เด็กออกกําลังกายดีอย่างไร

ที่มา : หนังสือเด็กต้องออกมาเล่น โดยศูนย์เรียนรู้สุขภาวะ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)


เด็กออกกําลังกายดีอย่างไร   thaihealth


แฟ้มภาพ


การออกกําลังกายช่วยป้องกันภาวะอ้วนในเด็กเล็กที่มักเกิดจากการทานขนมกรุบกรอบ​การเอาแต่นั่งๆ​ นอนๆ ​ดูทีวี​นอกจากนี้การเคลื่อนไหวร่างกายจะช่วยกระตุ้นให้ร่างกายสร้างฮอร์โมนการเจริญเติบโต​ช่วยด้านระบบการย่อยอาหารและการขับถ่าย​สร้างมวลกระดูกกล้ามเนื้อที่ส่งผลให้เด็กมีการเจริญเติบโตที่ดี​ความสูงเพิ่มขึ้น​น้ำหนักตัวเหมาะสม​ 


นอกจากนี้ยังมีผลการวิจัยทั่วโลกบอกว่า​หากเด็กมีกิจกรรมทางกายทุกวันจะทําให้ผลการเรียนดีขึ้น​ เพราะเด็กจะมีร่างกายแข็งแรง​คล่องตัวอารมณ์แจ่มใส​และยังทําให้สมองของเด็กตื่นตัวในทุกมิติ​ โดยเฉพาะด้านการคิดวิเคราะห์​ การตัดสินใจ​สมาธิ​และความจํา​รวมถึงการสร้างมนุษยสัมพันธ์กับผู้อื่น


พัฒนาการของเด็กแต่ละวัยกับการออกกําลังกาย


เด็กแต่ละวัยมีพัฒนาการที่แตกต่างกัน​ดังนั้นการเลือกการออกกําลังกายก็ควรเลือกให้เหมาะสมกับพัฒนาการในวัยนั้นๆ


เด็กทารก (แรกเกิด-1 ปี)​  เด็กวัยนี้จะมีพัฒนาการในการหัดเดินและการขยับร่างกาย​กิจกรรมเคลื่อนไหวร่างกายที่เหมาะคือ​การฝึกขยับกล้ามเนื้อ​เช่น​ท่ากําาหรือคว้า​ท่าดึง​และท่าผลัก​เป็นต้น


วัยอนุบาล-เด็กเล็ก (2-6 ปี)​ เด็กวัยนี้เริ่มมีพัฒนาการทางกล้ามเนื้อดีขึ้นตามลําดับ จะชอบวิ่ง​ชอบกระโดด​ชอบการโยนขว้าง​และชอบเตะบอล​ชอบเล่นเครื่องปีนป่าย​และชอบเล่นน้ำ​ โดยวัยนี้ไม่ควรให้ออกกําาลังกายที่ตั้งกฎ​กติกา​หรือมีระเบียบ​และต้องบอกกับเด็กเสมอว่า​“นี่คือการเล่น” สิ่งที่ต้องระวังคือเรื่องอุบัติเหตุ​เช่น ​หกล้ม​ เพราะเด็กวัยนี้ยังมีการประสานงานระหว่างสมอง​ตา​ กล้ามเนื้อไม่ดีพอ​แต่ก็เป็นวัยที่ควรออกกําลังกายหรือมีกิจกรรมทางกายที่กระฉับกระเฉงทุกวัน


เด็กวัยประถม (7-12 ปี)​ เด็กวัยนี้จะมีพัฒนาการทางกล้ามเนื้อการเคลื่อนไหวที่สมบูรณ์ขึ้น​สามารถจัดการเล่นที่มีความซับซ้อนเพิ่มกว่าเด็กวัยอนุบาล​เล่นโดยมีกฎระเบียบกติกาได้บ้าง​แต่ต้องเข้าใจง่าย  ​และควรส่งเสริมให้เด็กเล่นกีฬาหลากหลายประเภท ​เพื่อเป็นการพัฒนาทุกส่วนของร่างกาย​โดยให้ใช้การเคลื่อนไหวร่างกายหลากหลายสลับกันไป​และเด็กวัยนี้ต้องการมีส่วนร่วมในกิจกรรมหลายประเภท​ ซึ่งมีความสนุกและตอบสนองต่อความสนใจของพวกเขาเพื่อพัฒนาทักษะความสามารถพัฒนาการของเด็กแต่ละวัยกับการออกกําลังกาย


