ห่วงผู้สูงอายุตกสำรวจสุขภาพ
แผนงานพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุมูลนิธิสถาบันวิจัยและพัฒนาผู้สูงอายุไทย ห่วงผู้สูงอายุตกสำรวจสุขภาพอื้อ คัดกรองแค่ 25% เผย 7 โรครุมอ่วม
พญ.ลัดดา ดำริการเลิศ ผู้จัดการแผนงานพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ มูลนิธิสถาบันวิจัยและพัฒนาผู้สูงอายุไทย (มส.ผส.) สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า จากการศึกษาปัญหาสุขภาพของผู้สูงอายุไทยของสำนักงานวิจัยเพื่อการพัฒนาหลักประกันสุขภาพไทย (สวปก) ระหว่างเดือน ต.ค. 2552-ก.ย.2553 พบว่าผู้สูงอายุไทยยังคงมีปัญหาด้านสุขภาพที่จำเป็นต้องอยู่ในภาวะพึ่งพิงบุคคลวัยทำงานอย่างมาก เนื่องจากมีการป่วยเป็นโรคเรื้องรังกันมากขึ้น โดยจากการศึกษาเชิงคุณภาพในเวชระเบียนของผู้ป่วยสูงอายุที่เข้ารับบริการสาธารณสุข ด้วยสิทธิการรักษาพยาบาล 2 สิทธิ์ คือ ระบบรักษาฟรี ระบบสิทธิข้าราชการ ซึ่งคิดเป็น 95% ของจำนวนผู้สูงอายุทั่วประเทศ พบผู้ป่วยที่นอนรักษาตัวในโรงพยาบาล (ipd) ส่วนใหญ่ป่วย 7 โรคหลัก ได้แก่ปอดอักเสบ 7% ตาต้อกระจก 6% ติดเชื้อทางเดินอาหาร เช่น ท้องเสีย ท้องเสียเรื้อรัง 6% เบาหวาน 4% ไตเสื่อม ไตวาย 4% หัวใจขาดเลือด 4% และหลอดเลือดสมอง 4%
“โรคทั้งหมดนี้เป็นโรคที่ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ ที่กำลังคุกคามผู้สูงอายุไทยอย่างมาก ทั้งนี้ข้อมูลดังกล่าวเป็นแค่การพิจารณาจากผู้ป่วยในเท่านั้น ยังไม่นับรวมผู้สูงอายุที่เข้าไม่ถึงระบบบริการสาธารณสุขและผู้สูงอายุที่ถูกทอดทิ้ง ซึ่งเข้าใจว่าคงยังมีอยู่จำนวนไม่น้อย โดยปัจจัยจากการเข้าไม่ถึงระบบบริการสุขภาพนั้นมาจากหลายส่วนที่เด่นๆ ได้แก่ เรื่องของข้อจำกัดด้านการเดินทางไปพบแพทย์ ปัญหากระดูกเสื่อม ตาฝ้าฟาง และขาดภาวะพึ่งพิง เช่น บุตรหลาน เครือญาติ เป็นต้น โดยปัจจัยสุดท้ายเป็นเพราะสังคมไทยปัจจุบันนิยมออกไปทำงานนอกบ้าน ทั้งหญิงและชายจึงอาจเป็นไปได้ว่าจะไม่ค่อยมีเวลาดูแลผู้สูงอายุเต็มที่” พญ.ลัดดา กล่าว
พญ.ลัดดา กล่าวด้วยว่า ทั้งนี้จุดอ่อนของระบบบริการสุขภาพไทยก็ยังเป็นปัญหาอยู่มาก เนื่องจากการตรวจคัดกรองซึ่งเป็นนโยบายหลักของกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ที่สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) มีการรณรงค์อย่างต่อเนื่องนั้นครอบคลุมเพียง 25% จาก 95% ทั้งนี้ จากรายงานของสำนักงานสถิติแห่งชาติปี 2553 ยังพบว่าการจัดบริการด้านการใส่ฟันเทียม ยังมีผู้สูงอายุเข้าถึงบริการแค่ 10% เท่านั้น จึงทำให้ มส.ผส.เป็นห่วงว่า แนวทางการรักษาโรคต่างๆ ที่เป็นภัยคุกคามสุขภาพผู้สูงอายุขณะนี้ จะไม่สามารถดำเนินการได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ เนื่องจากการคัดกรองยังไม่ครอบคลุม ทั้งนี้นอกจากการส่งเสริมเชิงนโยบายในการตรวจรักษาโรคแล้วยังจำเป็นต้องเสนอเรื่องของการสร้างสภาพแวดล้อมในบ้านให้เหมาะสมแก่วัยสูงอายุเพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุภายในบ้านด้วย
ที่มา : หนังสือพิมพ์ astv ผู้จัดการรายวัน