หมอ เผย โรคจุดภาพชัดเสื่อม รักษาไม่หาย

ที่มา :  ข่าวสด


หมอ เผย โรคจุดภาพชัดเสื่อม รักษาไม่หาย thaihealth


แฟ้มภาพ


โรคจุดภาพชัดเสื่อม คือภาวะที่นำไปสู่การสูญเสียการมองเห็น พบได้มากในผู้ป่วยอายุ 60 ปีขึ้นไป สาเหตุจากจุดรับภาพตรงกลางของจอตาเสื่อม


นพ.ภาสกร ชัยวานิชศิริ รองอธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า โรคจุดภาพชัดเสื่อม คือภาวะที่นำไปสู่การสูญเสียการมองเห็น พบได้มากในผู้ป่วยอายุ 60 ปีขึ้นไป สาเหตุจากจุดรับภาพตรงกลางของจอตาเสื่อม ซึ่งโรคจอตาเสื่อมเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุขึ้นอยู่กับความรุนแรงของโรค อาการของจอตา ได้แก่ มองในที่สว่างไม่ชัด หรือแพ้แสง ปรับสายตาจากการมองเห็นในที่มืดมาที่สว่างไม่ค่อยได้ ตามัวมีจุดดำหรือเงาบังอยู่ตรงกลางภาพ เห็นสีผิดเพี้ยน แนะนำให้สังเกตความผิดปกติด้วยตัวเอง ซึ่งเป็นสิ่งที่จำเป็นมาก โดย การใช้แผ่นทดสอบจอตาส่วนกลางด้วยตารางตรวจจุดภาพชัด เช็ก อาการจุดภาพชัดเสื่อมถ้ามองเห็นภาพผิดปกติจะต้องพบจักษุแพทย์


พญ.สายจินต์ อิสีประดิฐ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเมตตาประชารักษ์ (วัดไร่ขิง) เปิดเผยว่า โรคจุดภาพชัดเสื่อมเป็นโรคที่เกิดจากความเสื่อมในส่วนกลางของจอประสาทตาเกิดขึ้นได้เมื่อมีอายุมากขึ้นเป็นสาเหตุสำคัญทำให้สูญเสียความสามารถการมองเห็นในผู้สูงอายุ มักพบในผู้ที่มีอายุมากกว่า 50 ปี อาจพบได้ในผู้มีอายุน้อย ซึ่งมักพบในผู้ที่มีประวัติทางครอบครัวเป็นโรคนี้


พญ.สายจินต์กล่าวต่อว่า โรคจุดภาพชัดเสื่อมแบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ 1.โรคจุดภาพชัดเสื่อมแบบแห้ง พบได้ร้อยละ 90 เกิดจากเซลล์รับแสงในจุดรับภาพเริ่มเสื่อมสภาพลงเรื่อยๆ ตามวัยที่เพิ่มขึ้น เซลล์รับแสงในจุดรับภาพมีจำนวนน้อยลง การมองเห็นบริเวณกลางภาพแย่ลง ทำให้ต้องใช้แสงสว่างมากกว่าปกติ เมื่อต้องอ่านหนังสือหรือทำกิจกรรมระยะใกล้ 2.โรคจุดภาพชัดเสื่อมแบบเปียก เกิดจากมีเส้นเลือดงอกผิดปกติใต้จอตาทำให้สูญเสียการมองเห็นที่รุนแรง ภาวะโรคจุดภาพชัดเสื่อมแบบเปียกจะมีน้ำหรือเลือดรั่วออกมาจากเส้นเลือดที่งอกผิดปกติได้


พญ.สายจินต์กล่าวอีกว่า ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เป็นโรคจุดภาพชัดเสื่อมนั้น ได้แก่อายุที่มากขึ้น การเผชิญแสงแดดหรือแสงอัลตราไวโอเลต โรคหัวใจ ความดันสูง คอเลสเตอรอลในหลอดเลือดสูง สูบบุหรี่ ดื่มสุรา และพันธุกรรม สามารถทดสอบด้วยตนเองได้จากตารางแอมสเลอร์กริดมีทั้งเส้นแนวตั้งและแนวนอน โดยมีจุดอยู่ตรงกลาง ถ้ามองเห็นบางเส้นไม่ชัดหรือเส้นจางหายไปควรรีบพบจักษุแพทย์ทันที การรักษาอาจรักษาด้วยยา เลเซอร์ หรือใช้หลายวิธีร่วมกัน การรักษาในปัจจุบันเป็นเพียงชะลอการสูญเสียสายตา แต่สามารถป้องกันภาวะจอประสาทตาเสื่อมได้โดยการลดปัจจัยเสี่ยงที่สามารถหลีกเลี่ยงได้โดยรักษาสุขภาพให้ แข็งแรง เช่น ออกกำลังกาย รับประทานอาหารที่ช่วยบำรุงสายตา เพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดจอประสาทตาเสื่อม ได้แก่ ผักผลไม้ที่มีสีเหลือง ส้ม อาทิ แครอต ฟักทอง ผักใบเขียว เช่น คะน้า ปวยเล้ง ฯลฯ ควบคุมน้ำหนัก สวมแว่นกันแดด งดสูบบุหรี่


"จอตาเสื่อมจะไม่สามารถป้องกันหรือรักษาได้ แต่หากได้รับการวินิจฉัยการรักษาทันท่วงทีจะช่วยชะลอความรุนแรงของโรค และลดโอกาสการสูญเสียการมองเห็น" พญ.สายจินต์กล่าว

Shares:
QR Code :
QR Code