หนุน ‘คลินิกทันตกรรมช่วยเลิกบุหรี่’ ใน รพ.สังกัดกระทรวง สธ.
ที่มา : หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์
ภาพประกอบจากเว็บไซต์สำนักสารนิเทศ สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข
ทันตแพทยสมาคมแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ ร่วมกับกรมอนามัยโดยสำนักทันตสาธารณสุขและเครือข่ายวิชาชีพทันตแพทย์ภายใต้การสนับสนุนจาก สสส.จัด "โครงการทันตแพทย์ไทยต้านภัยยาสูบ" หนุนให้มีคลินิกทันตกรรมช่วยเลิกบุหรี่ในโรงพยาบาลสังกัดกระทรวงสาธารณสุข หลังข้อมูลชี้!! บุหรี่เป็นสาเหตุสำคัญอันดับต้นๆ ของการเกิดมะเร็งช่องปาก
พลโทพิศาล เทพสิทธา ผู้จัดการโครงการทันตแพทย์ไทยต้านภัยยาสูบภายใต้การสนับสนุนจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า บุหรี่เป็นสาเหตุสำคัญอันดับต้นๆ ของการเกิดมะเร็งช่องปาก รวมถึงยาเส้นและดื่มเหล้า แต่หากสูบบุหรี่ร่วมกับการดื่มเหล้าจะมีความเสี่ยงมะเร็งช่องปากเพิ่มขึ้นถึง 15 เท่า นอกจากนี้ยังมีปัจจัยเสี่ยอื่นๆ อีกได้แก่ การเคี้ยวหมาก การติดเชื้อไวรัส HPV กินผักและผลไม้น้อย การบริโภคเนื้อสัตว์แปรรูป การมีอนามัยช่องปากไม่ดี เป็นต้น โดยกลุ่มเสี่ยงของการเกิดโรคนี้คือ ผู้ที่อายุ 40 ปี ขึ้นไป มีประวัติสูบบุหรี่ ดื่มเหล้า เคี้ยวหมาก หรือบุคคลในครอบครัวมีประวัติเป็นโรคมะเร็ง สำหรับประเทศไทยจากการสำรวจของสถาบันมะเร็งแห่งชาติ กรมการแพทย์กระทรวงสาธารณสุขปี 2558 พบมะเร็งช่องปากมากเป็นอันดับ 6 ของผู้ป่วยมะเร็งรายใหม่ทั้งหมด ซึ่งร้อยละ 95 ของมะเร็งช่องปากที่พบเป็นชนิดสแควมัสเซลล์คาร์ซิโนมา (squamous cell carcinoma) ที่มีความรุนแรง ทำให้ผู้ป่วยมีอัตราการตายสูงมากกว่าร้อยละ 90 โรคนี้จึงเป็นปัญหาสำคัญทางการแพทย์ที่มีผลกระทบโดยตรงกับสุขภาพของผู้ป่วย รวมถึงครอบครัวและสังคม ในแต่ละปีรัฐบาลต้องสูญเสียงบประมาณในการดูแลรักษาผู้ป่วยเป็นจำนวนมาก
"ทันตแพทยสมาคมแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ กรมอนามัยโดยสำนักทันตสาธารณสุข และเครือข่ายวิชาชีพทันตแพทย์ ภายใต้การสนับสนุนจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ได้ร่วมมือกันจัดโครงการทันตแพทย์ไทยต้านภัยยาสูบขึ้นเพื่อสนับสนุนให้มีคลินิกทันตกรรมช่วยเลิกบุหรี่ในโรงพยาบาลสังกัดกระทรวงสาธารณสุข ด้วยตระหนักถึงความสำคัญของวิชาชีพทันตแพทย์ ในฐานะผู้ที่มีบทบาทสำคัญในการชักชวนและให้คำแนะนำเพื่อเลิกบุหรี่และการตรวจคัดกรองรอยโรคในช่องปากแก่ผู้ที่มารับบริการทันตกรรมทั้งจากทันตแพทย์หรือการตรวจคัดกรองโรคด้วยตนเอง เพราะหากสามารถตรวจพบมะเร็งชนิดนี้ตั้งแต่ระยะเริ่มแรก จะช่วยให้ผู้ป่วยเข้าสู่การรักษาได้เร็ว ช่วยลดความรุนแรงของโรคและเพิ่มโอกาสรอดชีวิตของผู้ป่วยได้มากขึ้น
