สสส. ส่งเสริมการอ่าน ส่งต่อตู้หนังสือเพื่อน้อง

สสส. หนุน กทม. เมืองหนังสือโลก 2013 จัดแคมเปญรณรงค์ November Bangkok-Read for Health อ่าน (ยกกำลัง)สุข ส่งเสริมวัฒนธรรมการอ่าน และแบ่งปัน พร้อมส่งต่อตู้หนังสือเพื่อน้องในชุมชนใกล้เคียงศูนย์เรียนรู้ฯ และเพิ่มโอกาส 120 ชุมชน เข้าถึงหนังสือดี พุ่งเป้าสู่ กทม. เมือง 3 ดี อย่างยั่งยืน

เมื่อวันที่ 28 พ.ย. ที่อาคารศูนย์เรียนรู้สุขภาวะ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) แผนงานสื่อศิลปวัฒนธรรม และแผนงานสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่านจัดกิจกรรม “ศิลป์สร้างสุข : สร้างสรรค์ตู้หนังสือเพื่อน้องในชุมชน” ภายใต้โครงการ November Bangkok-Read for Health อ่าน (ยกกำลัง)สุข” ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในการรณรงค์เดือนแห่งการสร้างเสริมสุขภาวะ พร้อมมอบตู้หนังสือให้แก่ ชุมชนหน้าสมาคมธรรมศาสตร์ ชุมชนบ้านมั่นคง และชุมชนบ้านเอื้ออาทร เพื่อส่งเสริมวัฒนธรรมการอ่านและการแบ่งปัน

โดย ทพ.กฤษดา เรืองอารีย์รัชต์ ผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า ในโอกาสกรุงเทพมหานครได้รับประกาศเป็น “เมืองหนังสือโลก 2556” และ ในโอกาส “ครบรอบก่อตั้ง สสส.” ในเดือนพฤศจิกายนนี้ สสส. และภาคีเครือข่าย ได้จัดกิจกรรมกระตุ้นการอ่านตลอดทั้งเดือน ผ่านกิจกรรมสนับสนุนการอ่านเพื่อพัฒนาสู่ต้นแบบในการสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่านเพื่อสุขภาวะ 4 มิติ ทั้งกาย ใจ สังคม และปัญญา สำหรับกิจกรรม “ศิลป์สร้างสุข : สร้างสรรค์ตู้หนังสือเพื่อน้องในชุมชน” เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่เชื่อมโยงการอ่านและการแบ่งปัน สร้างวัฒนธรรมจิตอาสาให้เกิดขึ้นในบุคลากร สสส. และชุมชนโดยรอบ ผ่านการแบ่งปันหนังสือภาพ หนังสือนิทาน รวมถึงหนังสือเพื่อสุขภาพ และร่วมกันสร้างสรรค์ตู้วางหนังสือ ติดสติ๊กเกอร์ ระบายสี ตกแต่ง เพื่อส่งมอบให้ชุมชนโดยรอบและชุมชนอื่นๆ ใน กทม. จำนวน 120 พื้นที่ เพื่อเปิดโอกาสการเข้าถึงหนังสือสร้างสรรค์สำหรับเยาวชน

ด้าน รศ.ดร.วิลาสินี อดุลยานนท์ ผู้อำนวยการสำนักรณรงค์สื่อสารสังคม สสส. กล่าวว่า โครงการ November Bangkok-Read for Health อ่าน (ยกกำลัง)สุข เป็นการสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่านที่เป็นต้นแบบการอ่านเพื่อสุขภาวะ และมีการอบรมเชิงปฏิบัติการการอ่านเพื่อสุขภาวะในมิติต่างๆ ร่วมกับหน่วยงานรัฐ เอกชน ภาคีเครือข่ายการอ่านภาคประชาสังคม เพื่อให้เกิดแกนนำสร้างเสริมสุขภาวะด้วยการอ่านในระดับชุมชน และสังคมในวงกว้าง นอกจากนี้ยังเป็นการขับเคลื่อนกรุงเทพมหานครให้เป็น เมือง 3ดี คือ สื่อดี พื้นที่ดี ภูมิดีอย่างยั่งยืน

