เตรียมพร้อมห้องปฏิบัติการ ตรวจไข้หวัดนก H10N8

กรมวิทย์ฯ เตรียมพร้อมห้องปฏิบัติการตรวจไข้หวัดนกสายพันธุ์ใหม่ h10n8 หลังพบคนติดเชื้อเป็นครั้งแรกที่ฮ่องกง

นพ.อภิชัย มงคล อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เปิดเผยว่า จากกรณีที่มีข่าวพบผู้ป่วยและเสียชีวิตด้วยโรคไข้หวัดนกสายพันธุ์ h10n8 ในเขตบริหารพิเศษฮ่องกงแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งถือว่าเป็นการพบในคนเป็นครั้งแรก จากการสอบสวนโรคเบื้องต้นพบว่าผู้ป่วยมีประวัติเดินทางไปตลาดสดค้าสัตว์ปีกในท้องถิ่นและเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลท้องถิ่นและเสียชีวิตด้วยอาการโรคปอดอักเสบรุนแรง ขณะนี้ยังไม่พบบุคคลในครอบครัวและสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยที่อยู่ภายใต้การเฝ้าระวังทางการแพทย์แสดงอาการเจ็บป่วยหรือผิดปกติ

สำหรับเชื้อก่อโรคไข้หวัดนกสายพันธุ์ใหม่ h10n8 เป็นเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่หรือ influenza virus ซึ่งแยกเป็น 3 ชนิดคือ a, b และ c แต่ที่ก่อโรคในคนและสัตว์มักพบเป็นชนิด a และ b ชนิด a มักจะก่อโรครุนแรงได้ทั้งในคนและสัตว์ ปัจจุบันเรามักจะได้ยินชื่อไข้หวัดใหญ่อยู่ 3 แบบคือ ไข้หวัดนก ไข้หวัดหมู และไข้หวัดตามฤดูกาล ซึ่งเกิดโรคในคนและมีการระบาดเป็นประจำทุกปี แต่ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาไข้หวัดนกได้กลายพันธุ์ข้ามจากโรคของสัตว์ปีกมาก่อโรครุนแรงในคน ซึ่งประเทศไทยและอีกหลายประเทศได้ประสบปัญหาร้ายแรงกระทบต่อทั้งด้านเศรษฐกิจและสาธารณสุขมาแล้วเมื่อปี พ.ศ. 2546 จากไข้หวัดนก h5n1 ในประเทศจีน ไต้หวัน ฮ่องกง พบไข้หวัดนกสายพันธุ์ใหม่ h7n9 เมื่อเดือนมีนาคม 2556 ตามมาด้วยไข้หวัดนกสายพันธุ์ใหม่ h10n8 ในประเทศจีนอีกครั้ง

โดยทั่วไปเชื้อไข้หวัดนกแบ่งเป็น 2 ชนิด ตามความรุนแรงของอาการในสัตว์ปีก คือชนิดไม่รุนแรง และชนิดรุนแรงมาก ซึ่งชนิดนี้พบในชนิดย่อย (subtype) h5 และ h7 การที่เชื้อแบ่งเป็นชนิดย่อยตาม h (hem agglutinin) และ n (neuraminidase) ก็เนื่องจากโปรตีนทั้ง 2 ชนิดที่อยู่บนเปลือกหุ้มของไข้หวัดใหญ่ชนิด a มีคุณสมบัติแตกต่างกัน ทำให้แยก h ออกเป็น h1 ถึง h18 และ n แยกเป็น n1 ถึง n11 และหากเชื้อ 2 ชนิด ที่มีองค์ประกอบของ h และ n ต่างกันมาผสมข้ามสายพันธุ์ก็อาจได้ลูกผสมสายพันธุ์ใหม่ ซึ่งเกิดจากการสลับชิ้นส่วนของ h และ n ของเชื้อตั้งต้น 2 ชนิด ซึ่งลูกผสมสายพันธุ์ใหม่นี้ (reassortant virus) อาจมีคุณสมบัติที่สามารถแพร่เชื้อในคนและก่อให้เกิดอาการรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้ แม้ว่าจะไม่ใช่สายพันธุ์ใหม่ในสัตว์ แต่เมื่อไวรัสตัวเดียวกันนี้มาพบติดเชื้อในคนเป็นครั้งแรก เราจึงเพิ่มชื่อ “สายพันธุ์ใหม่” เข้าไปด้วย เช่น เชื้อไข้หวัดนกสายพันธุ์ใหม่ h5n1, h7n9 และ h10n8 เป็นต้น

นพ.อภิชัย กล่าวต่อว่า สำหรับการเตรียมความพร้อมในการเฝ้าระวังโรคไข้หวัดนกสายพันธุ์ใหม่ h10n8 นั้น กรมฯ สามารถตรวจวิเคราะห์หาสายพันธุ์ไข้หวัดนกชนิด h10n8 ได้ โดยห้องปฏิบัติการส่วนกลางใช้วิธีหาลำดับเบสของสารพันธุกรรมหรือยีนส่วน h และ n (gene sequencing) ในการตรวจยืนยันสายพันธุ์ไข้หวัดนก h10n8 และกำลังขยายศักยภาพการตรวจวิเคราะห์แบบรวดเร็วไปยังห้องปฏิบัติการศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ในส่วนภูมิภาคอีก 14 แห่ง เพื่อให้สามารถรายงานผลได้ภายใน 24 ชั่วโมง นับตั้งแต่ที่ห้องปฏิบัติการกรมฯ ได้รับตัวอย่าง โดยข้อมูลและเชื้อไวรัสเหล่านี้จะมีการแลกเปลี่ยนกับองค์การอนามัยโลก (who) อย่างใกล้ชิด และจัดตั้งระบบการเฝ้าระวังโรคให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งในส่วนกลาง ได้แก่ ศูนย์ไข้หวัดใหญ่แห่งชาติ สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์สาธารณสุข และในส่วนภูมิภาค ได้แก่ ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ทั้ง 14 แห่ง ที่สามารถให้บริการตรวจวิเคราะห์ทางห้องปฏิบัติการได้อย่างครอบคลุมทั่วประเทศ

 

 

ที่มา : สำนักข่าวไทย

Shares:
QR Code :
QR Code