พลโทพิศาล ยังกล่าวอีกว่า การควบคุมการบริโภคยาสูบโดยวิชาชีพทันตแพทย์ต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่องและทำงานในเชิงรุกมากขึ้นเพื่อให้ผู้ต้องการเลิกบุหรี่เข้าถึงบริการช่วยเลิกบุหรี่ได้มากขึ้น ให้ประชาชนได้รับทราบข้อมูลและตระหนักถึงภัยคุกคามจาก การบริโภคยาสูบต่อสุขภาพช่องปากในวงกว้างทั่วประเทศ มุ่งเน้นมาตรการเพื่อเพิ่มจำนวนคลินิกทันตกรรมที่เข้าร่วมโครงการสนับสนุนการเลิกบุหรี่และการตรวจคัดกรองรอยโรคมะเร็งช่องปากด้วยตนเอง
"ที่ผ่านมาได้มีการจัดประชุมพัฒนาศักยภาพทันตบุคลากรทั้ง 77 จังหวัด ในการให้คำแนะนำเพื่อเลิกบุหรี่และการตรวจคัดกรองรอยโรคในช่องปาก มีการพัฒนาต้นแบบการดำเนินการคัดกรองรอยโรคก่อนมะเร็งช่องปากทั้งในคลินิกทันตกรรม และในชุมชน และผลิตสื่อที่มีเนื้อหาการเลิกบุหรี่และการคัดกรองรอยโรคในช่องปากด้วยตนเอง มีการสื่อสารสาธารณะรวมทั้งสนับสนุนการจัดกิจกรรมรณรงค์ฯ ทั้งนี้ การดำเนินงานโครงการทันตแพทย์ไทยต้านภัยยาสูบ มีเป้าหมายเพื่อสนับสนุนให้คลินิกทันตกรรมในโรงพยาบาลสังกัดกระทรวงสาธารณสุขมีบริการให้คำแนะนำเพื่อเลิกบุหรี่และการตรวจคัดกรองรอยโรคในช่องปากแก่ผู้ที่มารับบริการ" พลโทพิศาล กล่าว
ด้าน ศาสตราจารย์ทันตแพทย์ ดร.อะนัฆ เอี่ยมอรุณ คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ที่ปรึกษาโครงการคัดกรองรอยโรคก่อนมะเร็งช่องปากของโครงการทันตแพทย์ไทยต้านภัยยาสูบ กล่าวว่า มะเร็งช่องปาก สามารถพบได้ทุกอวัยวะในช่องปาก ได้แก่ ลิ้น กระพุ้งแก้ม ริมฝีปาก เหงือก เพดานปาก พื้นช่องปากใต้ลิ้น การป้องกันและลดความเสี่ยงการเกิดมะเร็งช่องปากสามารถทำได้โดยการหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงต่างๆ ที่เป็นสาเหตุของการเกิดโรค รวมทั้งการไปรับการตรวจคัดกรองรอยโรคก่อนมะเร็งโดยทันตแทพย์หรือทันตบุคลากรอย่างน้อย ปีละครั้งหรือการตรวจรอยโรคก่อนมะเร็งด้วยตนเอง ซึ่ง 4 สัญญาณเตือนของรอยโรคมะเร็งช่องปากระยะแรกที่สามารถสังเกตได้ง่ายๆ คือ "แดง ขาว แผล ก้อน" ได้แก่ 1) รอยโรคสีแดงหรือแดงปนขาวเกิดขึ้นที่เนื้อเยื่อ ช่องปาก 2) มีแผ่นฝ้าสีขาวเช็ดไม่ออกบริเวณเนื้อเยื่อช่องปาก 3) มีแผลเรื้อรังในช่องปากที่เป็นแล้วไม่หายภายใน 2 สัปดาห์ และ 4) มีก้อนในช่องปาก มีลักษณะแข็งเป็นไต ไม่มีอาการเจ็บ
"นอกจากนี้ยังมีสัญญาณแตือนอื่นๆ ของมะเร็งช่องปากระยะแรกที่สามารถสังเกตได้อีก เช่น มีอาการเจ็บคอเรื้อรัง เสียงแหบ กลืนลำบาก มีอาการชาที่ลิ้น ฟันปลอมที่เคยไส่ใช้ไม่ได้ หรือไม่พอดีเหมือนเดิม หากมีอาการดังกล่าวหรือตรวจช่องปากดูแล้วพบว่ามีลักษณะที่น่าสงสัยต่อการเกิดมะเร็งช่องปาก ให้รีบไปพบแพทย์หรือทันตแพทย์เพื่อรับการตรวจที่สถานพยาบาลใกล้บ้านทันที" ศาสตราจารย์ทันตแพทย์ ดร.อะนัฆ กล่าว