หยุด HIV ลดผู้ติดเชื้อ-จากแม่สู่ลูก

ที่มา : เว็บไซต์กรมอนามัย โดยศูนย์สื่อสารสาธารณะ


ภาพประกอบจากแฟ้มภาพ


หยุด HIV ลดผู้ติดเชื้อ-จากแม่สู่ลูก thaihealth


กรมอนามัย ขับเคลื่อนงานยุติเอชไอวีต่อเนื่อง ตั้งเป้า ไม่มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ ไม่มีผู้ตายจากเอดส์ ลดการถ่ายทอดเชื้อจากแม่สู่ลูก


กรมอนามัยกระทรวงสาธารณสุข ขับเคลื่อนงานยุติเอชไอวีต่อเนื่อง ตั้งเป้า ไม่มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ ไม่มีผู้ตายจากเอดส์ ไม่เลือกปฏิบัติ และลดอัตราการถ่ายทอดเชื้อเอชไอวีจากแม่สู่ลูก ย้ำ แม่ตั้งครรภ์ฝากท้องเร็วพร้อมคู่ รับการปรึกษา รับการดูแลรักษาด้วยยาต้านไวรัสที่มีประสิทธิภาพสูงหากผลเลือดเป็นบวก


นายแพทย์อรรถพล แก้วสัมฤทธิ์ รองอธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้กำหนดให้วันที่ 1 ธันวาคม ของทุกปีเป็นวันเอดส์โลก (World AIDS Day) เพื่อสร้างความตระหนักให้กับประชาชนทุกประเทศทั่วโลก ร่วมกันรณรงค์สร้างความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับเอดส์ โดยปี 2560 นี้ มีคำขวัญคือ Right to health สิทธิสุขภาพ ปราศจากตีตรา สู่การพัฒนาที่ยั่งยืน ซึ่งประเทศไทยมีเป้าหมายในการแก้ไขปัญหาเอดส์ คือ ไม่มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ ไม่มีผู้ตายจากเอดส์ ไม่เลือกปฏิบัติ และการถ่ายทอดเชื้อเอชไอวีจากแม่สู่ลูกเป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์ลดการติดเชื้อรายใหม่ ที่ประเทศไทยตั้งเป้าหมายลดการติดเชื้อเอชไอวีรายใหม่ต่ำกว่า 1000 รายในปี 2573 และไม่มีการเชื้อ เอชไอวีจากแม่สู่ลูก ดังนั้น จำเป็นต้องได้รับความร่วมมือจากหญิงตั้งครรภ์ที่ต้องใส่ใจตั้งแต่เริ่มตั้งครรภ์ โดย


1) ฝากครรภ์โดยเร็ว ก่อน 12 สัปดาห์ เพื่อได้รับการดูแลสุขภาพตนเองและลูกในครรภ์


2) รับการปรึกษาพร้อมคู่ เพื่อตรวจหาโรคที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรม และตรวจหาการติดเชื้อเอชไอวี


3) หากหญิงตั้งครรภ์และคู่มีผล การตรวจเลือดเอชไอวีเป็นบวก จะได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม โดยหญิงตั้งครรภ์จะได้รับยาต้านไวรัสที่มีฤทธิ์ประสิทธิภาพสูง (HAART) เพื่อป้องกันการถ่ายทอดเชื้อเอชไอวีจากแม่สู่ลูก สามี/คู่ ได้รับการดูแลรักษาตามมาตรฐานการดูแลของประเทศ


4) เด็กที่เกิดจากแม่ที่ติดเชื้อเอชไอวีได้รับยาต้านไวรัสที่มีฤทธิ์ประสิทธิภาพสูงเพื่อป้องกันการติดเชื้อ รับนมผสมเพื่อทดแทนนมแม่นานถึง 18 เดือน


การลดการถ่ายทอดเชื้อเอชไอวีจากแม่สู่ลูกจะประสบความสำเร็จได้ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับการดำเนินงานของเจ้าหน้าที่และบุคลากรสาธารณสุขเท่านั้น แต่ครอบครัว ชุมชน และสังคม เป็นส่วนสำคัญมากที่จะช่วยเหลือ สนับสนุนหญิงตั้งครรภ์ หญิงหลังคลอด รวมทั้งลูกและครอบครัวที่ติดเชื้อเอชไอวีให้ได้รับการดูแลอย่างต่อเนื่อง สามารถอยู่ในสังคมได้อย่างมีคุณภาพชีวิตที่ดีต่อไป ทั้งนี้ ในประเทศไทยมีระบบการรายงานการติดเชื้อเอชไอวี ในหญิงตั้งครรภ์มาตั้งแต่ปี 2531 กรมอนามัยจึงได้ร่วมกับศูนย์วิจัยโรคเอดส์ สภากาชาดไทย ดำเนินโครงการป้องกันการถ่ายทอดเชื้อเอชไอวีจากแม่สู่ลูก (prevention of mother-to-child transmission of HIV, PMTCT) เพื่อยุติการถ่ายทอดเชื้อเอชไอวีจากแม่สู่ลูก และในปี 2559 ที่ผ่านมา ประเทศไทยได้รับเกียรติบัตรจากองค์การอนามัยโลกเพื่อรับรองว่าประเทศไทยประสบความสำเร็จในการยุติการถ่ายทอดเชื้อเอชไอวีและซิฟิลิสจากแม่สู่ลูกตามเป้าหมายโลกคือ มีอัตราต่ำกว่าร้อยละ 2 ซึ่งเป็นประเทศแรกของเอเชีย และเป็นประเทศที่ 2 ของโลกรองจากประเทศคิวบาโดยผลการดำเนินงานปี 2559 และปี 2560 การติดเชื้อเอชไอวีในเด็กทารกแรกเกิดเป็นร้อยละ 1.80 และร้อยละ 0.92 ตามลำดับ” รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าว

Shares:
QR Code :
QR Code