ที่มา : เว็บไซต์แนวหน้า

แฟ้มภาพ

ปัจจุบันเด็กและเยาวชน ใช้เวลาในแต่ละวันอยู่หน้าจอมือถือและคอมพิวเตอร์มากเกินไป อาจส่งผลเสียต่อพัฒนาการ ทั้งทางสุขภาพร่างกายและจิตใจ ทางชมรมเด็กติดล้อแปดริ้ว จึงส่งเสริมกีฬาโรลเลอร์เบลด เพื่อช่วยแก้ปัญหาเด็กติดจอ และใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์

แสงไฟติดล้อที่มาพร้อมกับความอิสระของการเคลื่อนตัวได้อย่างรวดเร็ว ว่องไว ผ่านกิจกรรมของเด็กๆ และเยาวชน กับกีฬาโรลเลอร์เบลด หรือที่เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า อินไลน์ สเก็ต กีฬาเอ็กซ์ตรีมในฝันที่เด็กๆ ยุคใหม่ให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก และยังได้รับแรงผลักดันจากผู้ใหญ่หลายฝ่ายร่วมให้การสนับสนุน มุ่งหวังแก้ปัญหาเด็กติดเกม และติดจอมือถือ

นายอิทธิพล แสนสุข หรือครูอิท อายุ 37 ปี ประธานชมรมเด็กติดล้อแปดริ้ว (Inline Skate Club At Chachoengsao) ผู้ริเริ่มจัดตั้งกลุ่มโรลเลอร์เบลด ที่บริเวณลานริมแม่น้ำบางปะกง ด้านหลังวิทยาลัยอาชีวศึกษาฉะเชิงเทรา อ.เมืองฉะเชิงเทรา มานานกว่า 1 ปี เล่าว่า จุดเริ่มต้นมาจากบุตรสาวของตนเองสนใจกิจกรรมโรลเลอร์เบลดจึงได้รวมกลุ่มเพื่อนๆผู้ปกครองนำบุตรหลานมาเล่นที่ลานแห่งนี้ในช่วงหลังเลิกเรียน ซึ่งมองว่ากิจกรรมนี้จะช่วยให้เด็กๆ ได้ผ่อนคลายสมองและสนุกสนานหลังจากเรียนวิชาหลัก

จากนั้นก็เริ่มมีผู้ปกครองและเด็กๆในพื้นที่ใกล้เคียงให้ความสนใจ เข้ามาสอบถามถึงการเล่นโรลเลอร์เบลด จึงได้เริ่มเป็นจิตอาสาช่วยสอน พร้อมนำรองเท้าโรลเลอร์เบลดที่สะสมไว้หลายคู่มาให้เด็กๆ ได้ลองเล่นซึ่งไม่นานจากกลุ่มเล็กๆ ก็เริ่มเป็นกลุ่มใหญ่ กระทั่งช่วงปี 2563 ตนเองได้ประสานอดีตนักกีฬาสเก็ต มาช่วยฝึกสอนทักษะการเล่นโรลเลอร์เบลดอย่างถูกวิธีให้กับเด็กๆ ประกอบกับได้รับการสนับสนุนจากเทศบาลเมืองฉะเชิงเทรา จัดตั้งเป็นชมรมเด็กติดล้อแปดริ้ว พร้อมเปิดรับสมาชิกชมรมอย่างเป็นทางการ

ซึ่งสิ่งสำคัญของการจัดตั้งชมรมเด็กติดล้อแปดริ้ว เพื่อใช้กิจกรรมนี้ดึงให้เด็กห่างจากการเล่นเกมผ่านหน้าโทรศัพท์และคอมพิวเตอร์ ซึ่งที่ผ่านมาผู้ปกครองในกลุ่มยอมรับว่าเคยปล่อยให้บุตรหลานเล่นโทรศัพท์โดยขาดการควบคุมดูแลส่งผลให้ช่วงเลิกเรียนจะคว้าโทรศัพท์เล่นเกมเป็นอย่างแรก และขาดปฏิสัมพันธ์ภายในครอบครัว

สำหรับประโยชน์ของการเล่นโรลเลอร์เบลด จะทำให้เด็กๆ มีเพื่อนใหม่ได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้เทคนิควิธีการเล่นซึ่งกันและกัน เป็นการส่งเสริมพัฒนาการด้านสังคม ทำให้จิตใจแจ่มใส ร่าเริง ผ่อนคลายความเครียด ช่วยเผาผลาญพลังงานได้ดี ช่วยควบคุมน้ำหนักตัวของเด็กที่อยู่ในสภาวะน้ำหนักเกินได้ ส่งเสริมให้เกิดการคล่องตัวว่องไว กระตุ้นประสาทการรับรู้ และเป็นการบริหารให้กล้ามเนื้อใหญ่ ได้แก่ แขน ขาและลำตัวแข็งแรง เด็กจะเคลื่อนไหวและทรงตัวได้ดีขึ้น สุขภาพร่างกายแข็งแรง มีพัฒนาการสมวัย และมีภูมิต้านทานที่ดี