หนุนแม่มือใหม่ ให้นมลูกครบ 6 เดือน
หนุนคุณแม่มือใหม่เลี้ยงลูกด้วยนมแม่จนถึงอายุ 6 เดือน พร้อมแนะอาหารสำหรับเพิ่มปริมาณน้ำนม เพื่อเพิ่มคุณค่าสารอาหารทางร่างกายในการบำรุงน้ำนมแม่ สร้างภูมิคุ้มกันโรคให้แก่ลูก และสร้างสายใยรักแห่งครอบครัว
เมื่อวันที่ 8 ส.ค.57 ดร.นพ.พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ อธิบดีกรมอนามัย กล่าวถึงการสนับสนุนให้แม่เลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างน้อย 6 เดือน ว่า นมแม่มีสารอาหารครบถ้วน และมีกว่า 200 ชนิดเป็นยอดอาหาร อุดมไปด้วยสารอาหารที่ให้คาร์โบไฮเดรต โปรตีน วิตามิน เกลือแร่ที่จะช่วยให้ร่างกายเติบโตและพัฒนาสมอง จอประสาทตา ทำให้สายตามองเห็นได้ดีและเรียนรู้สิ่งต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว อีกทั้งการที่ลูกได้ดูดนมในอ้อมกอดแม่จะช่วยกระตุ้นการทำงาน ประสาทสัมผัสทุกส่วนของลูก ทำให้เซลล์สมองแตกแขนงมากขึ้น ยิ่งอุ้มลูกกินนมแม่อย่างน้อยวันละ 8-10 ครั้ง จะย้ำวงจรสมองให้จดจำและเกิดการเรียนรู้ที่ตอกย้ำนานขึ้น ซึ่งการเลี้ยงดูลูกอย่างใกล้ชิดลูกและแม่อยู่ด้วยกัน สนองความต้องการของเด็กได้อย่างทันการ เด็กจะไว้วางใจและเชื่อมั่นเป็นสิ่งที่สำคัญต่อการสร้างพื้นฐานอารมณ์ที่ดี ช่วยให้ลูกมีพัฒนาการและเป็นเด็กที่เลี้ยงง่ายและมีความฉลาด
ดร.นพ.พรเทพ กล่าวต่อไปว่า การดูแลด้านอาหารการกินสำหรับแม่ มีความสำคัญต่อคุณภาพน้ำนมที่จะให้ลูก ถ้าคุณแม่เกิดการอ่อนเพลีย น้ำนมอาจไหลน้อย จึงควรกินอาหารที่มีประโยชน์เพื่อเพิ่มน้ำนม เช่น หัวปลี ขิง มะละกอ ฟักทอง กุยช่าย ตำลึง ใบกะเพรา ใบแมงลัก พริกไทย มะรุม เป็นต้น นอกจากนี้ ยังมีสมุไพรต่างๆ ช่วยในการบำรุงน้ำนม อาทิ 1.กานพลู โดยนำดอกตูมแห้ง 5-8 ดอก ชงน้ำเดือดดื่ม หรือใช้เคี้ยวก็ได้ 2.ชบาดอกแดง ใช้ดอกสด 10-15 ดอก ใส่แกงเลียงกินติดต่อกัน 5-6 มื้อ 3.ไทรย้อยใบแหลม รากนำมาทำเป็นยาบำรุงน้ำนม 4.ผักกาดหอม ใช้เมล็ดตากแห้ง 5 กรัม ชงน้ำร้อน 1 ถ้วยกาแฟ ดื่มก่อนอาหารเช้า-เย็น 5.นมนาง เปลือก หรือราก ต้มน้ำดื่มบำรุงร่างกาย และควรดื่มน้ำเปล่าให้มากๆ เพื่อช่วยเพิ่มปริมาณน้ำนมและทดแทนน้ำที่เสียไป
ทั้งนี้ ในกรณีแม่ไม่สามารถให้นมลูกได้ตลอดเวลา การบีบเก็บน้ำนม จึงเป็นวิธีที่จะทำให้ลูกได้กินนมแม่ครบ 6 เดือน ซึ่งจะช่วยให้ลูกมีร่างกายที่แข็งแรง โดยเริ่มจากล้างมือให้สะอาดก่อนบีบน้ำนมและใช้มือข้างไหนก็ได้ที่ถนัด จากนั้นวางนิ้วหัวแม่มือไว้ด้านบนของเต้านม และนิ้วชี้ด้านตรงข้ามบริเวณขอบนอกของลานนม ห่างจากฐานหัวนมประมาณ 3 ซม. และไม่ควรวางนิ้วที่บริเวณหัวนม เนื่องจากจะไปกดท่อเปิดทำให้น้ำนมไม่ไหล แล้วกดนิ้วมือทั้งสองเข้าที่หน้าอกให้เต้านมบุ๋มเมื่อบีบนิ้วเข้าหากันน้ำนมจะพุ่งออกมาให้นำขวดแก้ว หรือถ้วยรองรับน้ำนม เมื่อน้ำนมไหลให้ผ่อนนิ้วได้ โดยการกดบีบ คลายเป็นจังหวะ 1-2 วินาทีต่อครั้ง น้ำนมจะไหลพุ่งให้บีบเป็นจังหวะ จนกระทั่งน้ำนมน้อยลง จึงค่อยๆ เลื่อนนิ้วทั้งสองไปรอบๆ ลานนมแต่ละเต้าใช้เวลา 15 นาที น้ำนมก็จะเริ่มไหลช้าลง
อธิบดีกรมอนามัย กล่าวต่อว่า จากนั้นให้ย้ายไปที่เต้านมอีกข้างหนึ่งโดยบีบสลับทั้งสองเต้า จนกระทั่งครบ 30 นาที แม่ควรบีบน้ำนมทิ้งก่อน 3 ครั้ง แล้วจึงใช้ขวดรองเก็บ ซึ่งการเก็บน้ำนมลงในขวดควรเก็บเท่ากับปริมาณที่ลูกต้องการกินในแต่ละมื้อ เมื่อบีบน้ำนมเสร็จให้ปิดฝาขวดให้มิดชิดทันที ถ้าตั้งไว้โดยไม่ใส่ในตู้เย็นน้ำนมจะอยู่ได้ 6-8 ชั่วโมง ในกรณีที่เก็บไว้ในตู้เย็นต้องเก็บไว้ในส่วนที่เย็นที่สุด คือ ชั้นที่อยู่ในช่องแช่แข็งด้านนมในสุดจะเก็บได้นานถึง 2 วัน หากเก็บในช่องแช่แข็งจะเก้บได้นาน 3 เดือน แต่ห้ามเก็บไว้ที่ประตูตู้เย็น เนื่องจากเป็นส่วนที่เปิด-ปิด ทำให้ความเย็นจะไม่คงที่
ที่มา : เว็บไซต์ไทยรัฐ
ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต