ออกกำลังกายด้วยหลัก3ประการ ห่างไกลโรค
ที่มา : เว็บไซต์แนวหน้า
แฟ้มภาพ
แพทย์แนะหลัก 3 ประการ "ความพอเหมาะ ความพอดี สม่ำเสมอ" ส่งผลให้หัวใจแข็งแรง ร่างกายมีสุขภาพที่ดีห่างไกลโรค
นายแพทย์สมศักดิ์อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่าจากกระแสสังคมพบว่าในปัจจุบันประชาชนเริ่มหันมาใส่ใจดูแลสุขภาพเพิ่มมากขึ้นด้วยการออกกำลังกายประเภทต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น การออกกำลังกายด้วยการเข้าฟิตเนส การแอโรบิก การว่ายน้ำ การปั่นจักรยาน การเดิน หรือการวิ่งมาราธอนซึ่งการออกกำลังกายมีผลดีต่อสุขภาพทุกคนแม้แต่ผู้ที่เป็นโรคหัวใจก็สามารถออกกำลังกายได้เนื่องจากการออกกำลังกายจะช่วยให้กล้ามเนื้อหัวใจมีการสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงส่วนต่างๆของร่างกายมากขึ้น ลดปัจจัยการเกิดโรคหัวใจ อาทิ โรคลิ้นหัวใจรั่วหรือตีบ โรคหัวใจจากความดันโลหิตสูง เส้นเลือดหัวใจตีบ ลดภาวะหัวใจล้มเหลว และลดอัตราการเจ็บหน้าอกของผู้ป่วยโรคหัวใจลงอีกด้วย รวมทั้งลดระดับคอเลสเตอรอล ป้องกันโรคเบาหวาน และลดภาวะเครียดนอกจากจะส่งผลดีต่อหัวใจแล้ว การออกกำลังกายยังมีประโยชน์ ต่อสุขภาพ โดยรวมทั้งสามารถป้องกันการเกิดโรคมะเร็งได้
นอกจากนี้ กรมการแพทย์จึงได้กำหนดให้บุคลากรในสังกัดทำกิจกรรมออกกำลังกายในระหว่างการทำงาน (Exercise Break) เพื่อส่งเสริมบุคลากรออกกำลังกายร่วมกัน ผ่อนคลายอิริยาบถระหว่างการทำงานวันละ 2 ครั้ง ในเวลา 10.30 น.และ 15.30 น.ส่งผลให้มีสุขภาพร่างกายแข็งแรงสามารถปฏิบัติงานให้บริการประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
แพทย์หญิงวิพรรณ สังคหะพงศ์ ผู้อำนวยการสถาบันโรคทรวงอก กรมการแพทย์เปิดเผยว่า การออกกำลังกายเพื่อหัวใจแข็งแรงและถูกวิธีนั้นประกอบด้วย 3 หลักง่ายๆคือ
1.ความพอเหมาะการออกกำลังกายในแต่ละครั้งต้องมีความถูกต้อง เหมาะสม ปลอดภัย เหมาะกับวัยของตนเอง หากมีอายุน้อยกว่า 40 ปี ไม่มีปัจจัยเสี่ยงหรือความผิดปกติของร่างกาย เช่น เหนื่อยง่าย แน่นหน้าอก หรือเป็นโรคหัวใจ สามารถออกกำลังกายแบบไม่หักโหมได้ ถ้ามีความผิดปกติควรปรึกษาแพทย์ก่อน
2.ความพอดีควรมีสภาพร่างกายและสิ่งแวดล้อมที่ดีไม่เสี่ยงต่ออันตราย ก่อนออกกำลังกายทุกครั้งควรเตรียมร่างกายให้พร้อมประมาณ 5 -10 นาที โดยระยะที่ออกกำลังกายควรมีความแรงที่พอดีอย่างน้อย 20 นาที เพราะหัวใจจะเต้นเร็วขึ้นและควรมีอัตราชีพจรอยู่ในระดับ 60 -80%ของอัตราการเต้นหัวใจสูงสุด และเมื่อออกกำลังกายเสร็จแล้วไม่แนะนำให้หยุดทันที ควรที่จะชะลอให้ช้าลง 5 – 10 นาที ก่อนหยุดออกกำลังกายทุกครั้ง เพื่อให้ร่างกายและหัวใจได้ปรับสภาวะ
และ 3.สม่ำเสมอควรออกกำลังกายให้เป็นกิจวัตรประจำวัน โดยมีระยะเวลาต่อเนื่อง30 -60 นาทีต่อวัน ควรมีความถี่ 3 – 5 วันต่อสัปดาห์
นอกจากนี้ สิ่งที่สำคัญอย่างยิ่งคือ การตั้งเป้าหมายการออกกำลังกายเป็นประจำ เพื่อทำให้ร่างกายมีสุขภาพที่ดีห่างไกลโรคส่งผลให้การดำรงชีวิตและการทำงานมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นอีกด้วย