ออกกำลังกาย…ให้หัวใจแข็งแรง

ที่มา : หมอชาวบ้าน


ออกกำลังกาย...ให้หัวใจแข็งแรง thaihealth


แฟ้มภาพ


การออกกำลังกายโดยทั่วไปล้วนแล้วแต่มีประโยชน์กับร่างกายอยู่แล้ว แต่มีหลายคนสงสัยว่าจะออกกำลังกายอย่างไรที่จะทำให้เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของหัวใจสูงสุด 


คำตอบของคำถามนี้ก็คือ การออกกำลังกายแบบแอโรบิก ซึ่งหลายคนก็คงจะเข้าใจว่าคือการเต้นแอโรบิก ซึ่งในความเป็นจริงแล้วไม่ใช่ การออกกำลังกายแบบแอโรบิก คือการออกกำลังกายของกล้ามเนื้อมัดใหญ่ๆ ในร่างกายหลายๆ มัดอย่างต่อเนื่องกัน เป็นระยะเวลาหนึ่งซึ่งจะมีผลให้ร่างกายใช้ออกซิเจนไปเผาผลาญอาหารในร่างกาย และทำให้ประสิทธิภาพการทำงานของหัวใจและปอดดีขึ้น โดยมีหลักการง่ายๆ ดังนี้


  1. เป็นการออกกำลังของกล้ามเนื้อมัดใหญ่ๆ ทั่วร่างกาย เช่น เดินเร็วๆ วิ่งเหยาะๆ ว่ายน้ำ ขี่จักรยาน หรือเต้นแอโรบิก
  2. ระยะเวลาในการออกกำลังกายในแต่ละครั้งไม่ควรน้อยกว่า 20-30 นาที
  3. ควรทำอย่างสม่ำเสมอ อย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 ครั้ง
  4. ที่สำคัญที่สุดคือระหว่างการออกกำลังกายต้องให้หัวใจหรือชีพจร เต้นอยู่ในช่วงชีพจรเป้าหมาย ซึ่งสามารถคำนวณได้จากสูตร ชีพจรสูงสุด = 220-อายุ (เป็นปี) ชีพจรเป้าหมาย = ร้อยละ 60-71 ของชีพจรสูงสุด


การจับชีพจรก็สามารถทำได้ง่ายๆ คือ การจับบริเวณข้อมือประมาณ 15 วินาที แล้วคูณด้วย 4 โดยทำเป็นระยะระหว่างการออกกำลังกาย หรือถ้าจะให้ดีที่สุดคือควรมีอุปกรณ์การจับชีพจร ซึ่งมีหลายรูปแบบ ในท้องตลาดก็มีแบบที่เป็นนาฬิกาข้อมือ การออกกำลังกายอย่าหักโหมจนชีพจรเต้นเร็วเกินชีพจรสูงสุดเพราะจะเป็นอันตรายกับหัวใจ 


ประโยชน์ของการออกกำลังกายแบบแอโรบิก


  1. ทำให้สมรรถภาพการทำงานของหัวใจและปอดดีขึ้น
  2. ช่วยลดไขมันในร่างกาย สำหรับคนที่ต้องการลดน้ำหนัก การออกกำลังกายแบบนี้สามารถทำให้น้ำหนักลดได้ แต่ต้องทำควบคู่กับการควบคุมอาหาร
  3. ในผู้ป่วยที่เป็นเบาหวาน โคเลสเตอรอล และไตรกลีเซอไรด์สูง การออกกำลังกายแบบนี้สามารถทำให้ระดับน้ำตาล และไขมันในเลือดลดลงได้ด้วย
  4.  ทำให้จิตใจสดชื่นเบิกบาน


ข้อควรระวังในการออกกำลังกาย


  1. ค่อยๆ ออกกำลังกาย จากเบาๆ และเพิ่มความหนักขึ้น และเริ่มจากระยะเวลาสั้นๆ ก่อน แล้วค่อยๆ เพิ่มระยะเวลา ในการออกกำลังกายให้ถึง 10-30 นาที
  2. ต้องมีการอบอุ่นร่างกาย ก่อนออกกำลัง เพื่อให้ร่างกายเตรียมพร้อมก่อน รวมทั้งเมื่อจะเลิกออกกำลังกาย ต้องค่อยๆ ผ่อนให้เบา และช้าลงไม่หยุดทันทีทันใด
  3. ไม่ควรออกกำลังกายหลังจากกินอาหารอิ่มใหม่ๆ ควรออกกำลังกายหลังจากกินอาหารแล้วอย่างน้อย 2 ชั่วโมง
  4. ควรออกกำลังกายในสภาพอากาศที่เหมาะสมไม่เย็นหรือร้อนเกินไป และควรเป็นที่ ที่มีอากาศถ่ายเทดี
  5. ผู้ที่มีโรคประจำตัว ควรปรึกษาแพทย์ผู้รักษาก่อน ถ้าคุณ สามารถปฏิบัติเช่นที่กล่าวมาได้อย่างสม่ำเสมอ รับรองว่าหัวใจของคุณจะแข็งแรงเป็นหนุ่มเป็นสาวเสมอ รู้อย่างนี้แล้วอย่ารอช้า


เรามาออกกำลังกายกันเถอะ..

Shares:
QR Code :
QR Code