หมอมะกันจวก บ.ประกันยักษ์ใหญ่

ฐานส่งจดหมายลับถึงหมอขอให้เปิดเผยข้อมูลคนไข้

สำนักข่าวต่างประเทศหลายสำนักรายงานว่า แพทย์ทั่วประเทศสหรัฐอเมริกาแสดงความรู้สึกไม่พอใจอย่างมากต่อกรณีที่บริษัทประกันสุขภาพ

ที่ให้บริการภายใต้ตราสิ้นค้า “บูลครอส” ได้ทำเรื่องร้องขอแบบลับๆ ต่อแพทย์ให้รายงานข้อมูลเกี่ยวกับปัญหาสุขภาพของคนไข้ก่อนที่คนไข้เหล่านั้นจะเอาประกันสุขภาพซึ่งจะยังผลให้คนไข้หลายต่อหลายคนอาจต้องสูญเสียการครอบคลุมของบริการประกันสุขภาพโดยบริษัทยักษ์ใหญ่รายนี้

“นี่เป็นเรื่องที่น่าโมโหมากๆ” นพ.อาเธอร์ เฟลด์แมน ประธานด้านแพทยศาสตร์ของโรงเรียนแพทย์เจฟเฟอร์สันในเมืองฟิลาเดลเฟียกล่าวและว่า “บลูครอสได้เงินจากธุรกิจประกันสุขภาพไปหลายพันล้านเหรียญ สหรัฐในขณะที่คนสหรัฐจำนวนไม่น้อยไม่มีเงินพอสำหรับการจ่ายเบี้ยประกันสุขภาพและคนอีก 46 ล้านคนไม่มีประกันสุขภาพใดๆ เลย และนี่เป็นสิ่งที่สภาคองเกรสต้องพิจารณาทำอะไรสักอย่างแล้ว”

“นี่แสดงให้เห็นได้ชัดว่าการประกันสุขภาพในสหรัฐนั้นเป็นเรื่องของธุรกิจล้วนๆ เลย” พญ.โจแอนนา เคน ผู้อำนวยการศูนย์เพื่อสุขภาพสตรีของมหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์และสุขภาพโอเรกอน ในเมืองพอร์ตแลนด์กล่าว

“จริงอยู่ว่าในทางธุรกิจแล้วการทำแบบนี้ก็น่าจะสมเหตุสมผล” พญ.เคน กล่าวและว่า “แต่ในแง่การให้บริการสุขภาพขั้นพื้นฐานที่ประชาชนชาวอเมริกันกำลังเข้าถึงกันได้น้อยลงเรื่อยๆ นี้นับเป็นเรื่องที่สหรัฐจะต้องอับอายขายขี้หน้าประเทศพัฒนาแล้วๆ อื่นๆ ที่ไม่สามารถดูแลประชากรของตัวเองได้ และท้ายที่สุดก็จะมีผลกระทบต่องบประมาณของชาติอยู่ดี”

ด้านนพ.ริชาร์ด แฟรงเกนสไตน์ นายกสมาคมแพทย์แคลิฟอร์เนียกล่าวกับสำนักข่าวเอพีว่าจดหมายลับที่ส่งโดยบริษัทประกันสุขภาพรายใหญ่ที่สุดรายนี้ถึงแพทย์เพื่อเรียกร้องให้เปิดเผยข้อมูลผู้เอาประกันถือเป็นเรื่องที่ละเมิดต่อจรรยาบรรณแพทย์ว่าด้วยเรื่องการเก็บข้อมูลที่เป็นความลับของคนไข้

ผู้สื่อข่าวได้พยายามติดต่อแผนกสื่อมวลชนของบริษัทที่ดำเนินธุรกิจประกันสุขภาพบูลครอสเพื่อขอสัมภาษณ์เกี่ยวกับกรณีที่สมาคมแพทย์ออกมากล่าวโจมตีทางบริษัท แต่กลับไม่ได้รับการตอบรับหรือแสดงความคิดเห็นใดๆ จากบริษัทดังกล่าว

มีเพียงหนังสือพิมพ์เดอะลอสแอนเจลีส ไทม์ส ฉบับเดียวที่เป็นสื่อมวลชนรายแรกซึ่งเปิดเผยข่าวความไม่พอใจของสมาคมแพทย์ต่อการกระทำอันไร้มนุษยธรรมของบริษัทประกันสุขภาพนี้ออกมาที่ได้คำสัมภาษณ์จากโฆษกของบริษัทเจ้าของบริการประกันสุขภาพบูลครอส ซึ่งกล่าวเพียงแต่ว่าทางบริษัทก็แค่พยายามที่จะลดต้นทุนเบี้ยประกันเพื่อผู้เอาประกันรายอื่นเท่านั้นเอง

ทั้งนี้ในจดหมายที่ทางบูลครอสส่งไปถึงแพทย์ทั่วประเทศมีใจความตอนหนึ่งบอกเป็นนัยๆ ว่าการที่จะช่วยให้ผู้เอาประกันรายอื่นๆ ต้องจ่ายเบี้ยประกันสุขภาพน้อยลงก็คือการที่ต้องทำให้คนอีกหลายคนต้องหมดสภาพจากการคุ้มครองด้วยประกันสุขภาพเดียวกันนี้ไปนั่นเอง

ข้อความในจดหมายตอนหนึ่งเขียนไว้ดังนี้ “เราใคร่ขอความช่วยเหลือจากท่านในการระบุถึงโรคของคนไข้ที่ไม่ระบุไว้เพราะว่าท่านเป็นแพทย์ประถมภูมิย่อมรู้ดีถึงอาการเจ็บป่วยและเข้ารับการรักษาต่างๆ ของคนไข้ดี”

เนื้อความในจดหมายตอนหนึ่งยังกล่าวอีกด้วยว่า “ภายในระยะเวลา1 ถึง 2 ปีแรกของการเอาประกัน บูลครอสมีสิทธิ์ในการยกเลิกการเป็นสมาชิกประกันสุขภาพของผู้เอาประกันได้หากพบว่ามีการปกปิดข้อมูลที่เป็นจริงเกี่ยวกับประวัติด้านสุขภาพของผู้เอาประกัน”

 

 

 

ที่มา : สำนักข่าวต่างประเทศ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ

ภาพประกอบ : internet

update 13-02-51