เกาะสนามปันหยี วิถีเด็กชาวเกาะ
ที่มา : หนังสือพิมพ์ข่าวสด
"ปันหยี คัพ" สนามบอลลอยน้ำของชาวเกาะปันหยี จ.พังงา มุ่งสร้างเยาวชนรักกีฬา ไม่ยุ่งเกี่ยวการพนัน
"ผมเป็นลูกครึ่ง" เสียงเด็กชายตากลมคมเข้มไม่ต่างจากเด็กชาวใต้ทั่วไปสร้างความแปลกใจ ยังไม่ทันได้เอ่ยถามว่า "เอิ่ม..น้องลูกครึ่งอะไร"เจ้าของรอยยิ้มสดใสเฉลยว่า "แม่ผมอยู่บ้านเขาเปาะ พ่อผมอยู่เกาะปันหยี ผมเป็น ลูกครึ่ง"
น้องซัน ด.ช.อานันท์ คงเดิม เด็กชายอารมณ์ดี ลูกครึ่งเขาเปาะ-ปันหยี วันนี้มาวิ่งเล่นในสนามปูนเล็กๆ ข้างสนามบอลโรงเรียนเกาะปันหยีที่กำลังชิงชัยเฟ้นหาแชมป์ฟุตซอลในศึก "ปันหยี คัพ"
ฟุตบอล ถือเป็นเกมกีฬายอดฮิตเกาะติดอยู่ในหัวใจชาวเกาะปันหยีมารุ่นต่อรุ่น โลกรับรู้ว่าชุมชนแห่งนี้ไม่ได้โอบล้อมไปด้วยทิวเขาและผืนทะเลที่งดงามเท่านั้น แต่เกาะปันหยียังมีอีกหนึ่งสิ่งสัญลักษณ์ที่สวยงามติดอันดับโลก
นั่นคือ "สนามบอลลอยน้ำ" ที่วันนี้เปลี่ยนจากสนามไม้เป็นสนามพื้นยาง ไม่มีเสี้ยนไม้และตะปูที่ผุดโผล่คอยตำเท้าเวลาวิ่งไล่ลูกฟุตบอล ช่วยยืนยันว่าแม้เกาะปันหยีจะมีผืนดินเพียงน้อยนิดเพื่อสร้างมัสยิดและกุโบร์ฝังศพ แต่พวกเขายังคงมีกีฬาฟุตบอลอยู่ในหัวใจ
น้องซันอาสาพาเดินออกจากสนามปูนข้างโรงเรียนลัดเลาะผ่านร้านค้าบ้านเรือนชุมชนชาวมุสลิมไปชม "สนามบอลลอยน้ำ" พร้อมสวมบทมักคุเทศก์ชาวเกาะบอกเล่าความเป็นมาของเกาะปันหยีอย่างคล่องแคล่วว่า ชุมชนเกาะปันหยีเกิดขึ้นจากชาวอินโดนีเซีย 3 ครอบครัวที่แล่นเรือใบมาหาแหล่งที่อยู่อาศัยใหม่ ใครพบเห็นผืนดินก่อนให้ปักธงบนยอดเขา ธงในภาษาอินโดนีเซียคือ "ปันหยี" อันเป็นที่มาของการค้นพบเกาะแห่งนี้นั่นเอง
เด็กๆ เกาะปันหยี กำลังจับกลุ่มเตะบอลกันอย่างสนุกสนานอยู่กลางสนามบอลลอยน้ำ พวกเขาน่าจะเป็นนักเตะที่มีความสุขที่สุดในโลกที่ได้เตะลูกฟุตบอล กีฬายอดฮิตของเด็กผู้ชาย บนสนามบอลลอยน้ำที่มีท้องฟ้าต่างหลังคา ทิวเขารายล้อมแทนอิฐปูนสิ่งปลูกสร้างข้างสนาม สายลม สายน้ำและดวงอาทิตย์คือ ผู้บอกเวลา เรือหัวโทงที่ว่างจากการหาปลากลายเป็นอัฒจันทร์ให้เพื่อนๆ นั่งชมและนั่งเชียร์
วิ่งไล่ลูกบอลกันอยู่ หากมีเรือนักท่องเที่ยวมาจอดเทียบท่า นักเตะรุ่นเยาว์เปลี่ยนบทบาทเป็นเจ้าบ้านที่ดี กรูกันไปช่วยดึงเรือจอดชิดติดขอบสนามบอล ก่อนที่นักท่องเที่ยวจะเดินฝ่าสนามขึ้นไปชมวิถีชีวิตชาวเล
