เชียงราย ต้นแบบเมืองอาหารปลอดภัย

เชียงราย ต้นแบบเมืองอาหารปลอดภัย thaihealth


สสส.ชู 'เชียงราย' ต้นแบบ เมืองอาหารปลอดภัย ส่งเสริมการท่องเที่ยวเส้นทางเกษตรสีเขียว


ปัจจุบันการบริโภคพืชผักปลอดภัยจากสารเคมีหรือจากเกษตรอินทรีย์ กำลังได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย เพราะผู้คนให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพมากขึ้น นายบุญส่ง เตชะมณีสถิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย กล่าวในพิธีต้อนรับคณะสื่อมวลชนที่เดินทางมาศึกษาดูงานพื้นที่ต้นแบบด้านสุขภาวะจังหวัดเชียงราย เมืองเกษตรสีเขียว อาหารปลอดภัยใน "โครงการบูรณาการอาหารปลอดภัย เชียงรายเป็นสุข" ว่า เชียงรายเป็นเมืองท่องเที่ยว และเป็นจังหวัดหนึ่งที่ได้ให้ความสำคัญกับการทำเกษตรอินทรีย์ มีพลเมืองถึง 1,200,000 คน


ในแต่ละปีมีนักท่องเที่ยวหลั่งไหลเข้ามาเยือนมากกว่าล้านคน มากิน มาเที่ยวเป็นจำนวนมาก จึงได้ร่วมกับหน่วยงานจากทั้งภาครัฐ และเอกชน รวมทั้งสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) รวมตัวทำโครงการบูรณาการอาหารปลอดภัย เชียงรายเป็นสุข นำเอาเรื่องอาหารปลอดภัยมาส่งเสริมการท่องเที่ยว เพื่อรองรับประชาชนและนักท่องเที่ยวที่มาเยือนให้ชาวเชียงรายและนักท่องเที่ยว ได้รับความปลอดภัยจากอาหารการกิน อีกทั้งยังได้กำหนดให้เกษตรอินทรีย์เป็นวาระจังหวัดเชียงรายเมืองเกษตรสีเขียวอาหารปลอดภัย เป็นแห่งแรกของประเทศ มีการจัดตั้งศูนย์ตรวจเชียงราย ต้นแบบเมืองอาหารปลอดภัย thaihealthคุณภาพพืชผักที่ ต.นางแล อ.เมือง จ.เชียงราย พร้อมเปิดตลาดเกษตรกรทุกวันศุกร์ ณ แยกดอยตอง มณฑลทหารบกที่ 37


นายสุเทพ ทิพย์รัตน์ เกษตรจังหวัดเชียงราย กล่าวว่า แนวคิดในการขับเคลื่อนเรื่องอาหารปลอดภัยของจังหวัดเชียงราย ต้องปลอดภัยตั้งแต่ ต้นน้ำ (เกษตรกร/ผู้ผลิต) กลางน้ำ (ผู้แปรรูป/ผู้ขนส่ง/ผู้ขาย) และปลายน้ำ (ผู้บริโภค) โดยการสร้างเครือข่ายเกษตรกรผู้ผลิต พืชผักปลอดสารพิษด้วยวิถีเกษตรอินทรีย์ และสร้างผู้ซื้อ คือร้านอาหาร เชื่อมโยงเข้าด้วยกัน การสร้างระบบตลาดสีเขียวให้เกษตรกรมีแหล่งจำหน่ายสินค้าและให้ประชาชนผู้บริโภคเข้าถึงแหล่งอาหารปลอดภัยซึ่งหัวใจหลักของการสร้างเมืองเกษตรสีเขียวและอาหารปลอดภัย หรือ Chiangrai Green Network มี 5 องค์ประกอบ ที่สำคัญได้แก่ Green Community, Green Service, Green Health, Green Plus และ Green Heart โดยนำการเกษตรเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจ ขับเคลื่อนด้วยการพัฒนาระบบความปลอดภัยด้านอาหารตลอดห่วงโซ่อาหารระบบคุณภาพร้านอาหารมาตรฐานสากล (TRQS) และแผนการตลาด G Network Marketing นอกจากผลผลิตที่ได้จะปลอดภัย ช่วยสร้างรายได้เพิ่มให้กับเกษตรกรจากการขายผลผลิต แล้วยังช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายจากการเจ็บป่วยซึ่งเป็นผลกระทบมาจากการใช้สารเคมีได้อีกด้วย


ทั้งนี้มีตัวอย่างเกษตรกรในพื้นที่ทำการเกษตรอินทรีย์และสนับสนุนแนวคิดเกษตรอินทรีย์ปลอดสารพิษในพื้นที่ ได้แก่ 1.คุณรจนา เขื่อนขัน เกษตรกรรุ่นใหม่ชุมชนบ้านภูตาด ใช้แนวทางกสิกรรมไร้สารพิษมาบริหารจัดการในรูปแบบกลุ่มวิสาหกิจชุมชนสร้างรายได้จากการขายผลผลิตจากเกษตรอินทรีย์ 2.พ่อหลวงอินทร์จันทร์ บุญตัน ตัวอย่างเกษตรกรผู้เปลี่ยนวิถีชีวิตจากการทำเกษตรแบบเคมีมาเป็นเกษตรอินทรีย์แบบครัวเรือน ช่วยลดภาวการณ์เจ็บป่วยจากสารพิษยาฆ่าแมลง  3.ลุงศรี บุตรคำฝั้น เกษตรกรชุมชนบ้านป่างิ้ว ผู้ใช้แนวทางเกษตรอินทรีย์ปลูกผักตามฤดูกาลมาช่วยปลดหนี้สร้างรายได้ด้วยวิถีเกษตรแบบพอเพียง รวมถึงโรงแรมดุสิตไอส์แลนด์ รีสอร์ทและเครือข่ายผู้ประกอบการร้านอาหารปลอดภัย จ.เชียงราย ในฐานะผู้ซื้อผลิตภัณฑ์เกษตรอินทรีย์จากชุมชน


