ห่วง มะเร็งทำคนไทยเสียชีวิตเป็นอันดับ1
ที่มา: เว็บไซต์ ไทยโพสต์
แฟ้มภาพ
เผยมะเร็งยังคงเป็นโรคคร่าชีวิตคนไทยเป็นอันดับ 1 ทั้งผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มขึ้นทุกปี เฉลี่ยมีผู้ป่วย 1 ในพันของประชากร ผอ.สถาบันมะเร็งฯ ระบุ 3 ปัจจัยเสี่ยง นอกจากกรรมพันธุ์ สามารถหลีกเลี่ยงได้โดยยึดหนัก "5 ทำ 5 ไม่"
นพ.วีรวุฒิ อิ่มสำราญ ผู้อำนวยการสถาบันมะเร็งแห่งชาติ เปิดเผยว่า สถานการณ์ของโรคมะเร็งในภาพรวม พบจำนวนผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มขึ้นทุกปีทั้งในเพศหญิงและเพศชาย โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 130,000 รายต่อปี โดยพบในเพศชายมากกว่าเพศหญิง แต่จากข้อมูลและสถานการณ์พบว่า อัตราการเกิดโรคมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในทั้งสองเพศ รวมถึงอัตราการเสียชีวิต ทั้งนี้ โรคมะเร็งยังคงเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตเป็นอันดับหนึ่งของคนไทย นับตั้งแต่ปี พ.ศ.2542 เฉลี่ย 100 คนต่อประชากร 100,000 คน ในขณะที่อัตราการเสียชีวิตเป็นอันดับ 2 ของคนไทยคืออุบัติเหตุ เฉลี่ยอยู่ที่ 50 คนต่อประชากร 100,000 คน
สำหรับ 5 อันดับแรกของมะเร็งที่พบบ่อยในเพศชาย ได้แก่ 1.มะเร็งตับและท่อน้ำดี 2.มะเร็งปอด 3.มะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนัก 4.มะเร็งต่อมลูกหมาก และ 5.มะเร็งต่อมน้ำเหลือง ขณะที่ 5 อันดับแรกของมะเร็งที่พบบ่อยในเพศหญิง ได้แก่ 1.มะเร็งเต้านม 2.มะเร็งปากมดลูก 3.มะเร็งตับ 4.มะเร็งปอด และ 5.มะเร็งลำไส้ใหญ่ แต่สาเหตุของการเสียชีวิตจากโรคมะเร็งเป็นอันดับที่ 1 ของทั้ง 2 เพศ กลับพบว่าคือโรคมะเร็งตับและท่อน้ำดี ถัดมาคือ โรคมะเร็งปอด สาเหตุเป็นเพราะทั้ง 2 มะเร็งมีการพยากรณ์โรคไม่ดี จึงทำให้ทั้งมะเร็งตับและท่อน้ำดี มะเร็งปอด เป็นสาเหตุเสียชีวิตเป็นลำดับต้นๆ เมื่อเทียบกับมะเร็งชนิดอื่นๆ และขณะที่มะเร็งชนิดอื่นๆ การพยากรณ์โรคจะค่อนข้างดีกว่า หากรู้เร็วก็สามารถให้การรักษาได้อย่างทันท่วงที
ผอ.สถาบันมะเร็งแห่งชาติกล่าวว่า ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดโรคมะเร็งมี 3 ปัจจัยหลัก คือ 1.กรรมพันธุ์ 2.พฤติกรรมที่เสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็ง 3.สิ่งแวดล้อม ที่ประกอบไปด้วยมลภาวะต่างๆ โดยทั้ง 3 ปัจจัยนี้ ในเรื่องของกรรมพันธุ์ไม่สามารถแก้ไขอะไรได้ แต่ก็ไม่ควรวิตกกังวลมากนัก เพราะมีเปอร์เซ็นต์ความเสี่ยงค่อนข้างน้อยเพียง 10% แต่ถ้าเป็นเรื่องของพฤติกรรม ถือว่ามีความเสี่ยงมาก และสิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องที่เราสามารถหลีกเลี่ยงได้ เพราะมีพฤติกรรมมากมายที่ทำให้เราก้าวเข้าสู่ความเสี่ยงในการเป็นโรคมะเร็ง ซึ่งอาจใช้วิธีการยึดหลัก “5 ทำ 5 ไม่” เพื่อห่างไกลโรคมะเร็ง 5 ทำ ได้แก่ 1.ออกกำลังกายเป็นนิจ 2.ทำจิตแจ่มใส 3.กินผัก-ผลไม้ 4.กินอาหารหลากหลาย 5.ตรวจร่างกายเป็นประจำ ส่วน 5 ไม่ ได้แก่ 1.ไม่สูบบุหรี่ 2.ไม่มีเซ็กซ์มั่ว 3.ไม่มัวเมาสุรา 4.ไม่ตากแดดจ้า 5.ไม่กินปลาน้ำจืดดิบ
นอกเหนือจากคำแนะนำ “5 ทำ 5 ไม่” แล้ว ยังมีสิ่งที่ควรต้องระมัดระวังอีกมาก เช่น การรับประทานเนื้อสัตว์แปรรูป อาหารปิ้ง-ย่างไหม้เกรียม ไม่รับประทานอาหารจากน้ำมันทอดซ้ำ หรือใช้เข็มฉีดยาร่วมกัน ซึ่งจะทำให้มีโอกาสติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบีและไวรัสตับอักเสบซีได้ และอาจกลายเป็นมะเร็งตับได้ในอนาคต