หญิงตั้งครรภ์เลือดจาง เสี่ยงคลอดก่อนกำหนด
กระทรวงสาธารณสุขเผย หญิงตั้งครรภ์ที่มีภาวะโลหิตจางจะเสี่ยงเกิดการคลอดก่อนกำหนด แท้งบุตร สูงกว่าหญิงตั้งครรภ์ทั่วไป
นายแพทย์ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า โรคโลหิตจางเป็นภาวะที่ร่างกายมีจำนวนเม็ดเลือดแดงน้อยกว่าปกติ ทำให้มีออกซิเจนไปเลี้ยงอวัยวะต่างๆ น้อยกว่า ปกติส่งผลให้เจ็บป่วยง่าย เนื่องจากมีภูมิต้านทาน โรคต่ำกว่าคนปกติ หญิงตั้งครรภ์ที่มีภาวะ โลหิตจางจะเสี่ยงเกิดการคลอดก่อนกำหนด แท้งบุตร สูงกว่าหญิงตั้งครรภ์ทั่วไป และหาก ตกเลือดจากการคลอดอาจเสียชีวิตได้และยังมีผล ถึงพัฒนาการการเรียนรู้ของเด็กด้วยจากรายงานผลการตรวจสุขภาพประชาชนไทย
ครั้งล่าสุด ในช่วง พ.ศ.2551-2552 โดยสำนักสำรวจสุขภาพประชาชนไทย พบหญิงวัยเจริญพันธุ์ อายุ 15-49 ปี ทั่วประเทศที่มี 17 ล้านกว่าคน ประมาณร้อยละ 25 มีภาวะโลหิตจางหรือประมาณ 4 ล้านกว่าคน ส่วนผลสำรวจภาวะโภชนาการของเด็กไทย อายุ 6 เดือน-12 ปี ในโครงการสำรวจภาวะโภชนาการกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (South East Asia Nutrition Survey : SENUTS) ล่าสุดเมื่อพ.ศ. 2553-2555 พบว่า เด็กปฐมวัยของไทยอายุ 6 เดือน-3 ปี ในเขตชนบท มีภาวะโลหิตจางร้อยละ 42 ส่วนในเขตเมืองพบ ร้อยละ 26
สาเหตุของโรคโลหิตจางส่วนใหญ่กว่าร้อยละ 50 เกิดจากการขาดธาตุเหล็ก ซึ่งมีส่วนสำคัญในการสร้างเม็ดเลือดแดง กระทรวงสาธารณสุข ได้แก้ไขปัญหาโดยเน้นหนักให้ประชาชนทุกกลุ่มวัยได้รับธาตุเหล็กอย่างเพียงพอเพื่อป้องกันภาวะโลหิตจาง เช่น จ่ายยาเสริมธาตุเหล็กให้ประชาชนทุกกลุ่มวัย โดยเฉพาะ หญิงตั้งครรภ์ให้กินวันละ 1 เม็ด จนถึงหลังคลอดฟรี ขณะนี้ได้บรรจุเข้าในบัญชียาหลักแห่งชาติแล้ว มีบริการในสถานบริการสาธารณสุขทุกแห่ง ให้เด็กปฐมวัยอายุ 6 เดือนถึง 5 ปี กินยาน้ำเสริมธาตุเหล็กสัปดาห์ละ 1 ครั้ง และวัยเรียนตั้งแต่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 เป็นต้นไป ให้กิน ยาเม็ดเสริมธาตุเหล็กสัปดาห์ละ 1 ครั้ง ให้มีการเสริมธาตุเหล็กในซองเครื่องปรุงบะหมี่สำเร็จรูป และส่งเสริมให้ประชาชนบริโภคอาหารที่มีธาตุเหล็ก มากขึ้น
ที่มา: หนังสือพิมพ์แนวหน้า
ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต