อึ้ง!ยอดวัยรุ่นท้องคลอดลูกไม่พร้อมพุ่ง
หลังสถิติลดลงมาตลอด14 ปี ชี้เป็นความผิดพลาดทางนโยบายรัฐ
หนังสือพิมพ์เดอะวอชิงตันโพสต์ฉบับออนไลน์รายงานว่าสถิติวัยรุ่นอเมริกันที่ตั้งท้องและคลอดโดยที่ยังไม่พร้อมจะเลี้ยงดูลูกกลับพุ่งสูงขึ้นมาอีกครั้งหลังจากที่มีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอดเป็นเวลา 10 กว่าปีแล้ว ทั้งนี้ความสำเร็จในการควบคุมการตั้งท้องในกลุ่มวัยรุ่นนับเป็นสิ่งที่อเมริกาเคยภาคภูมิใจมาโดยตลอด
โดยสถิติจากศูนย์สถิติสุขภาพแห่งชาติสหรัฐฯระบุว่าอัตราการคลอดบุตรของเด็กวัยรุ่นหญิงชาวอเมริกันอายุระหว่าง 15 ถึง 19 ปี กระโดดขึ้นมา 3 เปอร์เซ็นต์นับจากปีค.ศ. 2005 ถึง ปีค.ศ.2006 หลังจากที่ลดลงไปมากแล้วถึง 34 เปอร์เซ็นต์จากปีค.ศ.1991 ถึง ปีค.ศ.2005
“นี่เป็นเรื่องที่น่ากังวลใจยิ่ง” คุณสเตฟานี่ เจ เวนทูร่า ซึ่งเป็นหัวหน้าหน่วยงานด้านสถิติทางการเจริญพันธุ์ของศูนย์สถิติสุขภาพแห่งชาติสหรัฐฯ กล่าวและว่า “นับเป็นการขัดจังหวะแนวโน้มสถิติที่กำลดลงอย่างต่อเนื่องในรอบ 14 ปีเลยทีเดียว ซึ่งจู่ ๆก็พุ่งขึ้นมา 3 เปอร์เซ็นต์และนับเป็นตัวเลขถือว่ามีนัยสำคัญมากๆ”
คุณเวนทูร่ากล่าวด้วยว่าขณะนี้ยังเป็นการเร็วเกินไปที่จะบอกได้ว่านี่เป็นเพียงการแกว่งขึ้นทางสถิติเท่านั้นหรือเป็นจุดเริ่มของแนวโน้มใหม่กันแน่ แต่ว่าขนาดของการเพิ่มทางสถิติครั้งนี้เป็นเรื่องที่น่ากังวลใจเอามาก ๆ โดยเฉพาะอย่างเมื่อเป็นการพุ่งขึ้นหลังจากที่ลดลงมาอย่างต่อเนื่องหลายปีแล้ว
“นี่ควรจะเป็นคำเตือนที่ออกมาแต่เนิ่น ๆ ให้คนหันมาดูกันว่าโปรแกรมที่ใช้ในการควบคุมปัญหาในปัจจุบันนั้นอันไหนบ้างที่ได้ผลและอันไหนที่ไม่ได้ผล” เวนทูร่ากล่าว
อย่างไรก็ดีถึงแม้ว่าขณะนี้ยังไม่เป็นที่ชัดเจนนักว่าสาเหตุที่ทำให้สถิติตั้งท้องและคลอดในวัยรุ่นซึ่งกลับทิศพุ่งขึ้นมาอีกครั้งนี้คืออะไรกันแน่ ก็มีการวิพากษ์วิจารณ์กันในวงกว้างว่าปัญหานี้น่าจะมีสาเหตุมาจากโปรแกรมเพศศึกษาของประธานาธิบดี จอร์จ ดับเบิลยู บุช ที่เน้นให้เด็กวัยรุ่นละเว้นจากการมีเพศสัมพันธ์ก่อนวันอันสมควรเพียงอย่างเดียว
โปรแกรมเพศศึกษาของรัฐบาลบุชนี้ได้รับการสนับสนุนงบประมาณถึง 176 ล้านเหรียญสหรัฐต่อปี และสภาคองเกรสก็กำลังอภิปรายกันอยู่พอดีว่าควรจะเพิ่มงบประมาณให้อีก 28 ล้านเหรียญดีหรือเปล่า
“สหรัฐฯกำลังเผชิญหน้ากับวิกฤตสุขภาพเรื่องการตั้งท้องของวัยรุ่น และนโยบายระดับชาติที่มุ่งเน้นให้เด็กงดเว้นการมีเซ็กส์ก่อนวัยอันสมควรนั้นมันไม่ได้ผลเลยแต่อย่างใด” คุณซีซีล ริชาร์ดซึ่งเป็นประธานมูลนิธิการวางแผนเพื่อการเป็นพ่อแม่ของสหรัฐกล่าว
“นี่ถึงเวลาแล้วที่ทุกคนจะต้องหันมาดูแลวัยรุ่นและมองไปที่ทางแก้ปัญหาที่มีสามัญสำนึกมากว่านี้ซึ่งน่าจะช่วยแก้ปัญหาได้ดีกว่า” เธอกล่าว
ในขณะที่ฟากผู้เสนอและสนับสนุนโปรแกรมเพศศึกษาของรัฐบาลบุชชุดนี้ก็ออกมากล่าวปกป้องโปรแกรมของตัวเองและกล่าวโทษระบบการจัดเรื่องเพศศึกษาแบบเดิมที่มุ่งเน้นไปที่เรื่องการใช้ถุงยางอนามัยและยาคุมกำเนิดต่างหากที่ไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอ
ที่มา
ข้อมูลจาก : สำนักข่าวต่างประเทศ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ
ภาพประกอบ : www.thaihealth.or.th
update 07-12-50