ตัวอย่างกิจกรรมออกกําลังกายสําหรับเด็กเล็ก


หลักสําคัญสําหรับการออกกําลังกายในเด็กเล็กที่จะทําให้เด็กสนใจการออกกําลังกายก็คือ​ ต้องทําให้เด็กรู้สึกสนุกกับกิจกรรมนั้นๆ ​เหมือนเป็นการเล่น​เพราะเด็กจะไม่อยากออกกําลังกายถ้าไม่มีความชอบกับกิจกรรมนั้นๆ​หรือรู้สึกว่าถูกบังคับ​ดังเช่นตัวอย่างกิจกรรมออกกําลังกายต่อไปนี้


เล่นกระโดดข้ามขอนไม้


วิธีการ : ผู้ใหญ่นั่งบนพื้นเหยียดขาสองข้าง​แยกเท้าสองข้างประมาณ​1​ฟุต​ให้เด็กกระโดดข้าม


ผลที่ได้รับ​:​ ฝึกให้เด็กใช้ความสัมพันธ์ระหว่างขากับสายตาในการก้าว​โดยฝึกการประมาณความสูงของขาที่ยกข้ามไป


เล่นลอดใต้สะพาน


วิธีการ : ผู้ใหญ่คร่อมตัวบนพื้น​เหยียดแขนขาสองข้างเป็นสะพาน​ให้เด็กวิ่งรอบตัว​พอจะลอดใต้สะพานให้ย่อตัวลง​หรือจะคลานลอดใต้สะพานไปก็ได้


ผลที่ได้รับ​:​ช่วยส่งเสริมให้เด็กฝึกใช้ความสัมพันธ์ระหว่างแขนขาทั้งสองข้างกับการประมาณระยะความสูง


เล่นกระโดดข้ามห้วย


วิธีการ : นําาเทปกาวหรือชอล์กขีดเส้นตรงไว้เพื่อกําหนดขอบเขตบนพื้น​(เหมือนเป็นเขตห้วยหรือลําธาร)​แล้วให้เด็กกระโดดข้าม​ อาจจะให้เด็กกระโดดข้ามโดยการเปลี่ยนความกว้างของเทปกาวออกทีละนิด​แต่ต้องคอยระวังเด็กจะลื่นล้ม


ผลที่ได้รับ​:​​ ฝึกการเหวี่ยงแขนทั้งสองข้างเพื่อกระโดดโดยใช้สองขา​จะสังเกตพัฒนาการของเด็กจากการแกว่งแขนและย่อขาเพื่อกระโดด


เล่นแซมซันทรงพลัง


วิธีการ : ให้เด็กยืนห่างจากกําแพงเล็กน้อย​ลํา าตัวตรงและส้นเท้าอยู่ติดพื้น​แล้วใช้มือสองข้างยันกําแพงดันและค่อยๆ​ผ่อนลง​เอาจมูกแตะกําแพงทําสลับกัน​ในขณะเดียวกันบอกเด็กว่า​เน้นการยืดเหยียดแขน​อก​  น่อง​   ข้อเท้าถามเด็กว่า​รู้สึกตึงที่ขาและน่องใช่ไหม


ผลที่ได้รับ​:​ฝึกให้เด็กมีการหดยืดกล้ามเนื้อ​เน้นการทํายืดเหยียดกล้ามเนื้อแบบง่ายๆ​ไม่ซับซ้อน


เล่นจิงโจ้กระโดด


วิธีการ : ผู้ใหญ่จับมือสองข้างของเด็กไว้แล้วให้เด็กกระโดด​(อาจจะกระโดดเร็วช้าสลับกันก็ได้)ถ้าเด็กเหนื่อยก็หยุด​หายเหนื่อยก็กระโดดใหม่


