เจาะลึก 3 รายการฮิต “ลดพุง ลดโรค” แรงบันดาลใจ “เปลี่ยน” ชีวิต
จากสถานการณ์สุขภาพของคนไทยในขณะนี้ มีผู้ประสบปัญหาอ้วนลงพุง กว่า 17 ล้านคน เนื่องจากไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของคนยุคใหม่ โดยเฉพาะในวัยทำงานที่ตกเย็นมักออกไปกินข้าวนอกบ้าน หรือบุฟเฟ่หนักๆ ไม่ชอบออกกำลังกาย และไม่รู้สึกว่าตัวเองมีปัญหาด้านสุขภาพ ทั้งๆ ที่ “ความอ้วน” และโรคเรื้อรังไม่ว่าจะเป็นเบาหวาน ความดัน ฯลฯ กำลังใกล้เข้ามาแบบไม่ทันตั้งตัว
รศ.ดร.วิลาสินี อดุลยานนท์ ผู้อำนวยการสำนักรณรงค์สื่อสารสังคม สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เปิดเผยว่า การขับเคลื่อนงานตามแผนอาหารเพื่อสุขภาวะ เป็นอีกหนึ่งความท้าทายของ สสส. ที่ตั้งเป้าทั้งลดปัจจัยเสี่ยงด้านการบริโภค และเสริมสุขภาพจากการได้เข้าถึงอาหารและโภชนาการที่เหมาะสมของคนในสังคม ทั้งนี้เพราะการบริโภคอาหารที่ไม่เป็นประโยชน์ ไม่ปลอดภัย และเกินพอดี กำลังส่งผลกระทบต่อสุขภาพของคนไทยอย่างยิ่ง ทั้งเรื่องการเจ็บป่วย ความสูญเสียทางเศรษฐกิจ อันเนื่องมาจากโรคที่ป้องกันได้จากการปรับวิธีการบริโภคและการใช้ชีวิตประจำวัน
การทำงานที่ผ่านมา นอกจากจะแสวงหาแก้ปัญหาที่ยั่งยืนด้วยการดำเนินงานด้านวิชาการ ศึกษา วิจัย พัฒนาข้อเสนอนโยบายที่เหมาะสม และการสร้างงานที่เป็นรูปธรรม เช่น ระบบการจัดอาหารกลางวันสำหรับเด็กโดยทำงานร่วมกับโรงเรียน ศูนย์เด็กเล็ก บ้านรับเลี้ยง ในพื้นที่นำร่องแล้ว
อีกหนึ่งแนวทางสำคัญ ที่ สสส. หวังสร้างความตระหนักและเปลี่ยนค่านิยมการบริโภคในสังคม คือ การพัฒนาสื่อรณรงค์ให้เข้าถึง เพื่อเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของเด็ก เยาวชน ตลอดจนทุกคนในสังคม
นั่นจึงเป็นที่มาของ รายการ “The Firm” องค์กรซ่อนอ้วน, “FAT FACT ความจริงรอบพุง” และ “ทราบแล้วเปลี่ยน” 3 รายการดีๆ ที่มีจุดมุ่งหมายเดียวกัน คือ “ลดพุง ลดโรค” สร้างแรงบันดาลใจ ให้เกิดจุดเปลี่ยนในการใช้ชีวิต เพื่อสุขภาพที่ดี
น.ส.สุพัฒนุช สอนดำริห์ ผอ.กลุ่มสนับสนุนงานการตลาดเพื่อสังคม สสส. อธิบายว่า ถือเป็นครั้งแรกที่ สสส. มีรายการที่ออกอากาศพร้อมกันทางโทรทัศน์ 3 รายการ โดยทั้งหมดจะมีความเชื่อมโยงร้อยเรียงกัน โดยเราตั้งโจทย์ไม่ใช่แค่ลดน้ำหนัก หรือลดความอ้วน แต่เป็นการสร้างไลฟ์สไตล์ใหม่ให้เกิดความเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม มีจิตสำนึกในการดูแลเอาใจใส่สุขภาพตนเอง นอกจากนี้ยังเป็นการร้อยการทำงานของ สสส. และภาคีเครือข่ายต่างๆ เข้าไว้ด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นแผนงานด้านอาหาร เครือข่ายคนไทยไร้พุง เครือข่ายโรคเรื้อรังฯลฯ ซึ่งเบื้องหลังกว่าจะเป็นรายการต่างๆ เหล่านี้ มีการจับเข่านั่งคุยกับทั้งแพทย์ นักวิชาการ เพื่อให้ได้องค์ความรู้ที่ถูกต้องครบถ้วน