"ใครเตะบอลลงน้ำ ต้องว่ายไปเก็บครับ" น้องซันบอกเล่าถึงกติกาสนามบอลลอยน้ำ นั่นทำให้เด็กๆ ปันหยีแข็งแรงทั้งแข้งขาและสองแขน ฝึกทั้งบอลและโปโลน้ำ หลายครั้งที่ได้เห็นเด็กๆ ตีลังกากลางอากาศท่าเดียวกับ อดีตนักเตะทีมชาติ เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง ไอดอลของทีมเกาะปันหยี แต่ของเด็กๆ ดูจะพิเศษกว่าโค้ชซิโก้ตรงที่ตีลังกาจากพื้นสนาม ตูม!! ลงผืนน้ำ
"สนามของผมสู้สนามโอลแทร็ฟฟอร์ด และสนามแอนฟิลด์ได้ เพราะวิวสวย เวลาลูกบอลตกน้ำ ก็ลงไปเก็บในน้ำ" ความภาคภูมิใจของ น้องคูลดี้ ด.ช.ธีรวีร์ ประสานพันธ์ นักเตะจากเกาะปันหยี วัย 11 ขวบ ที่ตอนนี้เข้าไปเรียนต่อที่โรงเรียนเทศบาลบ้านท้ายช้าง ในตัวเมืองจังหวัดพังงา
ช่วงปิดเทอมคูลดี้กลับมาอยู่บ้าน มาซ้อมเตะบอลกับเพื่อนๆ ที่เกาะบ้านเกิดแห่งนี้ ด้วยหัวใจที่รักในเกมกีฬาฟุตบอล ราวเดือนเดือนเม.ย.- พ.ค. ชาวปันหยีจะร่วมกันจัดมหกรรมฟุตบอล "ปันหยีคัพ" ที่เปิดโอกาสให้เด็กๆ เยาวชน และประชาชนทั่วไปส่งทีมเข้าร่วมแข่งขัน ใช้เวลาร่วมสิบวันในแต่ละปี
ในวันสุดท้ายของเทศกาลนี้ ชาวชุมชนผนวกเอาพิธีกรรมสำคัญ ตามบทบัญญัติของศาสนามุสลิมที่เด็กผู้ชายทุกคนต้องผ่าน คือ "มาโยะซาวี" หรือ "พิธีสุนัต" จัดให้มีการแห่ เด็กๆ ที่สมัครใจเข้าพิธี พร้อมเชิญโต๊ะมูเดง (ผู้ขริบ) เป็นผู้กระทำกิจสำคัญ โดยร่วมกันบริจาคเงินเพื่อจัดหาของใช้จำเป็น และเพื่อมอบเป็นเงินขวัญถุงให้เด็กๆ ที่เข้าพิธี ก่อเกิดบรรยากาศการร่วมแรงร่วมใจกันของชุมชน
ปีนี้ ชุมชนเกาะปันหยี ร่วมกับแผนงานรณรงค์หยุดพนัน สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) รับผิดชอบโดยมูลนิธิรณรงค์หยุดพนัน จัดโครงการฟุตบอลสร้างสรรค์สู่ความฝันของเด็กและเยาวชน "ปันสุข@ปันหยี" ร่วมรณรงค์ "รักกีฬา เชียร์กีฬา อย่าพนัน" เพื่อปลูกฝังให้เด็กๆ สนุกกับเกมกีฬาโดยไม่ข้องเกี่ยวกับการพนัน
"พนันไม่ดี เล่นไปก็ติด พ่อแม่เดือดร้อน" น้องซันกล่าวน้ำเสียง หนักแน่น ขณะที่น้องคูลดี้มองว่าการพนันเป็นสิ่งไม่ดี กีฬาช่วยสร้างร่างกายให้แข็งแรง
