หนาวนี้ระวัง 3 โรค 1 ภัยสุขภาพ
ที่มา : กรมอนามัย
แฟ้มภาพ
กรมควบคุมโรค ออกประกาศเตือนหน้าหนาวระวัง 3 โรค “อุจจาระร่วง – ไข้หวัดใหญ่ – มือเท้าปาก” คาดแนวโน้มสูงขึ้น และระวังภัยจากการใช้เครื่องทำน้ำอุ่นระบบแก๊ส
นพ.เจษฎา โชคดำรงสุข อธิบดีกรมควบคุมโรค (คร.) กล่าวว่า ขณะนี้เข้าสู่ฤดูหนาวแล้ว ซึ่งช่วงนี้จะมีอากาศหนาวเย็นมากกว่าช่วงเวลาอื่นของปี และอากาศที่เย็นจะทำให้เชื้อโรคบางชนิดสามารถมีชีวิตอยู่ในสิ่งแวดล้อมได้นานขึ้น แพร่กระจายได้ง่ายและเร็วกว่าในฤดูกาลอื่น กรมฯ จึงออกประกาศเรื่อง การป้องกันโรคและภัยสุขภาพที่เกิดในฤดูหนาวของประเทศไทย พ.ศ. 2559 เมื่อวันที่ 9 พ.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งโรคที่มีแนวโน้มจะระบาดในฤดูหนาว มี 2 กลุ่ม คือ 1. กลุ่มโรคติดเชื้อ ได้แก่ โรคอุจจาระร่วงในเด็กเล็ก โรคไข้หวัดใหญ่ และโรคมือ เท้า ปาก และ 2. ภัยสุขภาพ ได้แก่ ภัยจากการใช้เครื่องทำน้ำอุ่นระบบแก๊ส
นพ.เจษฎา กล่าวว่า ข้อมูลจากสำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค รายงานว่า ตั้งแต่เดือน ม.ค.- ต.ค. 2559 พบผู้ป่วยโรคอุจจาระร่วงในเด็ก อายุแรกเกิด – 5 ปี รวม 248,375 ราย เสียชีวิต 3 ราย (เป็นเด็กอายุต่ำกว่า 1 ปี) โรคไข้หวัดใหญ่ มีผู้ป่วย 137,096 ราย ซึ่งสูงกว่าปีที่แล้วประมาณ 2 เท่า เสียชีวิต 47 ราย คาดการณ์ว่า จำนวนผู้ป่วยในช่วงฤดูหนาวในปีนี้จะสูงกว่าปีที่แล้ว โดยตั้งแต่ พ.ย. 2559 – ก.พ. 2560 จะมีผู้ป่วยประมาณ 16,500 – 24,000 รายต่อเดือน อาจทำให้มีผู้เสียชีวิตเพิ่มมากขึ้นด้วย และโรคมือ เท้า ปาก มีรายงานผู้ป่วยทั่วประเทศ จำนวน 72,534 ราย เสียชีวิต 3 ราย อายุ 9 เดือน ถึง 5 ปี
“โรคอุจจาระร่วงในเด็กเล็ก เป็นสาเหตุอันดับหนึ่งของการป่วยด้วยโรคติดต่อ ผ่านการดื่มน้ำ หรือกินอาหารที่มีเชื้อปนเปื้อน ผู้ป่วยจะมีอาการถ่ายอุจจาระเป็นน้ำ หรือถ่ายเหลวบ่อยครั้ง อาจเริ่มมีอาการคล้ายไข้หวัด ก่อนถ่ายเหลว โดยทั่วไปอาการจะไม่รุนแรง แต่บางรายอาจขาดน้ำรุนแรงจนต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล การดูแลรักษา ควรให้อาหารเหลวแก่เด็ก ถ้าเด็กยังถ่ายบ่อยควรผสมสารละลายน้ำตาลเกลือแร่ให้เด็กดื่มทีละน้อย หากอาการไม่ดีขึ้นให้รีบไปพบแพทย์ ส่วนการป้องกัน ควรกินอาหารที่สะอาดปรุงสุกใหม่ ไม่มีแมลงวันตอม หลีกเลี่ยงอาหารสุกๆ ดิบๆ ดื่มน้ำสะอาด ล้างมือให้สะอาด ทั้งก่อนกินอาหารและหลังเข้าห้องน้ำ” อธิบดี คร. กล่าว
