สสส.เรียนรู้จาก “มูลนิธิฉือจี้” สร้างระบบจิตอาสาในเมืองไทย


มูลนิธิฉือจี้ไต้หวันแลกเปลี่ยนประสบการณ์การทำงานร่วม สสส. “ทพ.กฤษดา”เล็งเรียนรู้จากมูลนิธิฉือจี้ขับเคลื่อนงานจิตอาสาในเมืองไทย 


เมื่อวันที่ 25สิงหาคม 2554ผู้แทนมูลนิธิฉือจี้ไต้หวัน (จากมหาวิทยาลัยพุทธฉือจี้ไต้หวัน) กับผู้แทนด้านสุขภาพประเทศไทย กระทรวงสาธารณสุข จัดแลกเปลี่ยนประสบการณ์หารืองานด้านสุขภาพร่วมกับสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ นพ.วิชัย โชควิวัฒน รองประธานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ กล่าวต้อนรับคณะดังกล่าว พร้อมกล่าวถึงความเป็นมาของการจัดตั้ง สสส.ในประเทศไทยที่มีต้นแบบมาจากออสเตรเลีย โดยเป็นการนำเงินที่ได้จากการจัดเก็บภาษีบุหรี่และเหล้ามาส่งเสริมสุขภาวะของสังคม ซึ่งไม่ได้เจาะจงเฉพาะเรื่องสุขภาพเท่านั้น แต่รวมถึงด้านอื่นๆ ด้วย อย่างไรก็ตามจากการมีโอกาสได้ไปเยือนมูลนิธิฉือจี้ไต้หวัน พบว่าทางมูลนิธิฯ ใช้เรื่องของจิตอาสาที่อุทิศต่อผู้อื่นได้อย่างดีมาก ซึ่งถือเป็นแรงบันดาลใจที่จะทำให้ สสส.ได้นำมาปรับใช้เพื่อสามารถเรียนรู้เดินตามจิตอาสาของฉือจี้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้


ทพ.กฤษดา เรืองอารีรัชต์ ผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ กล่าวว่า สิ่งที่ สสส.ต้องการเรียนรู้จากมูลนิธิฉือจี้ไต้หวันคือการสร้างจิตอาสา เนื่องจากในประเทศไทยนั้นผู้คนส่วนใหญ่มีจิตอาสา เห็นได้จากเหตุการณ์ภัยพิบัติที่เกิดขึ้นในแต่ละครั้งคนไทยจะออกมาช่วยเหลือกันอย่างรวดเร็ว แต่ไม่มียังไม่มีการจัดการอย่างเป็นระบบและต่อเนื่อง หากทางมูลนิธิฯ มาช่วยแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในเรื่องดังกล่าวก็จะทำให้กระบวนการจิตอาสาเติบโต นอกจากนี้อยากให้ประเทศไทยมีร้านอาหารมังสวิรัติขายอยู่ทั่วไป เพื่อให้หาซื้อได้ง่ายขึ้น


นอกจากนี้ทางคณะของฉือจี้ได้สาธิตวิธีการชงชา โดยสื่อถึงความหมาย วิถีชา วิถีธรรม โดยนายสุชน แซ่เฮง กรรมการอาสาสมัครของมูลนิธิฉือจี้ฯ กล่าวว่า วิถีชาของฉือจี้เป็นการเรียนรู้ถึงการต้อนรับขับสู้ต่อผู้มาเยือน วิถีชาสอนให้เรารู้จักจัดการชีวิตให้ช้าลง มีจิตที่สงบ สิ่งที่ได้รับจากวิถีชาฉือจี้ คือ ความจริง ความดี และความงาม ในเรื่องของความจริง คือการเติมใบชา น้ำ เพื่อผสมเป็นน้ำชาพร้อมกับระยะเวลาที่เหมาะสม สอนให้เรารู้ว่าต้องพอเหมาะพอดีต่อกัน เพื่อให้น้ำชาออกมามีรสชาติที่กลมกล่อม ความดี คือความกตัญญู หมายความว่า ขณะที่เราได้รับถ้วยชาใบหนึ่งมา จะสอนให้เราคิดหวนไปว่าใบชามีที่มาจากไหน เส้นทางก่อนจะมาเป็นชาเป็นอย่างไร ทำให้เราสำนึกถึงบุญคุณของบรรพบุรุษซึ่งนั่นคือความกตัญญู และสุดท้ายคือความงาม ถ้วยชาที่ใส่น้ำชาเมื่ออยู่ตรงหน้า นั่นคือความงาม แม้จะมีความแตกต่างกัน แต่ทุกสิ่งมีคุณค่าเช่นกัน


นอกจากนี้ทางคณะของมูลนิธิฉือจี้ยังได้นำมีการนำเสนอวีดิทัศน์ของมูลนิธิเพื่อทำความรู้จักกันให้มากขึ้น ก่อนจะมีการปรึกษาหารือแลกเปลี่ยนประสบการณ์ระหว่างผู้แทนจากมูลนิธิฉือจี้ไต้หวันกับ สสส.เกี่ยวกับการแนะนำสื่อฝึกทักษะชีวิต เพื่อป้องกันการเสพสารเสพติด แลกเปลี่ยนความรู้ประสบการณ์ และแนวคิดการประยุกต์ใช้สื่อในประเทศไทยร่วมกับภาคีเครือข่ายของ สสส.


 


 


ที่มา : สุนันทา สุขสุมิตร teamcontent www.thaihealth.or.th

Shares:
QR Code :
QR Code