ออกกำลังกายทำได้ทุกที่ แม้อยู่บ้านก็ไม่ใช่ปัญหา
เรื่องโดย ฉัตร์ชัย นกดี Team Content www.thaihealth.or.th
หลายคนคุ้นหน้าคุ้นตากันดีกับ เจได-เศรษฐศิษฏ์ ลิ้มกษิดิ์เดช ดีเจหนุ่มหล่อมากความสามารถ เป็นทั้งนายแบบ พิธีกร และนักแสดง แถมยังชอบออกกำลังกายเป็นชีวิตจิตใจอีกด้วย
“การออกกำลังกายสามารถทำที่ไหนก็ได้ เมื่อไหร่ก็ได้ หรืออาจจะออกกำลังกายที่บ้าน เราไม่ต้องรอว่าเมื่อไหร่ฟิตเนสจะปิดหรือจะเปิดกี่โมง อาศัยเพียงร่างกายและท่าออกกำลังกายที่ไม่ต้องใช้อุปกรณ์มากก็เพียงพอแล้ว” เจได เผยถึงมุมมองในการออกกำลังกายสไตล์ของตัวเอง
สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ช่วงที่ทุกคนต้องพยายามเก็บตัวอยู่บ้าน เป็นหนึ่งในแรงผลักดันที่ทำให้ เจได เลือกหันมาออกกำลังกายที่บ้าน แทนการไปฟิตเนสหรือออกไปวิ่งตามสวนสาธารณะ ที่เขาชื่นชอบและไปอยู่เป็นประจำ
เจได เล่าให้ฟังว่า ปกติช่วงก่อนมีโควิด ผมชอบไปเล่นฟิตเนสมากๆ เพราะมีอุปกรณ์ออกกำลังกายครบครัน ช่วยเพิ่มกล้ามเนื้อเฉพาะส่วนได้ แต่พอเกิดโควิด ต้องมีการเว้นระยะห่างทางสังคม และลดการสัมผัสอุปกรณ์ต่างๆ ในฟิตเนส เลยไม่ค่อยได้เข้าเท่าไหร่ จึงเกิดความคิดว่า ทำไมเราไม่เอาเครื่องออกกำลังกายมาไว้ในบ้านซะเลย
“ซึ่งวิธีนี้ทำให้ผมได้กลับมาออกกำลังกายในบ้านเกือบทุกวัน วันละประมาณ 3 ชั่วโมง ผมสามารถดูทีวีไปด้วยวิดพื้นไปด้วย หรือซิทอัพไปด้วยได้ ผมรู้สึกว่าเราสามารถออกกำลังกายที่บ้านก็ได้ มันทำให้ร่างกายเราแข็งแรง นอกจากนี้ยังทำให้บุคลิกดูดีอีกด้วย”
เมื่อถามถึงการเลือกกินอาหาร เจได บอกว่า ส่วนตัวให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มาก ถึงขนาดศึกษาข้อมูลอาหารเพื่อสุขภาพด้วยตัวเอง โดยพบว่าอาหารที่เรากินเข้าไปในแต่ละวัน มีผลกับสุขภาพของเราถึง 70-80% เลยทีเดียว รวมไปถึงการออกกำลังกาย และการนอนหลับ ต้องเพียงพอ ร่างกายจึงจะสมบูรณ์แข็งแรง
“อาหารการกินถ้าเราเอาอะไรไม่ดีเข้าสู่ร่างกาย มันก็คือสิ่งที่มันไม่ดีที่จะอยู่ในร่างกาย เรียกว่าเอาเข้าง่ายแต่เอาออกยาก เพราะฉะนั้นเราต้องเลือกเอาสิ่งดีๆ เข้าร่างกาย เพื่อสุขภาพที่ดี” เจได บอกย้ำ
เจได เล่าต่อว่า ปัจจุบันคนนิยมกินอาหารเพื่อสุขภาพกันมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการกินอาหารลีน หรือการอาหารคลีน สูตรต่างๆ เพื่อลดน้ำหนัก แต่ส่วนตัวจะเลือกทำอาหารกินเอง เพราะสามารถควบคุมปริมาณความหวานมันเค็ม แถมช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้อีกด้วย
เมื่อถามถึงการดูแลจิตใจให้แจ่มใสอยู่เสมอ “เจได” บอกว่า ช่วงโควิด-19 หลายคนคงมีเรื่องเครียดอยู่แล้ว ยิ่งมีข่าวการแพร่ระบาดทุกวัน ก็ยิ่งทำให้รู้สึกแย่ เราลองปรับเปลี่ยนวิธีคิดดู เช่น หางานอดิเรกทำ หรือหาความรู้เพิ่มเติมทางออนไลน์ อย่างผมจะสนใจเรื่องการฝึกทักษะการทำอาหาร เพราะมันคือวิชาชีพที่จะติดตัวเรา และสามารถสร้างรายได้ให้กับเราได้ด้วย
“อยากให้ลองมองกลับกันพลิกวิกฤติโควิด-19 ให้เป็นโอกาส ที่ทำให้เราได้มีทักษะต่างๆ เพิ่มมากขึ้น และอย่าลืมถ้ามีเวลาว่าง อยู่บ้านออกกำลังกายกันด้วยนะครับ” เจได ฝากทิ้งท้าย
การออกกำลังกายสามารถทำได้ทุกที่ทุกเวลา แม้จะอยู่ที่บ้านก็สามารถออกกำลังกายได้ สสส. ขอสนับสนุนการเพิ่มกิจกรรมทางกายในชีวิตประจำวัน เพราะนอกจากทำให้มีสุขภาพดีแล้ว ยังทำให้เราห่างไกลจากโควิด-19 อีกด้วย