น.ส.สุดใจ พรหมเกิด ผู้จัดการแผนงานสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่าน สสส. กล่าวว่า การสำรวจการอ่านหนังสือของประชากร ปี 2554 ของสำนักงานสถิติแห่งชาติ เกี่ยวกับการอ่านหนังสือของประชากรนอกเวลาเรียน/นอกเวลาทำงาน ซึ่งรวมการอ่านหนังสือทุกประเภท และการอ่านทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ อาทิ อินเทอร์เน็ต ซีดี ฯลฯ ยกเว้น SMS หรือ E-mail พบว่า เด็กเล็กอายุต่ำกว่า 6 ปี ที่อ่านเองหรือผู้ใหญ่อ่านให้ฟังมีร้อยละ 53.5 เพิ่มจากปี 2551 ที่มีอัตราการอ่านหนังสือเพียงร้อยละ 36 สำหรับกลุ่มผู้ที่มีอายุ 6 ปีขึ้นไปมีอัตราการอ่านหนังสือเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อย จากร้อยละ 66.3 เป็นร้อยละ 68.6 ทั้งนี้ กลุ่มวัยเด็กมีอัตราการอ่านหนังสือสูงกว่าวัยอื่น รองลงมา คือ กลุ่มเยาวชน กลุ่มวัยทำงาน และกลุ่มวัยสูงอายุ

“ความถี่ของการอ่านหนังสือนอกเวลาเรียนของเด็กเล็ก เป็นเด็กที่อ่านหนังสือสัปดาห์ละ 2–3 วัน มากที่สุด ร้อยละ 42.0 เมื่อเฉลี่ยเวลาที่ใช้อ่านหนังสือนอกเวลาเรียนของเด็กเล็ก เฉลี่ย 26 นาทีต่อวัน เด็กเล็กที่อาศัยในเขตเทศบาลใช้เวลาอ่านหนังสือฯ มากกว่านอกเขตเทศบาล 28 นาที และ 25 นาที ตามลำดับ เด็กเล็กที่อาศัยในกรุงเทพฯ ใช้เวลาอ่านหนังสือฯ เฉลี่ยสูงสุด คือ 35 นาทีต่อวัน” นางสาวสุดใจ กล่าว

ขณะที่ นายดนัย หวังบุญชัย ผู้จัดการแผนงานสื่อศิลปวัฒนธรรมสร้างเสริมสุขภาพ สสส. ในฐานะเจ้าของแนวคิด กล่าวว่า ขอเชิญชวนคนไทยที่มีใจรักการอ่าน ชอบในงานศิลปะ และอยากทำงานจิตอาสามาลงมือ ลงแรง แต่งเพิ่ม เติมสี ให้กับวัสดุเหลือใช้ เช่น ตู้เย็นเก่า ตู้กับข้าวเก่า และชั้นวางของที่ไม่ใช้แล้ว  นำมาตกแต่งใหม่เป็นตู้หนังสือ เพื่อสร้างแรงบันดาลใจส่งเสริมการอ่าน เป็นการออกแบบเพื่อสร้างสุขให้กับผู้คน เมื่อนำไปส่งมอบให้ผู้รับ นอกจากจะเกิดความประทับใจแล้ว จะสร้างนิสัยอยากอ่านให้เกิดขึ้นได้ นอกจากนี้ จะมีการคัดเลือกหนังสือที่จะนำมาใส่ในตู้หนังสือด้วย เพื่อร่วมสนับสนุนให้กรุงเทพเป็นเมืองหนังสือโลกต่อไป

ทั้งนี้ ผู้ที่สนใจอยากมอบทั้งหนังสือและตู้หนังสือเหลือใช้ สามารถแจ้งความจำนงมาได้ที่ โทรศัพท์ 02-612-6996-7 ต่อ 101 หรือ ที่สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ ซอยงามดูพลี ที่เป็นจุดหลักในการตั้งตู้รับบริจาคหนังสือ หรือติดตามข้อมูลได้ www.artculture4health.com  และ www.facebook.com/art.culture4h โดยหนังสือที่ต้องการมากที่สุดเป็นหนังสือนิทานกับหนังสือการ์ตูนสำหรับเด็กเล็กและเด็กวัยเรียน

 

 

ที่มา : สำนักข่าวสร้างสุข

Shares:
QR Code :
QR Code