‘หนังสั้นเด็กสร้าง’ ภาค 2 สานต่อหยุดภัยบุหรี่

ผ่านพ้นไปแล้วกับกิจกรรมวันเด็กประจำปี 2559 ซึ่งหลายพื้นที่พร้อมใจกันจัดกิจกรรมนี้เพื่อมอบความสุขและเป็นการให้ความสำคัญกับเด็กๆ ที่เปรียบเสมือนอนาคตของชาติ

แฟ้มภาพ

ปีนี้ยังมีอีกหนึ่งกิจกรรมที่น่าสนใจจากเยาวชนกลุ่มหนึ่งที่อยากบอกเล่าปัญหาสังคมผ่านภาพ ยนตร์ที่เด็กดูได้ ผู้ใหญ่ดูดี กับเรื่อง The Assassin หรือ "ฆาตกร อยู่รอบตัวเรา" สอดแทรกอันตรายของบุหรี่ที่เป็นปัจจัยเสี่ยงต่อสุขภาพ ผลิตโดยเครือข่ายยุวทัศน์กรุงเทพมหานคร ร่วมกับชมรมหนังสั้นและการถ่ายภาพ โรงเรียนประชาราษฎร์บำเพ็ญ ภายใต้การสนับสนุนจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จัดฉายให้ดูฟรี ในโรงภาพยนตร์ SF Cinema สาขา Central world เนื่องในวันเด็กแห่งชาติ

"ปัจจุบันนี้สื่อและภาพยนตร์ที่สะท้อนปัญหาจากเด็กและเยาวชนจริงๆ มีน้อย และเด็กไทยประสบปัญหาเกี่ยวกับปัจจัยเสี่ยงทางด้านสุขภาพอย่างมาก เราจึงอยากสื่อปัญหาให้สังคมได้รับรู้ อีกทั้งภาพยนตร์ยังเป็นสื่อบันเทิงที่เด็กเข้าถึงได้ง่ายอีกด้วย" นายพชรพรรษ์ ประจวบลาภ ประธานเครือข่ายยุวทัศน์กรุงเทพมหานคร ในฐานะผู้ควบ คุมการผลิต บอกถึงแรงบันดาลใจในการสร้างภาพ ยนตร์

นายพชรพรรษ์ ให้ข้อมูลที่น่าสนใจว่า หนังเรื่องนี้เราเน้นเรื่องพิษภัยของบุหรี่เป็นหลัก เพราะเป็นสารเสพติดตั้งต้น โดยมีผลสำรวจจากศาลอาญาพบว่า เด็กใน 10 คนที่ถูกดำเนินคดียาเสพติดมีประวัติการสูบบุหรี่มาแล้วทั้งสิ้น มันแสดงให้เห็นชัดเจนว่า ถ้าเด็กยุ่งกับบุหรี่ ในอนาคตเด็กก็จะเข้าถึงสารเสพติดชนิดอื่นๆ ได้ เราต้องการสื่อให้เห็นว่า คำว่าฆาตกร ไม่ได้เกิดขึ้นจากคนที่มีอาวุธเท่านั้น แต่การสูบบุหรี่ก็สามารถเป็นฆาตกร ที่ทำร้ายอนาคตตนเองและคนรอบข้างเช่นเดียวกัน

"สำหรับภาพยนตร์สั้น The Assassin : ฆาตกร อยู่รอบตัวเรา เป็นเรื่องราวของพี่น้องสองคน โต้งและเติ้ลที่เติบโตมาในครอบครัวฐานะปานกลาง มีพ่อเป็นนักดื่มและนักสูบบุหรี่ แถมติดการพนัน โต้งอยู่ชั้นมัธยมปีที่ 6 ชั้นเดียวกับเติ้ล น้องชาย แต่ด้วยความที่โต้งไม่ชอบเรียน และยุ่งเกี่ยวกับอบายมุข จึงต้องเรียนซ้ำชั้น ส่วนเติ้ลเป็นเด็กเรียบร้อย แต่สุขภาพไม่ค่อยดี ทั้งสองคนผูกพันและรักกันมาก แต่สุดท้ายความตายก็มาพรากให้พี่น้องสองคนนี้ต้องจากกัน เพราะอะไร และใครเป็นฆาตกร ต้องลองติดตามดูในภาพยนตร์กันเอง ภายหลังจากการจัดฉายที่โรงภาพยนตร์แล้วจะมีการนำไปลงสื่อออนไลน์เพื่อให้เด็กๆ และผู้ที่สนใจสามารถรับชมได้อย่างทั่วถึง" ประธานเครือข่ายยุวทัศน์ฯ บอกทิ้งท้าย

