‘สุรินทร์’ แก้ไขจุดเสี่ยงบนถนน ลดอัตราการเสียชีวิต
ที่มา : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
ภาพประกอบจากแฟ้มภาพ
พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย รองนายกรัฐมนตรี และ ดร.สุปรีดา อดุลยานนท์ ผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ในฐานะประธานกรรมการกองทุน สสส. ลงพื้นที่แลกเปลี่ยนการทำงานด้านการแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุทางถนน
นายณรงค์ จันทร์ทอง นายอำเภอจอมพระ กล่าวว่า พื้นที่มี 4 ตำบลเกิดอุบัติเหตุบ่อยสุด คือ ต.จอมพระ หนองสนิท เมืองลีงและ ต.เป็นสุข เนื่องจากเป็นถนนสายหลักผ่านไป จ.ร้อยเอ็ดและจังหวัดอื่น ๆ รวมทั้งทางผ่านไปสนามบิน อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ แค่ 2 ช่องทางไปกลับ จาก อ.จอมพระไป อ.สตึก ระยะทาง 40 กม. การจราจรคับคั่ง ปีที่ผ่านมามีอุบัติเหตุ 80 ครั้ง บาดเจ็บปีละ 1,000 คน เสียชีวิตปีละ 10 คน สาเหตุคนไม่ชินทาง เมาแล้วขับ ป้ายแสดงไม่ชัดเจน มีจุดเสี่ยง 27 จุด นอกจากนี้ยังมีอุบัติเหตุจากรถไถนา แก้ไขปัญหาในรูปคณะกรรมการได้ 24 จุด โดยเฉพาะรณรงค์สวมหมวกกันน็อก และจัดซื้อเครื่องตัดถ่างช่วยชีวิตคน ช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมาอุบัติเหตุในอำเภอเป็นศูนย์ เร็ว ๆ นี้จะเร่งแก้ไขจุดเสี่ยงที่เหลือคือสี่แยกบ้านโจรงเทศบาลตำบลกะหาด
นายสำรวล สุขแสวง รองผอ.แขวงทางหลวง จ.สุรินทร์ กล่าวว่า จุดเสี่ยงสี่แยกบ้านโจรง แขวงฯ ได้อนุมัติงบ 18 ล้าน สร้างเกาะกลางถนน 1 กม. กำลังประมูลหาผู้รับเหมาจะเริ่มสร้างเดือน พ.ย.นี้ ใช้เวลา 120 วัน ทั้งนี้เส้นทาง อ.จอมพระ ช่วงนี้ต้องระวังรถไถ และรถอีแต๊กเพราะเป็นช่วงทำนา ที่ผ่านมาเคยเกิดอุบัติเหตุรถยนต์ชนท้ายรถอีแต๊ก ช่วงเย็นเพราะเหล็กไถกินเลนถนน ทำให้รถที่ขับสวนมาปะทะเหล็กไถและไฟหน้าต่ำได้ออกมาตรการบังคับรถติดไฟกะพริบด้านหลัง หรือใช้แผ่นซีดี หากเกิดอุบัติเหตุรถไถนาไม่มีประกันผู้ขับขี่รถยนต์ต้องซ่อมรถเอง ไม่สามารถบังคับห้ามวิ่งบนถนนได้เพราะเป็นทางสัญจรในชุมชนที่ใช้กันมาตั้งแต่อดีต ดังนั้นพื้นที่อื่น ๆ ต้องระมัดระวังรถเกษตรกรด้วย
พล.ร.อ.ณรงค์ กล่าวว่า รัฐบาลยกปัญหาอุบัติเหตุเป็นวาระแห่งชาติ กลไกการทำงานของศูนย์ปฏิบัติการ ความปลอดภัยทางถนน(ศปถ.)ระดับอำเภอและ ศปถ.สุรินทร์เป็นโมเดลที่สามารถนำไปขยายผลต่อยอดให้ทั่วประเทศ