‘สังคมไทย ห่วงใย ใส่หมวกให้ลูกหลาน’

ที่มา : สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์ 


ภาพประกอบจากเว็บไซต์สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์ 


'สังคมไทย ห่วงใย ใส่หมวกให้ลูกหลาน' thaihealth


จังหวัดขอนแก่น เปิดโครงการสังคมไทยห่วงใยใส่หมวกให้ลูกหลาน รณรงค์ให้ผู้ปกครองตระหนักถึงความปลอดภัยในการสวมหมวกนิรภัยให้ลูกหลานเพื่อป้องกันอุบัติเหตุในท้องถนน


ณ ห้องประชุมประชาสโมสร 1 โรงแรมอวานี จังหวัดขอนแก่น ดร.สมศักดิ์ จังตระกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น เป็นประธานเปิดการประชุม โครงการสังคมไทยห่วงใยใส่หมวกให้ลูกหลาน จังหวัดขอนแก่น จัดโดยชมรมคนห่วงหัว มูลนิธิเมาไม่ขับ มีหัวหน้าหน่วยราชการ ผู้แทนภาคีเครือข่ายรณรงค์ลดอุบัติเหตุภาครัฐ ภาคเอกชนภาคประชาสังคม ภาคประชาชน สื่อมวลชน จังหวัดขอนแก่น ให้เกียรติร่วมประชุมกันเป็นจำนวนมาก


ดร.สมศักดิ์ จังตระกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า จังหวัดขอนแก่นเป็นจังหวัดที่มีการใช้รถจักรยานยนต์มากจังหวัดหนึ่ง พฤติกรรมที่น่าห่วงใยก็คือการไม่สวมหมวกนิรภัย โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กและเยาวชน เนื่องจากพ่อแม่ผู้ปกครองมีความเชื่อว่าการขับขี่รถจักรยานยนต์ไปส่งบุตรหลานระยะใกล้ๆ ไม่อันตรายอะไร ซึ่งถือเป็นความเข้าใจที่ผิด ซึ่งในทางกฎหมายการที่พ่อแม่ผู้ปกครองนำบุตรหลานนั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์แล้วไม่สวมหมวกนิรภัย ถือว่ามีความผิดตาม พรบ.จราจรทางบก มีโทษปรับไม่เกิน 500 บาท และพรบ.คุ้มครองเด็กมาตรา 26 (2) มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน ปรับไม่เกิน 30,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ  แต่ในทางปฏิบัติเป็นเรื่องยากที่จะสามารถบังคับใช้กฎหมายในการจับเด็กเยาวชนไม่สวมหมวกกันน็อคได้ จังหวัดขอนแก่นจึงได้ร่วมกับชมรมคนห่วงหัวในมูลนิธิเมาไม่ขับ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จัดประชุมโครงการสังคมไทยห่วงใยใส่หมวกให้ลูกหลานจังหวัดขอนแก่นขึ้น ทั้งนี้ โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อจะเชิญชวนชาวขอนแก่นทุกหมู่เหล่าร่วมกันระดมความคิดเห็น เพื่อหาแนวทางในการปกป้องความปลอดภัยของเด็กๆ ในจังหวัดขอนแก่นให้เกิดความปลอดภัย เมื่อต้องโดยสารรถจักรยานยนต์ และสามารถจัดหาหมวกนิรภัยให้เด็กทุกคนได้สวมใส่


นายแพทย์แท้จริง ศิริพานิช เลขาธิการชมรมคนห่วงหัวและเลขาธิการมูลนิธิเมาไม่ขับ เปิดเผยว่า เด็กเมื่อเกิดมาจำต้องได้รับการปกป้องดูแลจากพ่อแม่ผู้ปกครอง โดยพาไปฉีดวัคซีนป้องกันโรคจากบาดทะยัก โรคคอตีบ ไอกรน โปลิโอ ฯลฯ และถือเป็นหน้าที่ที่พ่อแม่ผู้ปกครองต้องทำไม่ว่าเด็กจะยินยอมหรือไม่ การจัดหาหมวกนิรภัยใส่ให้บุตรหลานเมื่อนำเขาซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ก็เหมือนกับการฉีดวัคซีนป้องกันศีรษะให้กับบุตรหลาน ไม่ว่าเด็กคนนั้นจะยินยอมหรือไม่ ถือเป็นหน้าที่สำคัญของพ่อแม่ผู้ปกครอง แต่ในความเป็นจริง ทุกวันนี้ พ่อแม่ผู้ปกครองละเลย ไม่ใส่ใจ ด้วยเหตุผลสารพัด ทำให้มีเด็กๆ นับล้านชีวิต ที่อยู่บนรถจักรยานยนต์มีความเสี่ยงที่จะได้รับการบาดเจ็บที่ศีรษะเสียชีวิต บาดเจ็บหรือพิการ ชมรมคนห่วงหัว จึงขอเชิญชวนชาวขอนแก่นมาร่วมแรง ร่วมใจกันหาแนวทางช่วยกันทำให้ลูกหลานชาวขอนแก่นปลอดภัย มีหมวกนิรภัยใส่ เพื่อลดความรุนแรงเมื่อเวลาเกิดอุบัติเหตุ บนท้องถนน

Shares:
QR Code :
QR Code