ด้าน ดร.นพ.บัณฑิต ศรไพศาล ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนการควบคุมปัจจัยเสี่ยงหลัก สสส. กล่าวว่า พิษภัยบุหรี่หรือปัจจัยเสี่ยงอื่น สามารถเริ่มต้นได้ตั้งแต่วัยเด็ก พ่อแม่ เป็นตัวอย่างที่ดีให้แก่ลูก สิ่งแวดล้อมรอบบ้าน โรงเรียน เพื่อน พบว่า ครอบครัวที่มีพ่อแม่สูบบุหรี่ ดื่มเหล้า ทำให้เด็กเติบโตมาแล้วมีพฤติกรรมสูบบุหรี่และดื่มเหล้าตาม ดังนั้นเราจึงพยายามเปิดโอกาสให้เยาวชนกลุ่มนี้มีอิสระในการคิดเนื้อหาและค้นคว้าด้วยตัวเอง ภาพยนตร์ถือเป็นสื่อที่เหมาะกับกลุ่มเป้าหมาย คือ เด็กและเยาวชน

"ปัจจุบันเด็ก 100 คน จะมีคนสูบบุหรี่ 15 คน ดื่มเหล้า 18 คน ติดเกม 13 คน พนันบอลอีกกว่าแสนคน และกลุ่มที่ค้ายาเสพติดมีอายุมากที่สุด 20-25 ปี ปัจจุบันสิ่งแวดล้อมกระตุ้นการมอมเมาเยาวชนไทยอย่างมาก โดยภายใน 7 นาทีสามารถเข้าถึงร้านเหล้า 15 นาทีเข้าถึงร้านเกม และ 30 นาทีเข้าถึงซีดีลามก นอกจากนี้ยังมีพื้นที่ไม่ดีมากกว่าพื้นที่ดี 2-3 เท่า ดังนั้นหนังเรื่องนี้จึงถือเป็นของขวัญที่มีประโยชน์ต่อเด็กและเยาวชนอย่างแท้จริง" ผอ.สำนักสนับสนุนการควบคุมปัจจัยเสี่ยงหลัก สสส. สรุป พร้อมบอกข่าวดีกับเด็กๆ ด้วยว่า สสส.ได้อนุมัติให้ทำการจัดสร้างภาพยนตร์ในภาคสองแล้วด้วย

ผู้ใหญ่ใจดีอย่าง นายกมล สุขสมบูรณ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังจากได้ชมภาพยนตร์ว่า รัฐบาลพร้อมสนับสนุนสื่อสร้างสรรค์ สื่อสีขาวที่เป็นตัวอย่างที่ดีของเยาวชนอยู่แล้ว และต้องชื่นชมกลุ่มเยาวชนจากเครือข่ายยุวทัศน์ที่ผลิตภาพยนตร์เรื่องนี้ โดยสอดแทรกอันตราย ของบุหรี่เข้าไปในเนื้อเรื่องได้อย่างน่าสนใจ นอก จากนี้ยังเป็นเสมือนจุดเริ่มต้นที่สามารถสะท้อนปัญหาสังคมในมุมมองที่ผู้ใหญ่ไม่เคยเข้าใจ เชื่อว่าผู้ที่ได้รับชมภาพยนตร์เรื่องนี้แล้วจะได้รับประ โยชน์อย่างยิ่งต่อการดำเนินชีวิตปัจจุบัน

การพัฒนาสื่อสีขาวผ่านภาพยนตร์ นับเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ช่วยส่งเสริมให้เด็กและเยาวชนไทยมีพื้นที่ในการแสดงออกในทางที่ถูกต้องและสร้างสรรค์.

ที่มา: หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์