“องค์กรแห่งความสุข” สร้างได้
Happy Workplace หรือองค์กรแห่งความสุข เป็นแนวคิดที่ใช้พัฒนาองค์กร โดยการสร้าง “คน” ซึ่งเป็นหัวใจขององค์กร ให้มีความสามารถ และมีความพร้อมต่อการเปลี่ยนแปลง สามารถนำพาองค์กรสู่การเจริญเติบโตอย่างยั่งยืน มั่นคง
ท่ามกลางกระแสการแข่งขันของธุรกิจที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทุกองค์กรต่างงัดสารพัดกลยุทธ์ที่มี มาใช้บริหารองค์กรของตนเพื่อให้อยู่รอด โดยเฉพาะกลยุทธ์การพัฒนาคน ซึ่งถือเป็นทรัพยากรที่สำคัญที่สุดในการขับเคลื่อนองค์กร ดังจะเห็นได้จากองค์กรชั้นนำต่างๆ ที่มุ่งหาวิธีการสร้างความสุขแก่พนักงาน หรือที่เรียกว่า การสร้างองค์กรแห่งความสุข (Happy Workplace) นั่นเอง
เมื่อเร็วๆ นี้ กลุ่มธุรกิจกว่า 50 องค์กร ได้มารวมพลังกันแสดงจุดยืนที่จะพัฒนาไปสู่องค์กรแห่งความสุข ผ่านการลงนามความร่วมมือในโครงการ “การพัฒนาองค์กร เพื่อก้าวไปสู่ Happy Workplace อย่างยั่งยืน” ปีที่ 2 ซึ่งจัดโดยสมาคมอุตสาหกรรมไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์และโทรคมนาคมไทย ร่วมกับกลุ่มอุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ด้วยการสนับสนุนจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)
นางกนิษฐ เมืองกระจ่าง อุปนายกสมาคมอุตสาหกรรมไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์และโทรคมนาคมไทย และประธานดำเนินโครงการฯ กล่าวว่า ได้ร่วมมือกับ สสส. ทำโครงการ Happy workplace มาตั้งแต่ปี 2552 ในครั้งนั้นได้เกิดองค์กรต้นแบบขึ้นมา 5 องค์กร ซึ่งเป็นเสมือนองค์กรพี่เลี้ยง คอยให้คำแนะนำแก่องค์กรปฏิบัติการที่เข้าร่วม จนในปี 2554 ได้ขยายผลมาเป็นโครงการพัฒนาองค์กร เพื่อก้าวไปสู่ Happy Workplace อย่างยั่งยืน ซึ่งปีนี้ได้ดำเนินการเข้าสู่ปีที่ 2 แล้ว และกำลังขยายเครือข่ายจำนวนองค์กรที่เข้าร่วมจากเดิม 25 องค์กร เพิ่มขึ้นเป็น 50 องค์กร แสดงให้เห็นถึงความสำเร็จของการดำเนินโครงการ และความมุ่งมั่นและตั้งใจของแต่ละองค์กรที่จะก้าวข้ามปัญหาต่างๆ ด้วยความร่วมมือสามัคคีของคนในองค์กร อีกทั้งปัจจุบันทุกองค์กรจะต้องปรับตัวให้ทันกับการเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะการรวมกลุ่มประชาคมอาเซียน หรือ เออีซี ซึ่งจะก่อผลให้เกิดการเคลื่อนย้ายแรงงานเข้าสู่ประเทศไทย ดังนั้นการนำ Happy Workplace มาใช้ในองค์กรเพื่อรอบรับการเปิดเออีซีนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง
