ส่งเสริมให้รักการอ่าน

          สิ่งหนึ่งที่จะช่วยสร้างวัฒนธรรมการอ่านให้เกิดแก่สังคมไทยได้นั้นคือหนังสือที่น่าอ่านและมีคุณภาพ ทว่าน่าเสียดายที่หลายครั้งเด็กๆ โดยเฉพาะเด็กด้อยโอกาสในชุมชนต่างๆ กลับได้อ่านหนังสือที่รับบริจาคมา ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นหนังสือที่ผู้อื่นไม่ต้องการและไม่มีการคัดกรองให้เหมาะสมกับช่วงวัยของผู้อ่าน ซึ่งอาจจะก่อผลเสียแก่ผู้อ่านมากกว่าผลดี


/data/content/26671/cms/e_aegjtvwx5789.jpg


          สิ่งที่เกิดขึ้นมาโดยตลอด ทำให้ 6 องค์กร คือ สมาคมห้องสมุดแห่งประเทศไทย, แผนงานสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่าน, กระดาษถนอมสายตา Green Read โดยเอสซีจี เปเปอร์, ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย, บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด และสมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย ร่วมมือกันนำเสนอแนวคิดสนับสนุนการจัดซื้อหนังสือใหม่ที่มีคุณภาพ เพื่อการบริจาค เพราะเชื่อว่าหนังสือคุณภาพ สร้างคนคุณภาพ คนคุณภาพ สร้างชาติเข้มแข็งได้


          โดย "โครงการ ๑ อ่าน ล้านตื่น" ถือเป็นโครงการแรกที่ให้สิทธิผู้รับบริจาคในการเลือกหนังสือคุณภาพได้ด้วยตนเอง และในงานมหกรรมหนังสือระดับชาติครั้งที่ 19 ที่ผ่านไปนั้น ยังมีการต่อยอดโครงการด้วยกิจกรรมพิเศษคือ วัน ๑ อ่าน ล้านตื่น โดยชวนเด็กๆ ด้อยโอกาสกว่า 400 คน ที่รักการอ่านจากทั้งกรุงเทพฯและต่างจังหวัด อาทิ จันทบุรี ตราด พิษณุโลก สมุทรสาคร สระบุรี ศรีสะเกษ มาเลือกหนังสือที่ตัวเองอยากอ่านในมหกรรมหนังสือฯ ในมูลค่าคนละ 500 บาท รวมทั้งหมดกว่า 400,000 บาท


          ภาพของเด็กหญิงตัวน้อยวัยเพียง 8 ขวบ ที่สภาพร่างกายดูเล็กกว่าอายุจริง นั่งอยู่บนตักของคุณครูใจดี พลางฟังนิทานที่คุณครูเล่าให้ฟังด้วยรอยยิ้มกว้างและมีสมาธิท่ามกลางบรรยากาศเสียงดังจอแจ เพราะเป็นเล่มที่เพิ่งเลือกซื้อ


/data/content/26671/cms/e_abdflopvxz47.jpg


มาด้วยตัวเอง กระทบใจคนที่ได้เห็นยิ่งนัก


          รอยยิ้มสดใสดังกล่าวเป็นของ น้ำหวาน-ด.ญ.สุวดี สุขสรรค์ คุณครูเล่าว่าระหว่างที่คุณแม่คลอดนั้น น้องได้สำลักน้ำคร่ำจนทำให้เติบโตกลายเป็นเด็กผู้หญิงหน้าตาน่ารักแต่พิการทางสมอง ทว่าในความโชคร้ายยังมีโชคดี เพราะเติบโตในครอบครัวที่เข้าใจและพยายามที่จะมอบทุกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูก ซึ่ง "การอ่าน" ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยเสริมสร้างพัฒนาการของลูกสาวตัวน้อยให้เป็นไปในทิศทางที่น่าพอใจทั้งร่างกาย อารมณ์ และสติปัญญา


          หันไปอีกด้านเห็นกลุ่มเด็กชายจากโรงเรียนวัดมหาบุษย์ กำลังชี้ชวนกันดูหนังสือที่ตัวเองสนใจ ก่อนที่จะนำคูปองในมือไปแลกซื้อเพื่อนำไปอ่าน


          "ดีใจมากๆ เลยครับ" ด.ช.คทาวุฒิ วนสันเทียะ เอ่ยพร้อมรอยยิ้มเขินๆ เมื่อถามถึงความรู้สึกขณะที่กำลังจะเดินไปค้นหาหนังสือที่ตัวเองอยากอ่าน


          "ผมชอบอ่านหนังสือมาตั้งแต่เด็กแต่ไม่ค่อยมีหนังสืออ่านซะเท่าไหร่ และถ้าได้อ่าน ส่วนใหญ่ก็จะเป็นหนังสือที่โรงเรียนเลือกมาให้ ซึ่งก็มีทั้งสนุกบ้างไม่สนุกบ้าง วันนี้ตั้งใจจะมาซื้อหนังสือเกี่ยวกับการเกเรครับ โตขึ้นผมอยากเป็นชาวสวนที่เก่งๆ"


          สุชาดา สหัสกุล กรรมการสมาคมผู้จัดพิมพ์ฯ แม่งานคนสำคัญของโครงการนี้ยืนยันด้วยรอยยิ้มว่า "กิจกรรม/data/content/26671/cms/e_acghjksuv367.jpgวันหนึ่งอ่านล้านตื่น ไม่ใช่กิจกรรมสังคมสงเคราะห์" โดยทุกคนจะได้รับสิทธิเลือกหนังสือให้ตนเอง 1 เล่ม และเลือกหนังสือไปฝากเพื่อนในโรงเรียนหรือชุมชนที่เป็นต้นสังกัดในคูปองส่วนที่เหลือ เพื่อให้เด็กๆ ได้รู้จักการแบ่งปัน เพราะต้องนำหนังสือที่เลือกกลับไปเข้าห้องสมุดของชุมชนหรือองค์กรของตน เด็กอื่นๆ จะได้มีโอกาสเข้าถึงหนังสือด้วย


          "เราตั้งใจทำอย่างนี้เพื่อส่งเสริมการอ่านให้เกิดขึ้นจริงๆ ให้เด็กๆ ได้อ่านหนังสือที่ตนเองเลือกเอง ไม่ใช่เก็บไว้เฉยๆ ในห้องสมุด และเด็กที่รักการอ่านจะเป็นเชื้อไฟอย่างดีที่จะชวนเพื่อนเด็กด้วยกันอ่าน เพราะหนังสือที่มีคุณค่าคือหนังสือที่มีคนอ่าน" สุชาดา เผย


          แม้จะเริ่มโครงการได้ไม่ถึงปี ก็สามารถจัดหาหนังสือมอบให้แก่ศูนย์เด็กเล็ก ถึง 12 ศูนย์แล้ว อาทิ ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก จำนวน 6 ศูนย์ ใน อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ เป้าหมายที่ตั้งไว้คือ 50 ศูนย์


          เพราะแม้งานสร้างวัฒนธรรมการอ่านเป็นงานที่ใช้เวลา เห็นผลช้า แต่ก็ต้องยืนหยัดทำกันต่อไป เพื่อสร้างอนาคตของประเทศจากปัจจุบัน


 


 


          ที่มา: มติชนออนไลน์

Shares:
QR Code :
QR Code

ใส่ความเห็น

ระบุข้อความ