“หลังจากที่รายการออกอากาศแล้ว ก็มีเสียงตอบรับที่ดีเกินกว่าที่คาดคิดไว้มาก ทั้งทางเฟซบุ๊ก การโทรศัพท์เข้ามาสอบถามข้อมูลผ่านทางสถานีไทยพีบีเอส โดยเรามีจุดมุ่งหมายที่จะทำให้เกิดการปฏิวัติตนเอง ซึ่งนอกจาก 3 รายการนี้แล้ว สสส. ยังรณรงค์อย่างต่อเนื่อง เพื่อสื่อสารให้คนลุกขึ้นมาวัดรอบพุง โดยใช้สูตรรอบพุงต้องไม่เกิน ความสูงหาร 2 (ใช้หน่วยการวัดเป็นเซนติเมตร) และมั่นใจว่ากิจกรรมต่างๆ ที่เหลือก็จะตามมา โดยจะชูกิจกรรมการขยับร่างกาย โดยการแกว่งแขน ซึ่งเป็นการออกกำลังกายที่ง่ายแต่มีประโยชน์กับร่างกายอย่างมาก
สำหรับภารกิจนี้กลุ่มสนับสนุนงานการตลาดเพื่อสังคม สสส. ได้ออกแบบ 3 รายการ ที่มีรูปแบบที่หลากหลาย แบ่งเป็น “The Firm” องค์กรซ่อนอ้วน ในรูปแบบ “เรียลลิตี้ โชว์” รายการต่อมา “FAT FACT ความจริงรอบพุง” สารคดีที่มีข้อมูลดีๆ ที่พร้อมจะขับไล่ “ความอ้วน” ไปด้วยกัน และ “ทราบแล้วเปลี่ยน” เกมโชว์บันเทิงปัญญา ที่หากใครได้ดูผ่านตาแล้วก็คงติดอกติดใจและสนุกสนานเพลิด ไปกับสาระความรู้
“The Firm” องค์กรซ่อนอ้วน
มาเริ่มต้นเจาะลึกกับรายการที่เป็น “ไฮไลท์” อย่าง “The Firm” องค์กรซ่อนอ้วน ซึ่งกระแสตอบรับดีมากๆ สำหรับรายการนี้กลุ่มเป้าหมายเป็นคนวัยทำงาน รูปแบบรายการเป็น “เรียลลิตี้ โชว์” ตามติดชีวิตจริงของอาสาสมัคร 5 คน ของบริษัท “ซูเปอร์จิ๋ว” ที่เป็นเสมือนตัวแทนคนส่วนใหญ่ของสังคม เมื่อดูแล้วจะรู้สึกว่า นี่เหมือนกับชีวิตของเรา แฟน คนรู้จัก เพื่อน หรือคนรอบข้างที่เห็นกันจนชินตา
รายการนี้จะใช้ระยะเวลา 90 วัน ในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของ 5 คน ซึ่งมีความแตกต่างกันเช่น หัวหน้าครอบครัวที่อ้วนลงพุง สาวสวยที่ผอมอยู่แล้วแต่คิดว่าตัวเองอ้วน แม่บ้านที่ทั้งๆ มีรู้อยู่แล้วแต่ไม่ทำ คนทำงานที่อ้วนเพราะดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และเด็กที่จ้ำม่ำน่ารักแต่อ้วนเสี่ยงโรค ทั้งหมดนี้ไม่ใช่การแสดง และไม่ได้ต้องการเสนอรายการ “ลดน้ำหนัก” แต่ความสำเร็จของรายการ คือ การสร้างแรงบันดาลใจ และการเปลี่ยนพฤติกรรมของทุกคน
อย่างที่พี่ซุป หรือ วิวัฒน์ วงศ์ภัทรฐิติ กรรมการบริหาร บริษัท ซูเปอร์จิ๋ว จำกัด บอกไว้ว่า “หลายๆ คน มีความเชื่อที่ผิดๆ มีความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนเกี่ยวกับการกิน อยู่ และการใช้ชีวิต องค์กรเล็กๆ อย่าง “ซูเปอร์จิ๋ว” ถือเป็นภาพสะท้อน ที่ชัดเจนมากของสังคมไทย คือ การที่เราทำงานอย่างหนัก แล้วตอบแทนร่างกาย ด้วยการทานอาหารดีๆ อร่อยๆ โดยที่ไม่ได้คำนึงถึงประโยชน์หรือโทษเลย”