“การลงนามความร่วมมือนี้ ถือเป็นกิจกรรมแรกของปีที่ 2 โดยมีวัตถุประสงค์การจัดงานเพื่อแสดงพลังความมุ่งมั่นและตั้งใจขององค์กรที่เข้าร่วมโครงการในปีที่ 2 นี้ และเป็นการประกาศเกียรติคุณให้แก่องค์กรปฏิบัติการในปีที่ผ่านมา ขอขอบคุณ สสส.และผู้บริหารองค์กรที่เข้าร่วมกิจกรรม และหวังว่าทุกองค์กรที่เข้าร่วมโครงการ Happy Workplace นี้จะนำหลักการและแนวคิดการสร้างองค์กรแห่งความสุขไปปรับใช้ในองค์กรให้เกิดประโยชน์ทั้งต่อตัวพนักงานและองค์กรต่อไป”นางกนิษฐ กล่าว
นพ.ชาญวิทย์ วสันต์ธนารัตน์ ผอ.สำนักสนับสนุนสุขภาวะองค์กร สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า การทำงานเรื่ององค์กรแห่งความสุข ต้องเปลี่ยนวิธีคิดและมุมมองใหม่ เพราะถ้ามองแบบเดิมๆ เราจะทำแบบเดิมๆ ที่สำคัญต้องมีใจมุ่งมั่นที่จะดูแลคนในองค์กรอย่างแท้จริง 10 ปีที่ได้ทำเรื่องนี้ ได้เดินทางไปทั่วประเทศ พบเห็นคนที่ทำสิ่งดีๆ เพื่อองค์กรเยอะมาก หลายๆ เรื่องไม่ใช่เรื่องการลงทุน แต่เป็นการเปลี่ยนวิธีคิด แล้วเราจะเห็นความงามในนั้น อย่างโรงงานหนึ่ง ไม่มีโรงอาหาร แต่พนักงานสามารถไปกินข้าวในสวน ใต้ต้นไม้ ทำให้พนักงานหลายๆ แผนกได้มานั่งกินข้าวร่วมกัน มีการพูดคุยแลกเปลี่ยนกัน หรือที่เรียกว่า สานเสวนา ซึ่งปัจจุบันได้กลายเป็นเครื่องมือเปลี่ยนโลก เพราะการทำองค์กรในอนาคต จุดสำคัญที่สุดคือ ต้องทำให้คนในองค์กรมีเวลาคุยกัน เพราะถ้าไม่คุยกัน จะไม่มีทางได้เห็นปัญหาที่เกิดขึ้นจริงในองค์กรได้
“องค์กรที่จะสามารถอยู่รอดได้ในอนาคต จะต้องมีการรวมกลุ่ม แบ่งหน้าที่ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน องค์กรแห่งความสุขก็มีแนวคิดแบบเดียวกันคือทำอย่างไรให้คนที่แตกต่างกันอยู่ร่วมกันได้แล้วมีความสุข โดยมีความสุข 8 ประการเป็นเครื่องมือหาความสมดุลของคนในองค์กร มีการจัดสมดุลชีวิต จัดการบทบาทหน้าที่ของตนเองได้อย่างมีความสุข มีวัฒนธรรมองค์กรที่ช่วยหล่อหลอมให้คนที่ไม่เหมือนกันอยู่ร่วมกันได้ สร้างความสัมพันธ์เชิงบวก แบบพี่น้อง ซึ่งโอกาสและอนาคตที่ดี ความสุขที่เรามีร่วมกัน จะเกิดขึ้นไม่ได้ หากไม่มีเริ่มต้นที่จุดเล็กๆ นี้ เราอยากเห็นคนที่มีความสุขทำงานด้วยกัน แต่ทั้งหมดต้องเริ่มจากวันนี้ เราเป็นผู้กล้า ที่จะเรียนรู้ และถ่ายทอด พัฒนาองค์กร พัฒนาคน มีหลักยึดใน 8 มิติที่จะทำให้เรามีความสุขมากขึ้น” นพ.ชาญวิทย์ กล่าว
เพราะความสุขที่เพิ่มขึ้น สามารถบอกเราได้ว่าคุณภาพชีวิตของเราดีจริงหรือไม่
เรื่องโดย: ศิรินทิพย์ อิสาสะวิน Teamcontent www.thaihealth.or.th