หวั่นโภชนาการทำเด็กไทยไอคิวต่ำ

ระดับสติปัญญาของเด็กนักเรียนไทย ในปี 2554 ของกรมสุขภาพจิต โดยสุ่มสำรวจนักเรียนจำนวน 72,780 คน ที่มีอายุ 6-15 ปีจากโรงเรียนทั่วประเทศ

ภาพรวมของประเทศพบว่ามีเด็กที่ไอคิวต่ำกว่าเกณฑ์ปกติ คือ ไอคิวต่ำกว่า 90 คะแนน ประมาณร้อยละ 28.4 หรือคิดเป็น 1 ใน 4 ของเด็กไทย หากแบ่งเป็นระดับจังหวัดพบว่าเด็กไอคิวมากกว่า 100 มี 18 จังหวัด อันดับหนึ่ง คือ นนทบุรี ระดับไอคิวที่ 108.91 อันดับสอง จังหวัดระยอง ระดับไอคิวที่ 107.52 อันดับสาม จังหวัดลำปาง ระดับไอคิวที่ 106.62 อันดับสี่คือ กทม.ระดับไอคิวที่ 104.50

“นอกจากนี้ยังพบว่า เด็กไอคิวเท่ากับ 100 มี 20 จังหวัด และไอคิวที่ต่ำกว่า 100 มีถึง 38 จังหวัดส่วนใหญ่อยู่ที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และจังหวัดปัตตานี และนราธิวาส รั้งท้ายด้วย ส่วนปัจจัยที่ทำให้เด็กไทยไอคิวต่ำพบว่าเด็กที่ดื่มนมแม่มากกว่า 6 เดือนมีไอคิวสูงกว่าดื่มนมแม่ 3 เดือน ส่วนอาหารก็มีความสำคัญโดยเฉพาะไอโอดีนและธาตุเหล็ก ซึ่งแม่ต้องทานตั้งแต่ตั้งครรภ์ นอกจากนี้ยังมีปัจจัยอื่นด้วยเช่นพื้นฐานของพ่อ-แม่ การเลี้ยงดู และสิ่งแวดล้อม”

 

นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน ผอ.สถาบันสุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่นราชนครินทร์ กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า นอกจากนี้ยังพบว่าระบบการศึกษาของไทยยังมีนักเรียนที่มีความบกพร่องของระดับสติปัญญาหรือมีไอคิวต่ำกว่า 70 คะแนน อยู่ร้อยละ 6.5 ซึ่งตามมาตรฐานสากลกำหนดไว้ว่าไม่ควรเกินร้อยละ 2 ที่น่าตกใจคือพบว่าเด็กในจังหวัดนราธิวาสไอคิวเพียง 22 คะแนน ซึ่งถือว่าป่วยและบกพร่องทางปัญญา เด็กไทยที่เกิดก่อนช่วง 10 ปี ไอคิวต่ำกว่า 100 อยู่มาก พบว่าอยู่ในช่วงยุคไอเอ็มเอฟ

“ปัจจัยที่มีผลต่อระดับสติปัญญาของเด็กมี 3 ส่วน คือ ด้านภาวะโภชนาการ ตัวเด็กและครอบครัว การเลี้ยงดูและสิ่งแวดล้อม เช่น ถ้าพ่อแม่มีการศึกษาสูงมีแนวโน้มที่ลูกจะมีไอคิวสูงกว่าลูกของพ่อแม่ที่มีการศึกษาน้อยกว่า เด็กยากจนจะมีคะแนนเฉลี่ยไอคิวประมาณ 100 คะแนน ส่วนเด็กที่อยู่ในสถานะทางสังคมสูงสุดพบว่าระดับคะแนนเฉลี่ยไอคิวประมาณ 119 คะแนน”

“ปัจจัยที่มีผลต่อระดับสติปัญญาของเด็กมี 3 ส่วน คือ ด้านภาวะโภชนาการ ตัวเด็กและครอบครัว การเลี้ยงดูและสิ่งแวดล้อม เช่น ถ้าพ่อแม่มีการศึกษาสูงมีแนวโน้มที่ลูกจะมีไอคิวสูงกว่าลูกของพ่อแม่ที่มีการศึกษาน้อยกว่า เด็กยากจนจะมีคะแนนเฉลี่ยไอคิวประมาณ 100 คะแนน ส่วนเด็กที่อยู่ในสถานะทางสังคมสูงสุดพบว่าระดับคะแนนเฉลี่ยไอคิวประมาณ 119 คะแนน

ขณะที่ รศ.พญ.ลัดดา เหมาะสุวรรณ ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ กล่าวว่า ภาวะโภชนาการมีความสำคัญต่อไอคิวเด็กมาก จากการสำรวจของยูนิเซฟพบว่า เด็กบางคนมีไอคิวดี แต่ไปไม่ถึงไหน เพราะความยากจนด้อยโอกาส ภาวะสุขภาพไม่ดี มีอยู่ 3 ประการคือ เตี้ยแคระแกร็น ขาดธาตุไอโอดีน โลหิตจางจากขาดธาตุเหล็ก ทั้ง 4 เรื่องนี้เป็นปัจจัยหลักที่ป้องกันได้ ปี 2554 ปัจจัยเสี่ยงสำคัญคือ อาหารของแม่ตั้งครรภ์ได้รับไม่เพียงพอ     

 

 

ที่มา : หนังสือพิมพ์ASTVผู้จัดการ

 

 

Shares:
QR Code :
QR Code