ผลที่ได้รับ​:​ เพื่อฝึกการใช้ขาทั้งสองข้างให้สัมพันธ์กัน​เมื่อหายใจแรงหอบ​แสดงว่าเหนื่อย​ให้หยุดกระโดดเป็นช่วงๆ


เล่นฝึกทรงตัว


วิธีการ : ให้เด็กนําหนังสือหรือสิ่งของวางไว้บนศีรษะแล้วเดินโดยที่ของบนศีรษะไม่ตกหล่น


ผลที่ได้รับ​:​ เพื่อฝึกการทรงตัวซึ่งต้องมีทั้งความสัมพันธ์ของกล้ามเนื้อในการเดินและระบบประสาท​มีการเกร็งต้นคอ​การถ่ายน้ำหนักมาด้านซ้ายและขวาของแต่ละส่วนของร่างกาย


เล่นโยกเยกเอย


วิธีการ : ผู้ใหญ่นั่งบนพื้นเหยียดเท้าแยกขาออก​เด็กนั่งระหว่างขา​  มือจับกับผู้ใหญ่แล้วผ่อนมือให้เด็กเอนตัวลงนอน​แล้วดึงให้เด็กกลับมานั่ง​ทํา ซ้ำไปมาและร้องเพลง​“โยกเยกเอย น้ำท่วมเมฆ กระต่ายลอยคอ หมาหางงอ ขี่คอโยกเยก”


ผลที่ได้รับ​:​​ เพื่อฝึกความแข็งแรงของกล้ามเนื้อส่วนลําตัว​หน้าท้อง​โดยการดึงตัวเด็กขึ้น


เล่นไถนา


วิธีการ : ให้เด็กนอนคว่ำมือยันพื้น​ผู้ใหญ่ค่อยๆ ​จับข้อเท้าของเด็กยกขึ้น​พอให้แขนตึง​แล้วให้เด็กเดินโดยใช้แขนของเด็กเอง​โดยผู้ใหญ่คอยเดินตาม


ผลที่ได้รับ​:​เพื่อฝึกความแข็งแรงของแขนทั้งสองข้างที่ต้องรองรับน้ำหนักตัวของตัวเองและเรียนรู้การถ่ายน้ำหนักที่แขนซ้ายขวาสลับกัน​เด็กที่ไม่แข็งแรงจะไม่สามารถยกตัวขึ้นได้


เล่นยืนกระต่ายขาเดียว


วิธีการ : ให้เด็กยืนเท้าเดียว​ยกขาไปข้างหลัง​แล้วนับ​1-5​  ช้าๆ ​แล้วค่อยๆ​นับเพิ่ม​สลับกับให้ยืนทรงตัวท่าอื่นบ้าง​เช่น​  ยืนแล้วยกขาไปข้างหน้า​เป็นต้น


ผลที่ได้รับ​:​ เพื่อฝึกการสร้างสมดุล​โดยการถ่วงน้ำหนักตัว​และการใช้แขนและลําตัวส่วนบนช่วยในการถ่ายน้ำหนัก


เล่นตั้งไข่ล้ม


วิธีการ : เด็กนั่งบนพื้น​กางขาออกแล้วงอเข่าสองข้างให้ฝ่าเท้าประกบเข้าหากัน​มือเด็กจับข้อเท้าไว้​จากนั้นให้เด็กโยกตัวซ้ายขวา


ผลที่ได้รับ​:​เพื่อฝึกการยืดเหยียดกล้ามเนื้อและการทรงตัว​โดยใช้การโยกตัวไปมา


เล่นบอลกัน


วิธีการ : ขั้นแรกให้โยนบอลใกล้ๆ​ให้เด็กรับได้​ต่อมาทําาท่าให้ยากขึ้นตามลําาดับ​เช่น​   ให้ลูกบอลตกพื้นกระดอน​1​ครั้งจึงให้เด็กรับลูกบอล​แล้วประยุกต์ท่าอื่นๆ​ให้ยากขึ้นตามลําดับ


ผลที่ได้รับ​:​เพื่อฝึกความสัมพันธ์ของมือทั้งสองข้างกับสายตา

Shares:
QR Code :
QR Code