หลายโรคหน้าฝนต้องระวัง
ที่มา : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
แฟ้มภาพ
เข้าหน้าฝนอย่างเป็นทางการแล้ว ทำให้ช่วงนี้ฝนตกแทบทุกวัน ผู้ปกครองควรดูแลเด็ก ๆ ลูกหลาน อย่างใกล้ชิด เพราะมีหลายโรคที่มาพร้อมหน้าฝน
นายแพทย์อดิศัย ภัตตาตั้ง ผู้อำนวยการสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี กล่าวว่า โรคที่พบบ่อยในช่วงฤดูฝน โดยส่วนมากมักเป็นโรคที่เกี่ยวกับทางเดินหายใจ เช่น โรคไข้หวัด, ไข้หวัดใหญ่, ไข้ไวรัส RSV, ปอดบวม, หลอดลมอักเสบ และ มือเท้าปาก สาเหตุมาจากการได้รับเชื้อมาจากคนและสัตว์
สำหรับอาการ ในส่วนของโรคไข้หวัดใหญ่ จะมีไข้สูง ไอ เจ็บคอ ปวดกล้ามเนื้อ และอ่อนเพลีย โรคติดเชื้อทางเดินหายใจไวรัส RSV มีอาการ น้ำมูกไหล คัดจมูก รับประทานอาหารได้น้อย หลังจากนั้น 1-3 วัน จะมีอาการ ไอ มีไข้ หายใจลำบาก และอาจมีเสียงดังตอนหายใจอีกด้วย, โรค มือ เท้า ปาก มีสาเหตุ เกิดจากเชื้อไวรัส เกิดจากการสัมผัส สารคัดหลั่ง หรือ น้ำลายของผู้ป่วย มีอาการ คือ มีตุ่มแดง ๆ หรือตุ่มน้ำ บนฝ่ามือ ฝ่าเท้า รวมถึงที่เข่าและก้น มีไข้สูง สังเกตได้จากการที่เด็กไม่ยอมรับประทานอาหาร เพราะรู้สึกเจ็บแผลในปาก หรือ กระพุ้งแก้ม, โรคไข้เลือดออก มีสาเหตุจาก ยุงลายเป็นพาหะนำโรค มีอาการไข้สูงนำ หน้าแดงผิดสังเกต และมักพบอาการเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร เช่น ปวดท้องที่ชายโครง คลื่นไส้ อาเจียน ถ่ายเหลว เป็นต้น
นายแพทย์อดิศัย กล่าวว่า การป้องกันโรคที่มาในหน้าฝน ผู้ปกครองจะต้องดูแลลูกน้อยอย่างใกล้ชิด ทั้งการสวมหน้ากากอนามัย และล้างมืออย่างสม่ำเสมอตาม 7 ขั้นตอน นอกจากนี้ การสวมเสื้อผ้ารักษาร่างกายให้อบอุ่น และการออกกำลังกาย เพื่อให้ร่างกายลูกมีภูมิต้านทานโรค เนื่องจากสภาพอากาศมีความชื้นสูง หนาวเย็น จะทำให้ร่างกายที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ จึงมีโอกาสติดเชื้อโรคทางเดินหายใจได้ง่าย และที่สำคัญควรกำจัดน้ำขังในบ้าน ซึ่งเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำยุงลาย อันเป็นสาเหตุหลักของไข้เลือดออกในหน้าฝนอีกด้วย
ทั้งนี้ผู้ปกครองควรเฝ้าระวัง และสังเกตลูกน้อย หากพบว่าไข้สูง 3 วัน อาการไม่ดีขึ้น หรือเด็กไม่สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างปกติสุข เช่น กินไม่ได้ ซึมลงมาก นอนไม่ได้ หอบเหนื่อย หรือ กระสับกระส่าย ควรพาไปพบแพทย์เพื่อทำการรักษาอย่างทันท่วงที