หนุน พ.ร.บ.บุหรี่ฯ เพื่อคนไทย

ขณะที่ 97 ประเทศทั่วโลก รวมถึง ลาว เมียนมา มาเลเซีย สิงคโปร์ และบรูไน มีกฎหมายห้ามแบ่งซองขายบุหรี่เป็นรายมวนแล้ว แต่ประเทศไทยยังไม่อาจออกกฎหมายห้ามซื้อบุหรี่แบบแบ่งซองขายเป็นรายมวนได้


หนุน พ.ร.บ.บุหรี่ฯ เพื่อคนไทย thaihealth


ยืนยันด้วยผลสำรวจพบเด็กไทยอายุ 15-18 ปี กว่า 2 แสนคน ซื้อบุหรี่แบบแบ่งขายในแต่ละวันกว่า 1.6 ล้านมวน คิดเป็นเงินปีละ 1,800 ล้านบาท และพบการตายจากโรคที่เกิดจากการสูบบุหรี่อีกปีละ 48,244 คน


ด้วยเหตุนี้ ประเทศไทยจำเป็นที่จะต้องมีกฎหมายห้ามแบ่งซองขายบุหรี่ ในร่างพ.ร.บ.ควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบฉบับใหม่ เพราะการขายแบบรายมวนเป็นสาเหตุทำให้เด็กๆ ทดลองสูบจนเกิดการเสพติดบุหรี่ ถึง 70% จะติดไปตลอดชีวิต ครอบคลุมไปถึงผลิตภัณฑ์ที่มีสารนิโคตินเป็นส่วนประกอบและผลิตภัณฑ์รูปแบบใหม่ เช่น บารากู่ บารากู่ไฟฟ้า บุหรี่อิเล็กทรอนิกส์ อายุขั้นต่ำผู้ซื้อเพิ่มจากเดิม 18 ปี เป็น 20 ปี


สาระคือการห้ามขายบุหรี่แบบแบ่งซอง ห้ามขายทางอินเตอร์ เน็ต ห้ามแสดงราคาผลิตภัณฑ์ ณ จุดขาย ห้ามขายในวัด สวนสาธารณะ ทุกสถานที่ราชการ ห้ามโฆษณาและสื่อสารการตลาด สัญลักษณ์ของผลิตภัณฑ์ในสื่อสิ่งพิมพ์ โทรทัศน์ ภาพยนตร์ อินเตอร์เน็ต การประกวดหรือการแข่งขันต่างๆ


โดยมีกระทรวงสาธารณสุข ทำงานใกล้ชิดกับสำนักงานกอง ทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และ ภาคีเครือข่ายฯ มากมายหลายองค์กรสร้างกระบวนการทำงานการผลักดันให้สังคมไทยปลอดบุหรี่ ผนึกกับศูนย์วิจัยและจัดการความรู้เพื่อการควบคุมยาสูบ ม.มหิดล กรมสรรพสามิต มูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ ในสถานศึกษา มหาวิทยาลัย และในทุกพื้นที่สาธารณะ


หาก พ.ร.บ.ยาสูบฉบับใหม่คลอดออกมาได้ กระทรวงสาธารณสุขยืนยันว่า จะสามารถป้องกันเด็กไทยไม่ให้ติดบุหรี่และประหยัดค่ารักษาโรค โดยลดความสูญเสียทางเศรษฐกิจอื่นๆได้ถึงคนละ 156,000 บาท สอดรับกับองค์กรอนามัยโลก กำหนดคำขวัญวันงดสูบบุหรี่โลก ปี 2558 "Stop illicit trade of tobacco products" ส่วนกรมควบคุมโรค ก.สาธารณสุข มีคำขวัญว่า "หนุนกฎหมายใหม่ เพื่อคุณภาพชีวิตคนไทย"  กฎหมายใหม่ ช่วยให้ลดจำนวนเด็กและเยาวชนที่จะเสพติดบุหรี่ เท่ากับทำให้ผู้ปกครอง ครู และสังคม ได้รับความสุขอย่างแท้จริง


 


 


ที่มา: หนังสือพิมพ์ข่าวสด

Shares:
QR Code :
QR Code