ด้าน นายกิตติ ทิศกุล ผู้จัดการโครงการอาหารปลอดภัยเชียงรายเป็นสุข กล่าวว่า ปัจจุบันความปลอดภัยด้านอาหารยังคงเป็นปัญหาและเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการมีสุขภาวะที่ดีของคนไทย เนื่องจากระบบการเกษตรของประเทศส่วนใหญ่มีการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืชในกระบวนการผลิต จากรายงานการสำรวจขององค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ พบว่าไทยมีการใช้ยาฆ่าแมลงมากเป็นอันดับ 5 ของโลก ใช้ยาฆ่าหญ้าเป็นอันดับ 4 ของโลก มีการนำเข้าสารเคมีปีละกว่าแสนล้านตัน มูลค่ากว่าสองหมื่นล้านบาท ซึ่งผลจากการตรวจเลือดเกษตรกรไทยพบว่ากว่า 4 ล้านคนยังอยู่ในเกณฑ์น่าห่วงและเสี่ยงต่อการเจ็บป่วย ในขณะที่ข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุขระบุว่า คนไทยป่วยจากพิษเชียงราย ต้นแบบเมืองอาหารปลอดภัย thaihealthสารกำจัดศัตรูพืชปีละเกือบ 1,800 คน มีทั้งพิษแบบเฉียบพลัน เช่น คลื่นไส้ อาเจียน วิงเวียนศีรษะ และพิษเรื้อรัง เช่น โรคผิวหนัง มะเร็ง โรคระบบประสาท นอกจากเกษตรกรที่ถือเป็นต้นน้ำของการผลิตที่เสี่ยงแล้ว ผู้บริโภคก็เสี่ยงต่ออันตรายด้านสุขภาพด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะจากสารพิษอันตรายที่ปนเปื้อนในพืช ผัก ผลไม้ ที่วางขายในท้องตลาด


นายกิตติ กล่าวต่อไปว่า สสส. เห็นถึงความสำคัญของผลกระทบร้ายแรงทางสุขภาพ จึงได้ดำเนินโครงการ "อาหารปลอดภัยเชียงรายเป็นสุข" ทำงานบูรณาการร่วมกันทั้งภาครัฐ เอกชน และชุมชนในพื้นที่ เพื่อสร้างความรู้ ความเข้าใจ และเพิ่มขีดความสามารถการพัฒนางานด้านอาหารปลอดภัยในระดับจังหวัด จนเกิดความเข้มแข็ง ส่งเสริมให้เกิดต้นแบบของตลาดสีเขียว ที่สร้างระบบการผลิต การกระจาย การบริโภคอาหารปลอดภัยในระดับชุมชน จนสามารถแก้ไขปัญหาความไม่ปลอดภัยด้านอาหารของจังหวัดเชียงรายได้เป็นผลสำเร็จ ส่งผลให้เชียงรายสามารถประกาศให้การดำเนินงานอาหารปลอดภัยเป็นวาระของจังหวัดได้เป็นแห่งแรกของประเทศ


"การดำเนินโครงการฯ กว่า 2 ปีที่ผ่านมามีเครือข่ายภาคเกษตรกรเข้าร่วมแล้ว 25 ชุมชนเครือข่ายร้านอาหารเข้าร่วม 91 ร้าน และมีผู้เข้าร่วมเป็นเครือข่ายผู้บริโภคในโครงการฯ 10,754 คน และตั้งเป้าหมายภายในอีก 3 ปีข้างหน้าจะขยายพื้นที่ครอบคลุมทั้ง 18 อำเภอในจังหวัดเชียงราย เกษตรกรปลอดภัยจากการทำเกษตรมากขึ้น ร้านอาหารได้ใช้วัตถุดิบที่ปลอดภัยจากท้องถิ่น ผู้บริโภคจังหวัดเชียงรายเข้าถึงและได้รับประทานอาหารที่ปลอดภัยมากขึ้น ทางโครงการสามารถขยายแนวคิดการทำงานบูรณาการร่วมกับทุกพื้นที่และสร้างเครือข่ายต้นแบบท่องเที่ยวชุมชนสนับสนุนการเกษตรที่ปลอดภัยได้ครบทุกอำเภอ มีศูนย์รวบรวมและกระจายสินค้าที่ปลอดภัยของจังหวัดเชียงราย สามารถสร้างจุดแข็งให้เชียงรายและสร้างแบรนเชียงรายเป็นเมืองเกษตรสีเขียวและอาหารปลอดภัย สามารถเป็นต้นแบบของการทำงานบูรณาการร่วมกันให้กับจังหวัดอื่นๆ ได้" นายกิตติ กล่าว


 


 


ที่มา: หนังสือพิมพ์บ้านเมือง


ภาพประกอบจากเว็บไซต์บ้านเมือง

Shares:
QR Code :
QR Code