‘เก็บผักกูด ดูดหอยโล้’ เปิดประตูสู่บ้านทอนตรน
ที่มา: เดลินิวส์
แฟ้มภาพ
ชัยภูมิที่ตั้งของ "บ้านทอนตรน" ใน ต.คลองทรายขาว อ.กงหรา จ.พัทลุง ล้อมรอบไปด้วยภูเขาน้อยใหญ่ มีลำธารเป็นแหล่งต้นน้ำไหลผ่านใจกลางหมู่บ้าน ชาวบ้านนับถือศาสนามุสลิม ผูกพันกับวิถีของธรรมชาติแบบดั้งเดิม กลายเป็นเอกลักษณ์ของหมู่บ้านจนได้รับการพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ และยังเป็นหมู่บ้านพื้นที่ไร้ควันบุหรี่ ชาวบ้านมีสุขภาวะที่ดี มีความมั่นคงในอาชีพ และสร้างแหล่งเรียนรู้ตามบริบทของพื้นที่
แผนงานสร้างสุขมุสลิมไทย (สสม.) สนับสนุนโดยสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ได้เปิดตัวชุมชนต้นแบบรักษ์สุขภาวะ เพื่อ ผลักดันเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ภายใต้ชื่อ "เปิดประตู สู่บ้านทอนตรน" ณ ต.คลองทรายขาว อ.กงหรา จ.พัทลุง
หนึ่งในบุคคลสำคัญที่ทำให้พื้นที่หมู่บ้านทอนตรนเป็นพื้นที่ของสุขภาวะ ศาสตราจารย์ ดร.อิศรา ศานติศาสน์ ผู้จัดการแผนงานสร้างสุขมุสลิมไทย(สสม.) เล่าย้อนให้ฟังถึงจุดเริ่มต้นของโครงการฯ ว่า มีเป้าหมายเพื่อสร้างและพัฒนาชุมชนมุสลิมให้เกิดเป็นตัวอย่างทางด้านสุขภาวะและสามารถพัฒนาให้เป็นแกนนำในการสร้างชุมชนรักษ์สุขภาวะของพื้นที่ใกล้เคียง ตั้งเป้าที่จะพัฒนาชุมชนตัวอย่างจำนวน 10 ชุมชน ในพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศ
หมู่บ้านทอนตรน ต.คลองทรายขาว อ.กงหรา จ.พัทลุง เป็นหนึ่งในชุมชนต้นแบบ โดยมี 4 กิจกรรมหลักในการสร้างเสริมสุขภาวะ คือ กิจกรรมด้านการส่งเสริมสุขภาพ ที่เน้นให้ชุมชนปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคอาหาร เพื่อลดการเกิดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) พร้อมทั้งรณรงค์การไม่สูบบุหรี่ และส่งเสริมการปลูกผักปลอดสารพิษเพื่อใช้บริโภคในครัวเรือน กิจกรรมปรับภูมิทัศน์ให้ชุมชนน่าอยู่ ส่งเสริมให้มีการจัดบ้านเรือนถูกสุขลักษณะ บ้านสะอาด น่ามอง และจัดเก็บแยกขยะอย่างถูกต้อง ตลอดจนกิจกรรมการส่งเสริมอาชีพและสร้างรายได้ในชุมชน ด้วยการจัดตั้งกลุ่มออมทรัพย์ชุมชน ให้มีทุนหมุนเวียน รวมทั้งจัดอบรมการฝึกอาชีพ เพื่อสร้างรายได้เสริมให้แก่คนในชุมชน และกิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้ในชุมชน โดยอบรมให้ความรู้ด้านคุณธรรม จริยธรรมให้แก่คนในชุมชน