นพ.เจษฎา กล่าวว่า สำหรับโรคไข้หวัดใหญ่ ติดต่อได้ง่ายโดยการหายใจเอาเชื้อที่ฟุ้งกระจายในอากาศ และแพร่กระจายได้กว้างขวางในที่ที่คนอยู่แออัด หากป่วยให้รับประทานยาลดไข้ เช็ดตัวลดไข้ และดูแลร่างกายให้อบอุ่น ต้องพักผ่อนให้มากๆ หยุดเรียน หยุดทำงาน สวมหน้ากากอนามัย ถ้าไข้ไม่ลดลงภายใน 2 วัน และเสี่ยงมีอาการแทรกซ้อนให้รีบพาไปพบแพทย์โดยเร็ว อีกโรคที่สำคัญคือ โรคมือ เท้า ปาก โรคนี้ส่วนมากพบในทารกและเด็กเล็ก เกิดจากได้รับเชื้อไวรัสเข้าไปทางปากโดยตรงจากการติดมากับมือ หรือของเล่นที่เปื้อนน้ำลาย น้ำมูก น้ำจากตุ่มพอง และแผล หรืออุจจาระของผู้ป่วย ส่วนการป้องกันโรค ไม่ควรนำเด็กเล็กไปในชุมชน ในช่วงที่มีการระบาด ควรอยู่ในที่มีอากาศถ่ายเทได้ดี ที่สำคัญ หากพบเด็กป่วยหรือสงสัย ต้องแยกเด็กป่วยออกจากกลุ่มเพื่อน ให้หยุดพักที่บ้านจนกว่าจะหายเป็นปกติ
นพ.เจษฎา กล่าวว่า นอกจากนี้ ภัยสุขภาพที่ควรระวังในช่วงฤดูหนาว คือ ภัยจากการใช้เครื่องทำน้ำอุ่นระบบแก๊ส ซึ่งการเดินทางพักผ่อนท่องเที่ยวในสถานที่ต่างๆ ช่วงอากาศหนาวเย็น อาจเป็นสาเหตุให้เกิดการป่วยและเสียชีวิตจากการใช้เครื่องทำน้ำอุ่นระบบแก๊สที่ไม่ได้มาตรฐาน จากข้อมูลระหว่างปี 2551 – 2559 สำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค ได้เฝ้าระวังเหตุการณ์การป่วยและเสียชีวิตขณะอาบน้ำในห้องน้ำที่ใช้เครื่องทำน้ำอุ่นแบบใช้ระบบแก๊ส พบว่า มีรายงานทั้งสิ้น 16 เหตุการณ์ มีผู้ป่วย 27 ราย เสียชีวิต 6 ราย ส่วนใหญ่เกิดในพื้นที่ภาคเหนือ ข้อแนะนำในการปฏิบัติ คือ ให้ตรวจสอบเครื่องทำน้ำอุ่นแบบใช้ระบบแก๊สให้ได้มาตรฐานและปลอดภัย โดยติดตั้งในห้องที่มีการระบายอากาศที่เพียงพอ ติดป้ายเตือน และบอกถึงวิธีใช้งานของเครื่องทำน้ำอุ่นไว้อย่างชัดเจน รวมถึงสังเกตอาการที่อาจเกิดขึ้นจากการได้รับแก๊สระหว่างอาบน้ำในห้องน้ำ เช่น วิงเวียน หน้ามืด หายใจลำบาก ควรรีบออกจากห้องน้ำ หรือหากได้กลิ่นแก๊สผิดปกติ ควรรีบเปิดประตู ปิดเครื่องทำน้ำอุ่น และออกจากห้องน้ำทันที โดยเฉพาะผู้ที่มีโรคประจำตัวต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