ที่สำคัญ คือ หากเราสามารถเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมคนทั้ง 5 คนนี้ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้ 5 คนนี้จะเป็นแบบอย่างในการเปลี่ยนแปลงคนทั้งองค์กร และเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างแรงบันดาลใจ ให้สังคมไทยเกิดการเปลี่ยนแปลง
ทว่า สิ่งที่สสส.ต้องการจะสื่อสารกับคนดูคือ คุณไม่ควรตามใจปาก เราสามารถเลือกอาหารที่ดีมีประโยชน์ได้ด้วยตัวเอง และการออกกำลังกายเป็นสิ่งสำคัญ เราสามารถออกกำลังกายได้ทุกโอกาส เพียงแต่ทุกวันนี้ “เราอาจก็ไม่เห็นโลงศพก็ไม่หลั่งน้ำตา” นั่นเอง
“ทราบแล้วเปลี่ยน” -“FAT FACT ความจริงรอบพุง”
สำหรับรายการ “ทราบแล้วเปลี่ยน”เป็น เกมโชว์บันเทิงปัญญาที่จะเปิดหูเปิดตาคุณพ่อคุณแม่ให้รู้เท่าทันอาหารการกินของลูก เพราะยังมีอีกหลายเรื่องที่เราเข้าใจกันอย่างผิดๆ เช่น ผู้ใหญ่มักชอบเด็กอ้วนจ้ำม้ำ มองว่าน่ารักดี และเชื่อว่า เดี๋ยวโตขึ้นก็ลดเองเพราะตัวยืด แต่แท้จริงแล้วนี่แต่เป็นความคิดที่ถูกและดีกับเด็กจริงหรือ?
ทั้งนี้ เกมโชว์จะแบ่งเป็น 3 ช่วง คือ รู้ ดู ทำ โดยช่วงแรกเป็นการให้ข้อมูลความรู้โดยการเล่นเกมตอบคำถาม ช่วงที่สอง คือ ดูจะมีภาพ Infographic ที่สามารถเข้าใจง่ายและนำไปใช้ได้จริง และช่วงสุดท้ายเป็นการทดลองปฏิบัติ
สุดท้ายเมื่อรายการได้ให้ข้อมูลทางวิชาการที่ถูกต้อง ครบถ้วน เรียกว่า “รู้แล้ว” พ่อแม่ ผู้ปกครอง จะไม่เปลี่ยนเพื่อบุตรหลานเลยเชียวหรือ ดังนั้น นอกจากรายการจะเสนอถึงปัญหาแล้วก็ยังร่วมกันหาทางออกที่เหมาะสมอีกด้วย
ส่วนรายการ “FAT FACT ความจริงรอบพุง” จะเป็นรายการสารคดีที่เผยถึงสถานการณ์ให้เราได้รู้เท่าทันไขมัน หนึ่งในต้นเหตุปัญหาสุขภาพที่กำลังล้อมรอบพุงของคนทุกวัยจากทุกทิศทาง พร้อมเสนอทางออกที่เราทุกคนมีส่วนร่วมได้อีกเช่นกัน
ไฮไลท์สำคัญของรายการนี้ คือ สสส.มีเป้าหมายให้สังคมตะหนักรู้ สร้างความเปลี่ยนแปลงในสังคม พร้อมกับร่วมกับขับเคลื่อนการแก้ปัญหาในระดับนโยบาย อย่างเรื่อง “โรงเรียนปลอดน้ำอัดลม” มีข้อมูลทางวิชาการชัดเจนแล้วว่า ระหว่างโรงเรียนที่มีน้ำอัดลมและไม่มีน้ำอัดลมขายนั้น โรงเรียนที่ปลอดน้ำอัดลมจะมีเด็กอ้วนน้อยกว่า ดังนั้น ประเด็นในลักษณะนี้ หากประชาชน พ่อแม่ ผู้ปกครอง มีความเข้าใจเห็นด้วยในวงกว้างก็สามารถที่จะร่วมกันผลักดันให้ออกเป็นนโยบาย เพื่อให้ทุกโรงเรียนในประเทศไทยปลอดน้ำอัดลมเพื่อสุขภาพของลูกหลานของเราเอง
มาร่วมกันสร้างความเปลี่ยนแปลงให้สังคมไทย “ไร้พุง” กันเถอะค่ะ
ทั้งนี้ สามารถติดตามทั้ง 3 รายการได้ทางสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส ส่วนรายละเอียดความเคลื่อนไหวของรายการ เพียงพิมพ์ “ลดพุง ลดโรค” ในเฟซบุ๊ก (www.facebook.com/Thai.HealthyLifestyle) ก็สามารถร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็น และความรู้ที่มีประโยชน์ได้นะคะ
ที่มา : วรรณภา บูชา Team Content www.thaihealth.or.th