"เพียงไม่เกิน 1 ปี ที่นำ 4 กิจกรรมหลักเข้าไปเสริมในชุมชน ทำให้ชาวบ้านมีสุขภาวะที่ดี และมีความสุข" ผู้จัดการแผนงานสร้างสุขมุสลิมไทย (สสม.) เล่าให้ฟังด้วยความภูมิใจ เพราะช่วงเวลาดังกล่าวนั้น ชาวบ้านเกิดการเปลี่ยนแปลงที่ดี ขึ้น มีสุขภาพกายและใจที่สมบูรณ์แข็งแรง มีรายได้เพิ่มขึ้นจากอาชีพเสริม หมู่บ้านสะอาด น่าอยู่ ส่งเสริมให้แหล่งท่องเที่ยวอีกหลายแห่ง เช่น หินจมูกควาย เขานมสาว กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ชวนหลงใหลด้วยอากาศที่บริสุทธิ์ เมื่อนักท่องเที่ยวมาสัมผัสนอกจากได้ความสดชื่นจากธรรมชาติกลับไปแล้วยังได้เรียนรู้วิถีชีวิตและแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมจากชาวมุสลิมอีกด้วย
จากการลงไปใกล้ชิดคนในหมู่บ้านทอนตรนเป็นระยะเวลากว่า 2 ปี น.ส.สุดาวรรณ สุกเส็ม หัวหน้าโครงการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ หมู่บ้านทอนตรน สสม. เล่าให้ฟังว่า จากความสำเร็จของโครงการมัสยิดครบวงจรที่ได้การสนับสนุนจาก สสม. และ สสส. ทำให้เราเห็นศักยภาพของผู้นำและคนในพื้นที่ว่าสามารถช่วยกันสร้างเสริมสุขภาพได้จริง เพื่อต่อยอดการสร้างพื้นที่สุขภาวะให้เข้มแข็ง ตนจึงรับหน้าที่ลงมาเรียนรู้กับคนในหมู่บ้าน ทำให้เห็นถึงวิถีชีวิตความเป็นอยู่ที่ค่อนข้างลำบาก จากการที่ชาวบ้านมีรายได้จากการขายยางพาราในราคาที่ตกต่ำ
"เก็บผักกูด ดูดหอยโล้ ล่องห่วงยาง ตามหามันหมกที่แอบกกในทุ่งหญ้า เป็นกิจกรรมเด่นที่นักท่องเที่ยวผู้มาเยือนจะได้ร่วมกิจกรรม" นายหรูน เส็นบัตร ผู้ใหญ่บ้าน ทอนตรน พูดเชิญชวนและขยายความว่า ชาวบ้านมุสลิมทุกคนยินดีต้อนรับนักท่องเที่ยวโดยมีโฮมสเตย์ที่ สะอาดและน่าอยู่รับรอง นอกจากนี้ยังมีการแสดง "ลิเก ฮูลูบ้านทอนตรน" จากเด็ก ๆ ในหมู่บ้านที่คงไว้ซึ่งศิลปวัฒนธรรมของชาวใต้ ยังมีกิจกรรมปั่นจักรยานและการนั่งสามล้อรอบหมู่บ้าน รวมไปถึงการชวนนักท่องเที่ยวเก็บผักกูดที่ขึ้นเองตามแหล่งธรรมชาติ เพื่อกินกับน้ำชุป (น้ำพริกกะปิ) พร้อมจับหอยโล้เพื่อนำมาประกอบอาหารให้นักท่องเที่ยวได้ลิ้มรส ที่สำคัญคือนักท่องเที่ยวจะได้ชิม ผลไม้ท้องถิ่นตามฤดูกาลที่ชาวบ้านปลูกโดยปราศจากสารพิษ เช่น จำปาดะ ทุเรียน มังคุด ลองกอง และเงาะ อีกด้วย
การมองความสวยงามผ่านภาพถ่ายเพียงอย่างเดียวคงไม่เพียงพอเท่ากับการได้มาสัมผัสด้วยสายตาจากสถานที่จริงสักครั้ง หากใครที่รักการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ แนะนำว่า "หมู่บ้านทอนตรน" เป็นอีกสถานที่หนึ่งที่คุณไม่ควรพลาด โดยสามารถเข้าไปติดตามภาพถ่ายธรรมชาติที่สวยงาม และอัพเดทกิจกรรมได้ที่เฟซบุ๊ก "ว่าพรือ ทอนตรน" และจองที่พักล่วงหน้าได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 08-2947-2919.