เครือข่ายความหลากหลายทางเพศ ดันร่าง พ.ร.บ.คู่ชีวิต
เครือข่ายความหลากหลายทางเพศ ดันร่าง พ.ร.บ.คู่ชีวิต ฉบับประชาชน ชี้ไม่แบ่งแยกชาย-หญิง ครอบคลุมผู้มีความหลากหลายทางเพศ เน้นเสมอภาค เท่าเทียมกัน ไม่เลือกปฏิบัติ เล็งจัดเวทีรับฟังทั่วประเทศ ก่อนเสนอเข้าสภา
เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ เวลา 09.00 น.ที่โรงแรมรอยัลริเวอร์ กรุงเทพมหานคร มูลนิธิเพื่อสิทธิและความเป็นธรรมทางเพศ ร่วมกับมูลนิธิธีรนาถ กาญจนอักษร และองค์กรภาคีเครือข่ายด้านสิทธิความเป็นธรรมทางเพศ โดยการสนับสนุนของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.) จัดเสวนาในหัวข้อ “กฎหมายคู่ชีวิตกับชีวิตคู่ของผู้มีความหลากหลายทางเพศ” เพื่อสื่อสารให้สาธารณชนรับทราบและเข้าใจเพื่อเสนอข้อคิดเห็นการจัดทำร่าง พ.ร.บ.คู่ชีวิต โดยมีผู้สนใจเข้าร่วมวงเสวนาประมาณ 150 คน
นางนัยนา สุภาพึ่ง ผู้อำนวยการมูลนิธิธีรนาถ กาญจนอักษร กล่าวว่า ขณะนี้ภาคประชาชนอยู่ระหว่างการจัดทำ พ.ร.บ.คู่ชีวิต ซึ่งมีความแตกต่างจากร่างพ.ร.บ.คู่ชีวิต ที่คณะกรรมาธิการกฎหมาย การยุติรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎรได้จัดทำออกมาก่อนหน้านี้ โดยสาระสำคัญพ.ร.บ.คู่ชีวิตฉบับของคณะกรรมาธิการฯ กำหนดให้กฎหมายบังคับใช้กับบุคคลที่เป็นคู่ชีวิตเพศเดียวกันเท่านั้น ซึ่งส่งผลกระทบต่อบุคคลข้ามเพศที่ไม่ได้นิยามว่าตัวเองเป็นบุคคลรักเพศเดียวกัน ทำให้ไม่ได้รับสิทธิตามกฎหมาย รวมถึงการกำหนดให้เฉพาะบุคคลเพศเดียวกันจดทะเบียนได้ ขณะที่ร่างฉบับของภาคประชาชนจะมีการนำเสนอทางเลือกใหม่ในการจดทะเบียนคู่ชีวิตสำหรับทุกเพศ เพื่อให้เกิดความเสมอภาคและเท่าเทียมและไม่เป็นการเลือกปฏิบัติ นอกจากนี้ยังมีการเพิ่มเติ่มหลักการสำคัญ 8 ประการ อาทิ การไม่ระบุเพศหญิงหรือชายไว้ในกฎหมาย เพื่อให้ครอบคลุมคนทุกกลุ่มในสังคม เรื่องสิทธิในการจัดการทรัพย์สินมรดก การจดทะเบียนรับบุตรบุญธรรม การอุปการะเลี้ยงดูบุตรเรื่องการสมรสและการหย่าตามหลักการในกฎหมายแพ่งว่าด้วยครอบครัวมรดกเป็นต้น
นางภรณี ภู่ประเสริฐ ผู้ช่วยผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนสุขภาวะประชากรกลุ่มเฉพาะ สสส. กล่าวว่า สสส.สนใจและให้ความสำคัญต่อการเข้าถึงสิทธิและสวัสดิการของทุกคนในสังคม โดยต้องได้รับสิทธิอย่างเท่าเทียมและเสมอภาคกัน อย่างไรก็ตามที่ผ่านมาพบว่ากลุ่มคนที่มีความหลากหลายทางเพศมักจะประสบปัญหาเรื่องการเข้าถึงสิทธิต่างๆ อย่างมาก โดยเฉพาะสิทธิด้านสาธารณสุข เช่น สวัสดิการรักษาพยาบาลของคู่สมรส เป็นต้น ทั้งนี้ หวังว่าการจัดทำร่าง พ.ร.บ.คู่ชีวิตของภาคประชาชนน่าจะมีส่วนช่วยทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงในเรื่องการสร้างความเท่าเทียมของคนในสังคม โดยเฉพาะการลดอคติต่อกลุ่มบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศ
ด้านนางสาวพิมพ์สิริ เพชรน้ำรอบ มูลนิธิเพื่อสิทธิและความเป็นธรรมทางเพศ กล่าวว่า ในส่วนของความคืบหน้าในการจัดทำร่างพ.ร.บ.คู่ชีวิตฉบับของภาคประชาชนนั้น คาดว่าประมาณสิ้นเดือนมีนาคมนี้รายละเอียดสาระสำคัญต่างๆในเบื้องต้นน่าจะเสร็จออกมา จากนั้นจะเข้าสู่ขั้นตอนการรับฟังความคิดเห็นจากประชาชน โดยจะจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นทั้ง 4 ภาคทั่วประเทศจากนั้นจะเข้าสู่ขั้นตอนของการรวบรวมรายชื่อผู้สนับสนุนให้ได้จำนวน 1 หมื่นรายชื่อเพื่อนำเสนอร่างกฎหมายให้สภาต่อไป
ที่มา : นายฉัตร์ชัย นกดี