซึ้งแทนใจที่เราไม่อาจบอกได้หมด หรือมอบควบคู่กันไปก็จะเพิ่มคุณค่าแห่งรัก ช่วยเติมเรื่องราวดีๆให้กับคนที่เรารัก เราปรารถนาดี เพราะการอ่านหนังสือดีๆเพียงเล่มเดียว สามารถเปลี่ยนทัศนคติ ความคิด และหรือเกิดแรงบันดาลใจให้คนเรามุ่งมั่นที่จะทำในสิ่งที่ตนเองรักและฝันใฝ่ จนประสบผลสำเร็จในชีวิต ในประเทศไทย มีผู้ประสบความสำเร็จไม่น้อยจากการมีนิสัยหลงรักการอ่าน อาทิ คุณบัณฑิต อึ้งรังสี, คุณหนูดี วนิสา เรซ, คุณเปอร์ สุวิกรม อัมระนันทน์,คุณโหน่ง วงศ์ทนง ชัยณรงค์สิงห์ รวมถึงท่านพระมหาวุฒิชัย ว.วชิรเมธี เป็นต้น”
“การอ่านนอกจากจะทำให้เราเพลิดเพลิน เกิดแรงบันดาลใจ และเกิดจินตนาการแล้ว มีงานวิจัยหลายชิ้นพบว่า การอ่าน ทำให้มนุษย์เรามีความเห็นอกเห็นใจผู้อื่น คณะผู้วิจัยได้ศึกษางานวรรณกรรมยอดฮิตอย่าง แฮร์รี่ พอตเตอร์ และ แวมไพร์-ทไวไลท์ และพบว่า หนังสือประเภทวรรณกรรม “ให้” มากกว่าความเพลิดเพลิน แม้แต่การจมดิ่งไปกับโลกแฟนตาซี บันเทิงคดีก็ได้ “ให้โอกาส” ในการติดต่อเชื่อมโยงกับสังคม และความรู้สึกสบายใจที่มาจากการได้เป็นส่วนหนึ่งของสังคมที่ใหญ่กว่าตัวเอง แม้จะชั่วขณะหนึ่ง แต่ก็เป็นสิ่งมีค่ามาก”
“เนื่องในวันแห่งความรักนี้จึงขอเชิญชวนคนรุ่นใหม่มอบของขวัญที่ทรงคุณค่ายิ่งให้แก่กันและกัน นั่นคือ “หนังสือ” อยากให้น้องๆลองเปิดใจเลือกสรรหนังสือดี เป็นสื่อในการบอกรัก เพราะไม่ว่าจะช่วงเวลาหรือเทศกาลไหนๆหรือผ่านวันแห่งความรักไปแล้ว คนรักของเราก็ยังสามารถหยิบของขวัญชิ้นนี้ขึ้นมาอ่านได้ตลอดเวลา เสมือนเป็นสื่อแทนใจที่จารึกไว้ในความทรงจำ” คุณสุดใจ กล่าวย้ำทิ้งท้าย
สำหรับนักแสดงหนุ่ม (โป๊บ) ธนวรรธน์ วรรธนะภูติ ที่ชื่นชอบในการอ่าน ได้คัดเลือกหนังสือมอบให้กับคุณแม่ในวันเทศกาลแห่งความรักนั่นคือ หนังสือ “ถามจากสมอง ตอบจากหัวใจ” ซึ่งเป็นหนังสือของ ท่าน ว.วชิรเมธี หนังสือเล่มนี้ มีเนื้อหาเกี่ยวกับ ชีวิต ความรัก และ ปัญญา ท่าน ว.วชิรเมธีตอบคำถามสำหรับทุกคนที่มีคำถามค้างคาใจ และเป็นเรื่องใกล้ตัว ซึ่งข้อคิดที่ได้จากหนังสือทำให้ผมนำมาใช้ในชีวิตได้ อย่างเช่นที่ท่านบอกว่า บางสิ่งเมื่อสุดมือสอยก็ต้องปล่อยมันไป คือ เราทำหน้าที่ของเราอย่างดีที่สุดแล้ว เขาจะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย เราก็ปล่อยให้เป็นเรื่องของเขา ข้อคิดเหล่านี้ก็จะได้จากการอ่าน จึงอยากเชิญชวนให้ทุกคนมาสร้างวัฒนธรรมการอ่านในสังคมไทยของเราครับ
ที่มา : หนังสือพิมพ์แนวหน้า