นายธนากร คมกฤส เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์หยุดพนัน (มรพ.) สสส. กล่าวว่า เกาะปันหยีเป็นพื้นที่สร้างสรรค์ที่ใช้การแข่งขันกีฬาส่งเสริมเยาวชนไปในทางที่ดี มูลนิธิจึงอยากเข้ามาสนับสนุนให้เป็นพื้นที่ตัวอย่างเล่นกีฬาฟุตบอลปลอดการพนัน
"ฟุตบอลเป็นกีฬาที่คนปันหยีนิยมเล่นและให้ความสำคัญมาก โดยจัดเทศกาลแข่งขัน ทุก 2 ปี แต่ที่น่าชื่นชมคือไม่มีการเล่นพนัน ผู้นำชุมชนเข้มแข็งมาก ส่วนใหญ่เป็นนักกีฬารุ่นแรกๆ ที่ก่อตั้งสนามฟุตบอลลอยน้ำเพื่อให้เด็กๆ มีสนามฝึกซ้อมกันทุกวัน มีการส่งเสริมให้เด็กเล่นฟุตบอลเพื่อสุขภาพและพัฒนาทักษะให้สามารถแข่งขันในสนามที่ใหญ่ขึ้น"
เลขาธิการ มรพ. กล่าวก่อนเผยว่า เด็กไทย 60% รู้จักและเข้าถึงพนัน เด็ก 7 ขวบ เข้าถึงแล้ว แต่สังคมไม่โฟกัสเพราะไม่รุนแรงเท่าเหล้า บุหรี่ สาเหตุหลักๆ เพราะเข้าถึงง่ายโดยมีแบบอย่างจากผู้ปกครองและเว็บออนไลน์
นักเตะหนึ่งในรุ่นบุกเบิกทีมปันหยี เอฟซี นายมูฮำหมาด ประสานพันธ์ กำนันตำบล เกาะปันหยี วัย 50 ปี บอกเล่าว่าปัจจุบันชุมชนเกาะปันหยีมีอยู่ด้วยกัน 320 หลังคาเรือน ประมาณ 1,600 คน ชุมชนรักสิ่งแวดล้อมและรักกีฬาฟุตซอล จากสนามไม้ลอยน้ำในอดีต มาสู่รุ่นลูกหลาน ในปี 2555 ธนาคารทหารไทยร่วมสนับสนุนทำสนามบอลลอยน้ำขึ้นใหม่ เด็กๆ ที่เคยเที่ยวเตร่ก็หันมาเล่นฟุตซอล เราจึงปั้นเด็กปันหยีของเราเป็นตัวแทนเขตจังหวัดพังงาได้ 2-3 ครั้งแล้ว ในชื่อ "ปันหยี เอฟซี"
"เกาะปันหยีโด่งดังระดับโลก เราเป็นชุมชนมุสลิมที่เข้มแข็ง มีผลิตภัณฑ์ที่ขึ้นชื่อคือเครื่องประดับมุกและน้ำพริกกุ้งเสียบ โดยมีสนามบอลที่สวยงามติดอันดับ 1 ใน 10 ของโลก การแข่งขันครั้งต่อๆ ไป เราจะจัดที่สนามบอลลอยน้ำเท่านั้น" กำนันเกาะปันหยี นักเตะรุ่นแรกกล่าวด้วยความภาคภูมิใจ
จากสนามบอลลอยน้ำ เด็กๆ วัย 5-7 ขวบในชุดเด็กชายชาวมุสลิมเตรียมตั้งขบวน เดินเข้าสู่สนามฟุตซอลข้างโรงเรียนที่พักครึ่งช่วงหาทีมแชมป์
พี่ๆ นักกีฬา กองเชียร์ฟุตบอล ลุงป้าน้าอา รายล้อมอยู่ข้างสนาม คอยให้กำลังใจเด็กๆ ที่จะเข้าพิธีสุนัตพิธีสำคัญของเด็กชายชาวมุสลิมเช้าวันรุ่งขึ้น บรรยากาศการแข่งขันที่เข้มข้นเปลี่ยน เป็นภาพความสงบงามชั่วครู่ ไมโครโฟนจาก ผู้พากย์เกมฟุตซอล ส่งต่อให้ผู้นำมุสลิมสวด ดุอาว์ขอพรให้เด็กๆ
คือ..วิถีแห่งการปันความรัก ความผูกพัน ของชาวเกาะปันหยีอย่างแท้จริง