เจ-มังสวิรัติ ความเหมือนที่แตกต่าง

ที่มา : หมอชาวบ้าน


เจ-มังสวิรัติ ความเหมือนที่แตกต่าง thaihealth


แฟ้มภาพ


หลายท่านอาจจะสงสัยว่า เอ๊ะ แล้วอาหารมังสวิรัตินั้นต่างจากอาหารเจอย่างไร ก่อนอื่นขอขยายความหมายของคำว่า “มังสวิรัติ” เสียก่อน


คำว่า “มังสวิรัติ” นี้มาจากคำว่า “มังสะ” แปลว่า เนื้อสัตว์ “วิรัติ” แปลว่า การงดเว้น รวมความแล้วจึงแปลได้ว่า การงดเว้นเนื้อสัตว์ หรือกากรไม่กินเนื้อสัตว์ ซึ่งตรงกับคำในภาษาอังกฤษว่า เวเจแทเรียนนิซึม (vegetarianism) มีรากศัพท์มาจากภาษาละติน คือ เวเจทัส (Vegetus) แปลว่า สมบูรณ์ดีพร้อม สดชื่น เบิกบาน หรือมีความหมายว่า ผู้ซึ่งละเว้นจากการนำสัตว์ทุกชนิดมาเป็นอาหาร ทั้งนี้อาจรวมหรือไม่รวมถึงไข่และผลิตภัณฑ์จากนม


กล่าวกันว่ามังสวิรัตินั้นมีผู้ถือปฏิบัติมาเป็นเวลาช้านาน และกลายเป็นแนวปฏิบัติทางศาสนาสำหรับหลายศาสนาในตะวันออกกลางมาหลายพันปีแล้ว เช่น ศาสนาเซน ศาสนาฮินดูบางนิกาย ศาสนาโซโรแอสเตอร์ ศาสนาพุทธ และศาสนาอื่นๆ โดยทั่วไปแล้วการกินอาหารมังสวิรัติแบ่งออกเป็น 3 ประเภท คือ


  1. มังสวิรัติชนิดเคร่งครัด (strict vegetarian) เป็นมังสวิรัติที่กินอาหารจากพืชอย่างเดียว ไม่มีอาหารพวกเนื้อสัตว์ ไข่ นม หรือผลิตภัณฑ์ของไข่และนมเป็นส่วนประกอบของอาหารเลย
  2. มังสวิรัติชนิดที่ดื่มนม (Lacto-vegetarian) อาหารมังสวิรัติประเภทนี้มีนมและผลิตภัณฑ์ของนมนอกเหนือจากอาหารพืช แต่ไม่มีเนื้อสัตว์และไข่เป็นส่วนประกอบของอาหารเลย
  3. มังสวิรัติที่ดื่มนมและกินไข่ (Lacto-ovo-vegetarian) อาหารมังสวิรัติประเภทนี้มีไข่ นม และผลิตภัณฑ์ของนม นอกเหนือจากอาหารพืช แต่ไม่มีเนื้อสัตว์เลย


สำหรับอาหารหลักของนักมังสวิรัติไม่ว่าจะอยู่กลุ่มใดก็ตาม ก็สามารถแบ่งได้เป็น 4 หมู่ ดังนี้


  1. โปรตีน ได้จากถั่วเหลือง ถั่วเมล็ดทุกชนิด เห็ดข้าวกล้อง งา เมล็ดในของพืช โปรตีนเกษตร (เนื้อเทียม) ในผักบางชนิดก็มีโปรตีนแต่น้อยมาก ซึ่งอาหารโปรตีนนี้จะช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกาย ทำให้แข็งแรง ไม่เจ็บป่วยง่าย
  2. คาร์โบไฮเดรต ได้จากอาหารจำพวกแป้งและน้ำตาล เช่น ข้าวกล้อง มัน เผือก น้ำตาลสีรำ และของหวานต่างๆ อาหารพวกจะให้พลังงานและความร้อน ทำให้เกิดพลังงาน ถ้ารู้สึกว่าอ่อนเพลีย ให้กินผลไม้ น้ำผึ้ง และน้ำอ้อย จะทำให้รู้สึกสดชื่นทันที
  3. ไขมัน ได้จากน้ำมันพืช นม เนย และเมล็ดผลไม้ ถั่ว งา อาหารพวกนี้จะให้พลังงานและความร้อนเช่นเดียวกับหมู่ที่ 2
  4. วิตามินและเกลือแร่ ได้จากผักสด ผลไม้ ถั่ว งา ข้าว ซึ่งแต่ละชนิดจะมีไม่เหมือนกัน จึงควรกินให้ครบทุกชนิดหมุนเวียนกันไป อาหารพวกนี้จะช่วยทำให้การสังเคราะห์สารเคมีต่างๆ ในร่างกายและการทำงานของอวัยวะต่างๆ สมบูรณ์


ที่สำคัญอีกอย่าง ก็คือ ควรดื่มน้ำบริสุทธิ์อย่างน้อยวันละ 8 แก้ว นอกจะทำให้เซลล์สดชื่นแล้ว ยังช่วยขับถ่ายของเสียออกจากร่างกายอีกด้วย


ถึงตรงนี้ถ้ามองเฉพาะในเรื่องของอาหาร ระหว่างอาหารเจและอาหารมังสวิรัติ (เคร่งครัด) ดูจะที่ต่างอยู่ประการเดียวเท่านั้น คือ อาหารมังสวิรัติไม่ได้ระบุว่า ห้ามกิน (เสพ) พืช 5 ชนิด อันได้แก่ หัวหอม หลักเกียว กระเทียม กุยช่าย และใบยาสูบ เช่นคนที่กินอาหารเจ ส่วนในแง่ข้อปฏิบัติทางด้านศาสนานั้นพบว่า ทั้งผู้ที่กินอาหารเจและมังสวิรัติมักจะเป็นผู้ที่เคร่งครัดในข้อปฏิบัติทางศาสนาหรือสนใจในสุขภาพเป็นส่วนใหญ่

Shares:
QR Code :
QR Code